เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ นายชาญ หลาบโพธิ์ ตาของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า กรณีนายนริน ตนเองทราบเรื่องช่วงที่ค้นหาน้องชมพู่ ซึ่งตนได้ยินคนที่มาค้นหาบอกว่า มีคนเห็นรถจักรยานของนายนริน จอดอยู่ละแวกสวนยางพาราหลังบ้าน ส่วนตัวไม่ได้เห็นกับตาจึงไม่แน่ใจเช่นกันว่าเป็นอย่างไร
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ส่วนนางขวัญใจ ตนไม่แน่ใจว่าเห็นหรือไม่ เพราะบ้านอยู่ใกล้จุดดังกล่าว ตนยืนยันได้ว่าวันที่ค้นหาน้องชมพู่ ก็ไม่เห็นนายนรินจริง แต่หากมีรถเข้ามาจอดจริง ตนก็สงสัยเพราะปกตินายนริน ไม่เคยี่รถมาละแวกบ้านของน้องชมพู่
นายชาญ บอกว่า ที่ผ่านมาก็ไม่ได้คุยกับนายนริน มีเพียงเจอกันครั้งหนึ่งตอนที่ตนเข้าไปที่นา ซึ่งต้องเข้าไปทางซอยบ้านนายนริน จังหวะนั้นได้ทักทายกันเพราะขับรถสวนกัน ที่ผ่านมาตนกับนายนริน ก็ไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกัน ทั้งภายในครอบครัวและส่วนตัว ส่วนเรื่องน้องขวัญ ช่วงต้นปีทราบข่าวว่าเด็กมีอาการเจ็บท้องน้อย แม่ของน้องขวัญจึงพาเด็กไปหาหมอ ซึ่งหมอแจ้งว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ อวัยวะฉีกขาด ทำให้ตอนนั้นมีคนนึกไปถึงเด็กที่เป็นเพื่อนกันที่บ้านกกตูม นึกถึงพ่อของน้องขวัญบ้าง แต่สุดท้ายก็เงียบไป ไม่ได้มีการเอาผิดใคร ซึ่งแพทย์ก็แจ้งว่าให้ไปแจ้งความ แต่ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน
น้องขวัญ ตอนแรกซึม ๆ แต่เวลาผ่านไปก็เริ่มดีขึ้น ซึ่งนายนริน ปกติไม่ค่อยออกจากบ้าน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องการกระทำชำเรา จะมีเพียงประวัติเกี่ยวยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งนี้ทีมข่าวไปที่บ้านนายนริน พบช่วงเช้าไม่มีคนอยู่ แต่พบรถจักรยานของบ้านนายนรินจอดอยู่ 2 คัน โดยชาวบ้านยืนยันว่า รถคันที่น้ำเงิน เป็นรถของนายนริน
สำหรับความสัมพันธ์ นายนริน กับคนในชุมชน ได้แก่ พ่อแม่ของชมพู่ ลุงไชย์พล ป้าแต๋น และตายายของน้องชมพู่ บอกว่ารู้จักนายนริน แต่ไม่ถึงกับสนิท
นอกจากนี้ แก๊งจำปาใหญ่และแก๊งจำปาเล็ก นางจพลอง และนายพิศนุพร ให้ข้อมูลว่ารู้จักนายนริน แต่ไม่สนิท
ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านน้องชมพู่ หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้พบกับ นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบว่าการที่นายนรินถูกจับไปจะมีความเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ตนไม่เคยคิดสงสัยในตัวของนายนรินมาก่อน แม้เขาจะถูกจับในข้อหาอนาจาร ตนก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่หรือไม่ มองจากภาพรวมแล้วก็ขอให้ขึ้นอยู่กับตำรวจ เพราะที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกับนายนริน เคยทักทายกันในฐานะคนในหมู่บ้านทั่วไป เพราะนายนรินก็ไม่ค่อยเข้ามาในบริเวณละแวกซอยบ้านตนมากนัก และไม่เคยมายุ่งเกี่ยวหรือเข้าใกล้น้องชมพู่เลย
นายอนามัย ยังบอกอีกว่า กรณีมีคนเคยเห็นรถจักรยานในสวนยางนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับนายนรินหรือไม่ ถ้าวันหนึ่งออกหมายจับนายนรินในคดีน้องชมพู่ ตนก็ไม่อยากแสดงความคิดเห็นในตอนนี้ต้องรอให้วันนั้นมาถึงก่อน ถ้าผลที่ออกมาเป็นหมายจับนายนริน ตนก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่น้องชมพู่หายไป ตนก็จำไม่ได้ว่านายนรินได้มาช่วยตามหาน้องชมพู่หรือไม่ เพราะในช่วงที่ตามหาจำนวนผู้คนค่อนข้างมาก และไม่รู้ว่านายนริน ขึ้นเขาตามหาด้วยหรือไม่ เพราะตนเห็นแค่ภรรยาของนายนริน ที่มาช่วยตามหาเท่านั้น
นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายนริน ตนไม่ทราบว่านายนรินไปก่อเหตุอะไร ที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนดี ชอบไปหาของป่าตามนิสัยของชาวบ้านทั่วไป ซึ่งตนก็เคยไปล่าสัตว์บนเขาด้วยกัน แต่นานมาแล้ว และในช่วงรอยต่อวันที่ 11-13 พ.ค.63 ตนไม่ได้สังเกตว่านายนรินอยู่ที่ไหน