แม่ผัวร่ำไห้ ช็อกลูกชายราดน้ำกรดใส่สะใภ้ เผยพูดเป็นลาง “ไม่บวชก็คงอยู่คุก” (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "อา ลีฟ" ได้โพสต์ภาพ และข้อความเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุว่า พี่สาวถูกสาดน้ำกรด ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยฝ่ายชายไม่ยอมเลิกลากับพี่สาว มาตามง้อถึงที่ทำงาน แต่พี่สาวไม่ยอมคืนดี จึงถูกฝ่ายชายสาดน้ำกรดใส่ใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ (15 ธ.ค.60) น.ส.ดวงเดือน แสนรักษ์ น้องสาวนางสายใจผู้เสียหาย เล่าว่า เพื่อนที่ทำงานของพี่สาวโทรมาบอกว่า เกิดเหตุตอน 16.00น. และได้ให้รถกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาล ตนจึงได้มาแจ้งความ ส่วนชื่อผู้ก่อเหตุตนทราบแล้วว่าเป็นนายทวีศักดิ์ งามสนิท หรือ "เอก" เพราะพี่สาวเลิกกับแฟนคนนี้ไปแล้ว ผู้ก่อเหตุได้ตามมาราวีที่บ้าน สาเหตุเพราะเคยถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน แล้วพี่สาวได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน

น.ส.ดวงเดือนเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมาดักฉุดพี่สาวและได้แจ้งความไว้แล้ว วันเกิดเหตุช่วงเช้าได้เขียนจดหมายมาหาพี่สาวและชวนไปหาแม่ผู้ก่อเหตุด้วยกัน ช่วงเวลาก่อเหตุจึงได้เดินทางมาอีกครั้งและก่อเหตุขึ้น ตนไม่ติดว่าจะเอาน้ำกรดสาด มีการล็อคตัวพี่สาวและราดน้ำกรด ตอนนี้พี่สาวได้ส่งไปอีกโรงพยาบาลเนื่องจากตามีอาการสาหัส ส่วนตัวตนไม่รู้จักผู้ก่อเหตุ ทราบว่าไม่มีงานทำและน่าจะติดยาด้วย เบื้องต้นพี่สาวตนใช้สิทธิประกันสังคมในการรักษาตัว โดยค่ารักษาหลายแสนบาทแล้ว

ทั้งนี้ มีภาพวงจรปิดวันเกิดเหตุเป็นหลักฐาน ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ขณะนายเอก ใส่เสื้อแขนสั้นสีชมพู กางเกงขายาวสีดำ กำลังวิ่งหนีหลังก่อเหตุราดน้ำกรดใส่ผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายได้เดินออกมาจากด้านหลังชั้นวางของเพื่อขอความช่วยเหลือ

ด้าน น.ส.วิไลวรรณ แซ่โซว อายุ 26 ปี เพื่อนร่วมงานนางสายใจ และอยู่ในขณะเกิดเหตุ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเขามาง้อผู้เสียหาย โดยผู้ก่อเหตุได้เดินมาหาตนเพื่อให้ไปบอกผู้เสียหายให้แยกออกมาอยู่คนเดียว ตนจึงบอกไปว่าเขาไม่มาหรอก จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินไปหาผู้เสียหายเพื่อง้อและเดินวนไปวนมารอบแผนกและเดินกลับมาที่โต๊ะคอม ผู้เสียหายจึงได้หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยให้เบอร์ไว้ ในระหว่างที่ดูเบอร์จะโทร ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปล็อคคอและพูดว่า "ใจกูขอโทษ" จากนั้นได้เทน้ำกรดใส่หัว ก่อนที่จะวิ่งหนีไป สาเหตุน่าจะเรื่องที่ผู้เสียหายเคยไปอาละวาดที่บ้าน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ซอยวัดคลองเจ้า อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี  พบ นางณู (นามสมมติ) พี่สาวของนายเอก  เล่าว่า นายเอกคบหากับนางสายใจ ประมาณ 9 เดือน โดยช่วง 4 เดือนหลัง นายเอกได้พานางสายใจ มาอยู่ด้วยกันกับครอบครัวของตน นิสัยของนางสายใจเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี ขยันทำงาน แต่ติดโทรศัพท์ ด่าเก่งและชอบดื่มเหล้า ซึ่งเป็นนิสัยที่นายเอก ไม่ชอบ ช่วงแรกๆ ที่คบหาดูใจกัน นายเอกโกหกนางสายใจว่าที่บ้านฐานะดี และเป็นคนดีคอยเลี้ยงดูแม่ แต่ภายหลังที่นางสายใจรู้ความจริงว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น นางสายใจก็ไม่ได้โกรธเคือง ทั้งยังรับในตัวนายเอกและครอบครัวได้

นางณู ยังเล่าว่า น้องชายเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบด่านางสายใจ แล้วค่อยมาตามง้อ ทั้งคู่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นนายเอกนำยากันยุงฉีดหัวนางสายใจ และเคยทุบรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ให้นางสายใจขี่รถไปทำงานได้ เพียงเพราะกลัวว่านางสายใจจะแวะไปหาเพื่อน ในระยะหลัง นางสายใจเคยมาบ่นกับนางณูว่า มักมีปัญหาเรื่องเงินกับนายเอก เพราะนายเอกใช้เงินเก่ง และเคยมีปัญหาเรื่องหึงหวง จนนายเอกตามบล็อคเพื่อนในเฟซบุ๊กกับไลน์ส่วนตัวของนางสายใจอีกด้วย ก่อนเกิดเหตุ นายเอกชวนนางสายใจไปกินก๋วยเตี๋ยว อ้างว่าจะเลี้ยง ขณะนั้นนางสายใจมีเงินติดตัวเพียง 300 บาท ซึ่งต้องใช้ทั้งสัปดาห์ แต่นายเอกก็ให้นางสายใจจ่ายเงินให้ ทำให้นางสายใจโกรธ กลับมาบ้านก็นั่งกินเหล้า ร้องไห้ และไม่พูดกับใคร ตอนเช้านางสายใจลางานเพราะตาบวม และอยู่บ้านกินเหล้า ตกบ่าย นางสายใจเริ่มทำลายข้าวของในบ้าน โดยนายเอกได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ทำให้นางสายใจโมโห หยิบมีดจะไล่แทงนายเอก เขวี้ยงโทรทัศน์ และผลักพัดลม ถีบรถมอเตอร์ไซต์ ทำให้แม่นายเอกโมโหนางสายใจมาก จึงขู่ไปว่าจะเอาตำรวจมาจับ นางสายใจจึงหนีออกจากบ้านไป หลังจากนั้น ประมาณ 1 สัปดาห์ นางสายใจจึงกลับมาเก็บของ ช่วงนั้นนายเอกทำทีท่าสบายใจที่ภรรยาหนีออกจากบ้านไป แต่พอคิดได้ นายเอกก็เริ่มเครียดและกลับไปง้อนางสายใจถึงที่ทำงาน แต่นางสายใจไม่คุยด้วย อีกทั้งยังวิ่งหนี นายเอกจึงบ่นกับครอบครัวในวันสุดท้าย ก่อนเกิดเหตุที่จะไปง้อนางสายใจว่า "อาจจะไม่ได้กลับบ้าน ตนขาดสายใจไม่ได้" อีกทั้งยังพูดทำนองว่า "ไม่อยากอยู่ ถ้าสายใจไม่กลับมา ตนก็อาจจะบวช หรือไม่ก็อยู่ในคุก"

ด้านนางทองใบ แย้มแพ แม่ของนายเอก เล่าว่า วันที่เจอเจอนางสายใจเขวี้ยงของในบ้าน ตนเลยดุนางสายใจว่าจะไปไหนก็ไปเถอะ แต่ภายหลังตนกับนายเสกพี่ชายนายเอกก็ตามไปง้อ แต่นางสายใจก็ไม่ยอมคืนดี นางทองใบยังตัดพ้อให้ทีมข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ตนรักนางสายใจยิ่งกว่าลูก นางสายใจเรียกหาตนว่าแม่อยู่เสมอ ตนรักนางสายใจ ไม่เคยเกลียดชังเลยสักครั้ง อยากจะไปเยี่ยมนางสายใจ แต่ไม่รู้จะไปยังไง เงินทองตนก็ไม่มี ตนเองก็เสียใจที่ลูกชายทำแบบนั้นกับสะใภ้ ทั้งเคยด่านายเอกในช่วงที่ตามง้อว่า ให้ไปหางานทำ แต่นายเอกก็วู่วาม ซึ่งขณะนี้ตนก็ยังติดต่อกับนายเอกไม่ได้ อยากให้ลูกชายมามอบตัว ตนไม่รู้ว่านายเอกจะคิดสั้นหรือไม่ นางทองใบยังฝากไปทางครอบครัวของนางสายใจด้วยว่า "ขอโทษ ในสิ่งที่ลูกชายทำ"

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 15 ธ.ค. นายเอกได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สมุทร เกตุยา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แต่นายทวีศักดิ์ได้ใช้น้ำกรดราดหน้า แล้วซดยาฆ่าแมลงเข้าไป จึงมีอาการอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ตำรวจจึงต้องเรียกรถกู้ชีพ รพ.บางบัวทอง มารับตัวไปรักษา พร้อมอายัดตัวและให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคอยเฝ้าไว้ หากอาการปลอดภัยเมื่อไหร่ ก็จะทำการสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฏหมาย