ขอแสดงความยินดีกับว่าที่บัณฑิตอย่างหนุ่ม "ตั้ม วราวุธ" ด้วยนะครับ ที่ตอนนี้เตรียมจะเข้าพิธีรับปริญญาบัตรในปลายปีนี้แล้ว โดยเจ้าตัวก็ได้ประกาศบอกว่าตัวเองจบป.ตรีแล้ว ผ่านโลกโซเชี่ยล ทำให้คนแห่มาแสดงความยินดีแบบรัวๆ
วันนี้ (24 มิถุนายน 2563) ได้เจอหนุ่มตั้ม ก็เลยเข้าไปแสดงความยินดีด้วย เจ้าตัวก็บอกขอบคุณ พร้อมเล่าว่ากว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย เพราะเรียนนานถึง 6 ปี กับคณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลา แต่พอช่วงโควิด ก็ทำให้มีเวลามากขึ้น เรียกว่า โควิดทำให้ได้บัณฑิต โดยหลังจากนี้อาจจะต่อปริญญาโทเลย เพราะว่าได้ทุน ซึ่งก็อาจจะเป็นสายเดิม เพราะชอบด้านนี้ไปแล้ว วันหนึ่งถ้าเบื้องหน้าเบื่อตนแล้ว ตนจะได้ผันตัวไปอยู่เบื้องหลังได้ อย่างไรก็ตามหลังจากเรียนจบตนมีแพลนจะบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ และอาจจะแต่งเลย หลังสึก เพราะตนอยากมีลูกแล้ว
ยินดีกับบัณฑิตใหม่ด้วย ?
“ ขอบคุณมากครับ “
กี่ปี ?
“ ก็เหมือนเรียนแพทย์เลย ประมาณ 6 ปีได้ “
เรียนนานขนาดนั้นเลย ?
“ นานขนาดนั้น เราเรียนเรื่อยๆครับ เรียนควบคู่กับการทำงานไปด้วย จริงๆผมไม่ได้ซีเรียสหรือรีบขนาดนั้น เอาเท่าที่ไหว แต่พอดีช่วงโควิด เรามีการเรียนออนไลน์ แล้วได้หยุดพอดี ก็รีบเก็บให้หมด คือเป็นนิสิตรุ่นโควิด โควิดทำให้ได้บัณฑิตครับ “
ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว ?
“ ก็เหลือธีสิสอีกนิดหน่อยครับ แล้วก็เตรียมรับสิ้นปี “
จบ 100% ใช่ไหม ?
“ จบ 100% ครับ นิเทศศาสตร์ ม.รังสิตครับ “
ตอนที่รู้ว่าจบแล้ว 6 ปี เป็นยังไงบ้าง ?
“ ตอนแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอวันไปถ่ายรูปชุดคลุย ก็รู้สึกขนลุกที่ได้ใส่ชุดนี้ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา รู้สึกว่ามาถึงสักที ก็เลยลงรูป ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ดีใจเหมือนกัน จริงๆแล้วส่วนตัวผมเรื่องเรียนจบไม่จบไม่ซีเรียส แต่เราอยากให้พ่อแม่สบายใจ อยากให้แฟนคลับรู้สึกว่าศิลปินที่เราชื่นชอบเรียนจบ จะได้ไม่รู้สึกอายว่าศิลปินตัวเองเรียนไม่จบ แค่นั้นเอง ให้มีรูปกับแฟนคลับ พ่อแม่ และครอบครัว ครั้งหนึ่งในชีวิตแค่นั้นเอง “
แม่ว่ายังไงบ้าง ?
“ แม่น้ำตาจะไหล แม่บอกส่งควายเรียนจนสำเร็จ แม่ก็ดีใจ ก็เอารูปที่เราส่งให้ไปขึ้นเป็นพื้นหลังโทรศัพท์เลย ภาคภูมิใจ ตัดไปที่พ่อ พ่อเขามีรูปตอนรับปริญญา เขาเลยบอกความหล่อยังสู้พ่อไม่ได้ “
เกรดเท่าไหร่ ?
“ ยังไม่แน่ใจ ต้องรอตัวธีสิสออกด้วย แต่ว่าจบก็ดีแล้ว เรื่องเกรดไม่สนใจแล้ว แค่จบก็ประสบความสำเร็จแล้ว “
พอลงรูปทุกคนเข้าไปคอมเม้นต์แบบดีใจมาก ?
“ เหมือนเราได้แชมป์เดอะสตาร์ตอนแรกๆ คอมเม้นต์เยอะมากๆ คนไลค์พุ่งมากๆ ต่อจากนี้ลงไอจีอยากใส่ชุดครุยตลอด คือยอดดีมากๆครับ ทุกคนคงเห็นผมทำงานมานานแล้ว แล้วยังไม่มีภาพในการเรียนจบเกิดขึ้น บางคนก็ตกใจว่าเพิ่งจบหรอ นึกว่าจบตั้งแต่เข้าวงการแล้ว เพราะหน้าได้ ก็ดีใจทุกคนก็เข้ามาแสดงความยินดี ขอบคุณทุกคนมากๆ จะต่อโทไหม ก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน เพราะได้ทุน “
มองไว้ยังไงบ้าง ?
“ ก็มองว่าถ้าได้ทุน เขาให้โอกาสเรา ก็คงจะเรียนต่อไป แต่ว่าเราก็ไม่ได้เร่งรีบตัวเอง จบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น “
ไปสายไหนต่อ ?
“ สายเดิมเลยครับ วิทยุโทรทัศน์ “
ต่อยอดในวงการยังไง ?
“ จริงๆผมเป็นคนชอบวาไรตี้ เราก็อยากจะลองทำเบื้องหลังบ้าง อาจจะเป็นรายการ หรืออะไรที่ตัวเองชื่นชอบจริงๆ แล้วจริงๆแล้วเราก็มีอะไรแตกในหัวมากมาย จากประสบการณ์การทำงาน มันก็มีคิดคอนเทนท์ไว้บ้าง แต่ยังไม่มีโอกาสลงมือทำ คงสะสมวิชาจากการทำงานด้วย แล้วก็การเรียนหนังสือมาประกอบกัน อนาคตทางเบื้องหน้าเขาอาจจะเบื่อๆเราแล้ว เราก็อาจจะไปเบื้องหลังได้ แล้วก็เอาความรู้ไปประกอบกัน “
ใฝ่ฝันเป็นผู้กำกับ ?
“ คงไม่ใช่ผู้กำกับ ผมคงไม่ไปสายหนัง สายละคร ผมอยากทำรายการบันเทิง อยากทำวาไรตี้ “
ถามถึงเรื่องดราม่าของแก้ม ?
“เราในฐานะคนที่รู้จัก และเป็นพี่น้องที่รู้จักกันเราเข้าใจทุกอย่างว่า จริงๆ พี่แก้มเป็นยังไง รวมถึงเรามีการพิมพ์ข้อความส่งไป มีการโทรให้กำลังใจกัน แกก็เปราะบาง อย่างข่าวที่แกให้สัมภาษณ์ไป ก็ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น เราก็ให้กำลังใจ และพยายามให้แกคิดบวกว่าอย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นก็มีพี่น้อง คนที่รักอยู่ข้างๆ คอยดูแลจิตใจกัน ตอนนี้ก็ดีขึ้น พยายามบอกเขาว่าคนอื่นจะเข้าใจอย่างไรก็แล้วแต่ แต่คนรอบข้าง หรือคนที่รัก เข้าใจพี่แค่นั้นคือจบและตัวเรารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเจตนาเราคืออะไร เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องฟัง ให้มาบั่นทอนจิตใจ ทำงานต่อไป แล้วก็สร้างเสียงเพลง สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนต่อไปนางก็แฮปปี้”
แก๊งเราดูเซ็นเซอร์ทีฟ กับเรื่องโซเชียล เพราะ โดมก็โดน?
“ใช่ จริงๆ มันเซนเซอร์ทีฟ ตอนนี้โซเชียลเป็นอิทธิพลสำคัญ โชคดีที่ตัวเองก็ไม่ค่อยเล่นทวิตเตอร์ จะมีคนส่งมาให้ดู ถ้าผมเล่นทวิตเตอร์ก็อาจจะโดนด้วย เพราะว่าผมก็ชอบลั้นอยู่บ่อยๆเหมือนกัน(หัวเราะ) ถือว่าเป็นความโชคดี มันมีสองมุม สองด้าน ทางด้านศิลปินดารา เราอยู่ในที่สว่าง มันก็ต้องมีสติมากๆ ในการโพสต์อะไร มันจะได้ตรงนั้น ส่วนเรื่องจะจริงๆไม่จริง ไม่มีใครรู้หรอก ว่ากันไปด่ากันไป ก็พิมพ์กันไป ให้กำลังใจก็มี แต่ก็ดีๆแล้วกัน”
พูดคุยในแก๊งยังไง?
“เราคุยกันตลอด และให้กำลังใจกันตลอด บางทีเราเรื่องราวจริงๆ ไปพูดออกสื่อไม่ได้ เพราะว่ามันมีคนคิดต่าง ผมถือว่าเอาแค่คนรอบตัวเรา คนที่รักเรา ที่เขาเข้าใจเราก็พอ ไม่ใช่ว่าคนที่รักเราก็เกลียดเราไปด้วยแค่นั้นเอง”
เรียนจบแล้วจะแต่งงานเลยไหม?
“บวชก่อน ไปทีล่ะสเต็ป รับปริญญาเมื่อไรไม่รู้ แต่รับปริญญาปุ๊บ ก็วางแผนเรื่องบวช เอาที่ล่ะเปาะ บวชแล้วอาจจะแต่งงานเลยก็ได้ ไม่รู้ว่ายังไง เอาให้มันเป็นไปตามสเต็ปนี้แล้วกัน เอาตามที่ผู้ใหญ่สบายใจ ตัวผมลัดได้ จริงๆ อยากลัดมาก(หัวเราะ) แต่ก่อนเรียนจบไปเลย”
ได้ปรึกษาพ่อแม่หรือยัง?
“คิดเองเออเอง แต่ก็ทำตามสเต็ปเพื่อให้ผู้ใหญ่สบายใจ พ่อแม่เราก็สบายใจด้วย รวมถึงผู้ใหญ่ฝ่ายคนที่เขาคุยกับเราสบายใจด้วย
อันนี้เป็นแพลนในใจยังไม่ได้บอกใคร บอกพวกพี่เป็นคนแรก(หัวเราะ) แอบคิดไว้ในใจคนเดียว”
ไม่ได้บอกแฟนเราด้วย?
“ไม่ได้บอกคิดคนเดียวในใจ น่าจะรู้แล้วมั่ง(หัวเราะ)”
บอกแม่ไหมว่าเรียนจบแล้วเราอยากบวช แล้วก็แต่งงาน?
“ทุกคนรู้หมดว่าผมอยากมีลูก ผมชอบเด็ก อยากมีลูกเป็นเพื่อนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงิน อยากมีลูกเร็ว เพราะจะได้ไม่แก่เกินไป อยากจะไปเที่ยวกับลูก แต่เรื่องการงานมันก็ต้องควบคู่กันไป เราก็ต้องมีฐานะที่พร้อมด้วย ช่วงนี้เก็บโกยก่อนแล้วกัน เรื่องอนาคต จะสร้างครอบครัวกระเป๋าต้องแข็งแรงก่อน ถึงมีได้”
แสดงว่าเราคิดว่าแต่งงานอายุขนาดนี้ไม่แปลก ?
“ไม่แปลก สำหรับผมนะ สำหรับคนอื่นอาจจะแปลกรู้สึกว่าเร็วไป เรียกว่าต้องรักษาติตใจของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ แฟนคลับ แฟนเราเอย ผู้ใหญ่แฟนเราอีก ผู้ใหญ่ทางเรา รอให้ทุกอย่างมันพอดี น่าจะมีวันนั้นได้”