"เปียเชอร์ คริสเต็นเซ็น" ผันตัวเป็นสาวชาวไร่ แต่ไม่คิดหันหลังให้วงการ

22 มิ.ย. 63

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว ในยุคที่คนเป็นดารา นักแสดงยังไม่มากมายเหมือนทุกวันนี้ "เปียเชอร์ คริสเต็นเซ็น" อดีตนางเอก นางแบบ หน้าลูกครึ่งไทย-เดนมาร์กที่หน้าคมและสวยสุดๆ เรียกว่าช่วงนั้นโด่งดังเป็นพลุแตก ตั้งแต่เป็นนางเอกเรื่องแรก จากนั้นก็อยู่หน้าจอมาตลอด แต่อยู่ๆ ก็หายหน้าจากจอไปพักใหญ่ จนแฟนๆ เกือบลืม ทางรายการ ต้มยำอมรินทร์ จึงได้เชิญนักแสดงสาวคนสวยที่แม้อายุจะเฉียดใกล้เลข 5 แต่ก็ยังสวยเป๊ะ!! เหมือนเดิม มาร่วมพูดคุยอัพเดทชีวิต ที่ล่าสุดผันตัวไปเป็นสาวชาวไร่แบบเต็มตัว พร้อมกับแก้ข่าวที่ว่ากำลังหันหลังให้วงการบันเทิงแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "แอน อังคณา" ขอกลับมาทวงบังลังก์ เซ็กซี่สตาร์คืน พร้อมเผยชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
- ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร! เปิดชีวิตสุดดราม่า "โซเฟีย" เคยคิดฆ่าตัวตายเพราะพิษรัก
- "ณวัฒน์" เคลียร์ชัด! ล็อคมง "มิสแกรนด์" จริงไหม?
- "โย่ง อาร์มแชร์" เผยโมเมนต์ความน่ารักของ "ส้มหยุด" ที่ทำให้หลง

- "เหลือเฟือ มกจ๊ก" เผยชีวิตนี้ขอยกให้ลูก มีความสุขกับการเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว

s__52559881

เปียเชอร์ : ไม่ได้ทิ้ง ไม่เคยคิดจะทิ้งเลยค่ะ ถ้ามีใครติดต่อมาแล้วถ้าเราว่างเราเล่นแน่นอน

เปียเชอร์ : เพราะเราเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 18-19 ปีค่ะ แต่จริงๆ มีคนมาติดต่อให้เราเข้าวงการตั้งแต่ 16 แต่ที่บ้านรู้สึกว่าเราเด็กเกินไป เราเป็นลูกครึ่งเดนมาร์ก-ไทยค่ะ เราเกิดที่เมืองไทย แต่พอตอน 10 ขวบเราก็ย้ายตามคุณพ่อเขากลับไปทำงานที่โน้น เราพูดไทยตั้งแต่แรกเลย แต่พูดเดนมาร์กไม่ได้ เลยต้องไปเริ่มต้นใหม่หมดเลย แต่ก็เพราะยังเด็กเลยเริ่มไม่ยาก 2 ปีเราก็สามารถพูดกับเพื่อนที่โน้นได้แล้ว

เปียเชอร์ : พอ 18 เราก็กลับมาไทย ลองทำงานในวงการบันเทิงดู คือช่วงแรกแบบ 2 เดือนแรก ทำไมไม่มีงานเลย จนเราต้องแคะกระปุกกินข้าว ต้องคำนวณว่า 100 บาททานยังไงให้ครบ 3 มื้อ แต่พอแคสงาน 2 เดือนที่ผ่านมาที่เรารอก็ได้หมดทุกงานที่เราได้ไปแคส งานก็ปังๆๆๆ มาเยอะมาก


ถาม เรียกเป็นเจ้าแม่พรีเซนเตอร์เลยในยุคนั้น

เปียเชอร์ : ใช่ค่ะ ในยุคนั้น ตอนนั้นเสียดายจังเนอะ ไม่ได้เงินเท่ากับในยุคนี้ เพราะสมัยนั้นเพิ่งบูม เราก็เป็นตัวตั้งตัวตีแรกๆ เลย ที่เราผลักดันค่าตัวให้แพงมากขึ้น ทำให้มีมาตาฐานมากขึ้น อย่างแรกเคยเรียกค่าแชมพูยี่ห้อหนึ่ง 7 หลักต้นๆ เขาก็บอกว่าทำไมถูกจังเลยคะ

เปียเชอร์ : เราก็เข้าวงการมาด้วยโฆษณาก่อน หนังใหญ่ แล้วก็มาละคร พลุแตกเลย


ถาม บทที่ได้ส่วนมากเป็นบทอะไร

เปียเชอร์ : ช่วงแรกๆ ก็ต้องนางเอก พอเล่นอยู่ได้สักพักเราก็ลองมาเล่นบทนางร้ายดู เราก็สลับไปสลับมาหลายๆ บท ถ้าถามว่าชอบบทไหน บอกไม่ได้ค่ะ ชอบบทที่ท้าทายมากกว่า อย่างเล่นเป็นคนตาบอด คนบ้า ก็จะสนุกกว่า หรือ นางเอกที่สู้คน ไม่ใช่หวานที่ถูกกระทำ


ถาม ในช่วงที่พลุแตก งานเพียบ แต่ทำไมรู้สึกว่าหายไป

เปียเชอร์ : ใช่ค่ะ คือบทบาทเริ่มน้อยลง เราก็เริ่มเบื่อ เราก็ไปทำเบื้องหลังกับซอนย่า สนุกมากเลยค่ะ เพราะเราได้คุยประสานงานกับคนเยอะมาก แล้วเราก็ไปทำรายการตอนนั้นก็มี จริงๆ เป็นคนชอบเบื้องหลังมาก เบื้องหน้าไม่ชอบ แต่งหน้าแล้วก็แต่งตัว เชอร์จะไม่แต่งหน้าเลยถ้าไม่ได้ออกไปไหน เพราะเวลาเราไปถ่ายแบบเดินแบบ เราก็จะแต่งหน้าเป็นประจำอยู่แล้ว

s__52559878

ถาม มีคนชอบจำสลับเรากับมาช่า

เปียเชอร์ : ใช่ค่ะ ตอนนั้นเพิ่งเริ่มดัง คนก็จะทักเราบอกว่า อุ้ย!! มาช่า เราก็ตอบกลับเขาไป ไม่ใช่จ้ะ ฉันเปียเชอร์ เพราะชื่อคล้ายๆ กัน ก็ตลกดีไม่มีอะไร เราก็ไปดูที่โปสเตอร์เขา สวยจังเลย เอาเราไปเปรียบเทียบก็ดีใจ


ถาม แปลว่าเราไม่ได้เป็นคนรักสวยรักงาม

เปียเชอร์ : ก็รักสวยรักงามนะคะ ก็อย่างเช่นเราออกกำลังกายเพราะเราอยากให้หุ่นดี ไม่อยากให้ร่างกายมีไขมันมากกว่า แต่จะมานั่งทำผมทำเล็บ ไม่ชอบ อย่างที่บอกเราเป็นคนลุยๆ ห้าวๆ


ถาม เพราะเป็นคนห้าวๆ ลุยๆ แบบนี้เลยหันหน้าเข้าไร่

เปียเชอร์ : ต้นไม้ก็มีชีวิตเหมือนกัน กับการที่เราอยู่กับต้นไม้ เราได้ออกซิเจนที่ดี แล้วต้นไม้เป็นสิ่งสวยงาม พอมันแตกใบออกผล ทำให้จิตใจเราเติมเต็ม ทำให้ชีวิตเรามันสมบูรณ์ดูมีค่า เหมือนตอนเด็กๆ เราจะอยู่ตามผับบาร์ แต่พอโตขึ้นเรารู้สึกว่าเราอยากอยู่กับธรรมชาติ ในที่สุดเราก็กลับไปเข้าสู่ธรรมชาติ มันจะดีต่อสุขภาพจิตของเรามาก

เปียเชอร์  :  ไปลุยปลูกมะรุม ฝักมะรุมที่เอามาทำแกงส้ม แต่ที่ทำแกงเป็นฝักอ่อนค่ะ แต่ถ้ามันแก่ข้างในจะมีเมล็ด สิ่งที่เราใช้มันคือ เมล็ดที่อยู่ข้างในค่ะ เราจะเอาไปหีบ คือ การม้วนอัดแน่นแล้วมันจะไหลออกมาเป็นน้ำมัน คือน้ำมันของมะรุมค่ะ เราสามารถเอาน้ำมันตัวนี้ออกมาทาหน้า ทาตา ทาผม เป็นน้ำมันสกัดที่มีคุณค่าเพราะเป็นการนำมาซึ่งธรรมชาติ จริงๆ ก็ทานได้นะคะ แต่ตัวนี้เราเอามาสำหรับทาค่ะ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่เราทำอยู่ตอนนี้ ชื่อ moringa project แปลว่า มะรุม นั่นเอง

s__52559883

เปียเชอร์  : พอเราเอาเมล็ดเขาสกัดแล้ว มันก็จะมีเป็นผงออกมาแบบนี้ เป็นกากมัน แล้วกากมันเนี่ย ก็จะมีน้ำมันอยู่ ซึ่งเราสามารถเอากากมันมาขัดตัวได้เป็นสครับ ก็จะมีวิตามินที่อยู่ในนี้ ซึ่งพอเรานำไปขัดตัวก็จะได้รับวิตามินนี้ด้วย ก็จะมีที่เราเอาไปบดแบบละเอียดเพื่อเราจะเอาไปสครับหน้าสครับตัวได้ ตอนนี้กำลังจะทำขายค่ะ เพิ่งเริ่มเลย มะรุม เราไม่มีอะไรผสมเลยนะคะ เป็นสิ่งที่สกัดมาจากธรรมชาติล้วนๆ เลย

เปียเชอร์  : คือเริ่มต้นมาจากเมื่อปีที่แล้ว อยากจะทำไร่ทำสวน แล้วน้ำมันมะรุม ปกติเราใช้อยู่แล้วมา 4-5 ปี เป็นของเพื่อนเราทำ  เริ่มมาจากหลานเป็นคนไม่ดื่มน้ำ แล้วปากเขาจะแห้ง แล้วแม่ของหลานเขาก็บอกว่าเนี่ยเอาน้ำมันมะรุม ทาที่ปากของเขาที่แห้ง แล้วมันมีรอยแดงขึ้นที่ปาก พอทาน้ำมันมะรุมหายเลย เราก็เลยรู้สึกว่าอยากลองใช้ เพราะจริงๆ เราใช้น้ำมันมะพร้าวอยู่แล้ว แต่พอเรามาใช้น้ำมันมะรุม รู้สึกมันซึมเร็วกว่า

เปียเชอร์ : พอเห็นว่าตัวเองใช้แล้วดีโอเค เราเลยคิดว่าเราน่าจะทำเป็นของตัวเอง เราก็เลยไปดูที่ ได้ที่ที่หัวหิน เส้นทางไปป่าละอู มีภูเขาสวยงาม เราแค่เช่าที่นะคะ ไม่ได้ซื้อ เราก็ลองปลูก 10 ไร่ แล้วผลคือออกมาดีมาก จริงๆ มะรุมโตง่าย ปลูกที่ไหนก็ได้ แต่ช่วงแรกที่ปลูก เขาจะไม่ชอบน้ำขัง แล้วแห้งมากก็ไม่ดี เขาชอบแบบกลางๆ เป็นต้นที่ไม่ได้ปลูกยากมากแต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ช่วงแรกๆ ก็ต้องดูแลเขาเหมือนเด็กๆ เลย แต่เขายืนต้นได้ 2 ปี เขารอดแล้วค่ะ

s__52559882

ถึงจะหายหน้าจากหน้าจอไปบ้างแต่ เปียเชอร์ นักแสดงคนสวยคนนี้ ยังคงทำงานเพื่อสังคมเพื่อประชาชนอยู่ตลอด สู้ ลุยเป็นจิตอาสาบริจาคสิ่งของอยู่เรื่อยๆ กับทางร่วมกตัญญู เรียกว่าไม่ใช่แค่สวยแค่กายเท่านั้น น้ำใจของเธอนั้นยังเหลือล้นอีกด้วย

advertisement

ข่าวยอดนิยม