เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.63 ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พร้อม พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และพ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง ร่วมกันแถลงข่าวจับ 3 ผู้ต้องหาตระเวนลักเฉพาะรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ เท่านั้น พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะเข้าไปลักรถยนต์
ประกอบด้วย นายรุ่งโรจน์ สนั่นไหว อายุ 42 ปี อดีตช่างซ่อมรถยนต์ประจำศูนย์รถยนต์กระบะอีซูซุแห่งหนึ่ง ผู้เป็นสามี, น.ส.ลักษณะพร จันทร์โท อายุ 31 ปี ผู้เป็นภรรยา ทำหน้าที่ขับรถยนต์ที่ขโมยไปส่งให้ลูกค้าที่อู่, นายสมเดช บุญไทย อายุ 41 ปี เจ้าของอู่รถยนต์ ที่รับซื้อของโจร ในราคา 3 หมื่นบาท แล้วนำมาชำแหละเพื่อแยกชิ้นส่วนส่งขายให้กับลูกค้าตามอู่ซ่อมที่สั่งเข้ามา
ทั้งนี้ยึดของกลาง รถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุ ไขควงปากแบน 2 อัน ตะไบ 1 อัน ลูกกุญแจ 3 ดอกชิ้น คัสซีรถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ที่ขโมยมา 1 คันที่ชำแหละเพื่อรอส่งลูกค้า
ทั้งหมดให้การรับสารภาพ รับข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร
พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 กล่าวว่า นายรุ่งโรจน์ ผู้เป็นสามี ซึ่งมีความชำนาญในตัวรถยนต์กระบะอีซูซุ เนื่องจากอดีตเป็นช่างของศูนย์อีซูซุ มานานหลายปี จะใช้ไขควงและตะไบ 3 อัน ตระเวนไปกับ น.ส.ลักษณะพร เพื่อให้ช่วยขับรถยนต์ที่ลักออกจากที่เกิดเหตุ โดยหากพบว่ารถยนต์กระบะอีซูซุดีแมกซ์ จอดในที่เปลี่ยว ก็จะเข้าไปใช้ไขควง 3 อันงัดประตู แล้วก็เข้าไปต่อสายตรง ใช้เวลา 5 วินาที ก็สามารถเอารถไป หากคันไหนติดสัญญาณกันขโมย พอรถร้องก็หนี
เมื่อได้ก็เอารถไปส่งนายสมเดช ที่อู่ในราคา 3 หมื่นบาท จากนั้นนายสมเดช ก็จะให้ช่างของอู่ตัวเอง แยกชำและชิ้นส่วนเพื่อส่งให้กับลูกค้าตามอู่ที่ต้องการต่อไป ซึ่งทั้งหมดร่วมก่อเหตุกว่า 2 ปี คาดว่าได้รถยนต์ไปกว่า 10 คัน ซึ่งตระเวนก่อเหตุในหลายจังหวัด อาทิ จ.ระยอง จ.ชลบุรี จ.จันทบุรี และ จ.ตราด
พล.ต.ท.มนตรี ยังผากไปถึง ศูนย์รถยนต์กระบะว่า ขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหากุญแจ เพราะเหตุที่คนร้ายขโมยในครั้งนี้ ใช้เวลาแค่ 5 วินาทีเท่านั้น และขอให้เจ้าของรถ นำรถยนต์ไปติดสัญญาณกันขโมย เพราะคนร้ายได้ยินเสียงร้องก็จะหนีเอาตัวรอด ไม่เอารถไป
