จากกรณีการหายตัวของ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี ตั้งแต่ 11 พ.ค.63 ซึ่งครอบครัวเร่งออกค้นหาจนกระทั่งพบศพอยู่กลางป่า บนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กิโลเมตร และล่าสุดนายนริน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยถูกจับในคดีอนาจารเด็กหญิง 5 ขวบ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพร้อมกับนายไชย์พล วิภา นางสมพร หลาบโพธิ์ น้องโอม และน้องน้ำมนต์ ลูกของลุงไชย์พล ซึ่งเดินทางมาที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เพื่อมาที่บ้านเกิด เนื่องจากบิดาของลุงไชย์พล เพิ่งเดินทางกลับมาถึงบ้านเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 มิ.ย.63
เมื่อมาถึง ลุงไชย์พลก็นั่งพูดคุยกับครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันประมาณ 6 เดือน โดยนายผ่อง วิภา ผู้เป็นพ่อ เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้เจอกับลูกราว 6 เดือน ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ซึ่งล่าสุดได้คุยกันราว 1 ครั้งตั้งแต่มีเรื่อง ตอนนั้นได้ถามเรื่องราวว่าเป็นอย่างไร ซึ่งลูกขายก็ยืนยันกับพ่อว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้ก่อเหตุ ไม่ต้องกังวลอะไร และลูกชายบอกกับตนว่า ”ไม่อยากให้หลานตายฟรี”
ส่วนตัวไม่ได้ห่วงอะไรมาก ลูกชายก็โตแล้ว เชื่อมั่นใจลูกชาย หลังจากเห็นลูกถูกค้นบ้าน ตนไม่ได้คิดมากอะไร ตนขำมากกว่า เพราะตำรวจก็คงทำงานแบบนี้อยู่แล้ว ลูกชายคนนี้เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้ว หลายคนสอบถามอะไร ๆ ลูกชายก็มักช่วยเหลือ ตนพูดได้เลยว่าลูกชายไม่มีทางก่อเหตุ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่เด็กเป็นคนดี หากวันหนึ่งถูกหมายจับ ตนไม่ได้คิดจะประกันตัว คนผิดก็ต้องรับผิด โทษที่ก่อเหตุถึงขั้นประหารชีวิต ช่วงแรก ๆ ลูกชายอาจจะเสียหลัก เพราะเหมือนทำดีไม่ได้ดี ตนก็ให้กำลังใจลูก บอกไม่ต้องห่วงหากไม่ได้ทำผิด ส่วนเรื่องเด็กไปตายบนภูเอง ตนคิดว่าไม่มีทางเดินไปได้ เพราะไกลเกินไป หากจะเป็นผีสาง เจ้าที่เอาไป ตนก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้
นางภา วิภา มารดาของลุงไชย์พล เปิดเผยว่า ตนสบายใจขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะลูกก็ดูสบายใจขึ้น ที่ผ่านมาก็ติดตามข่าวมาเป็นระยะ ๆ เพราะเป็นห่วงลูกชาย ตนยังมั่นใจในตัวลูกชาย เชื่อว่าไม่ใช่คนร้าย และที่ลูกชายออกตัวออกหน้าตลอด เพราะรักหลานคนนี้มาก
จากนั้นลุงไชย์พล ได้เข้ามากราบพ่อและแม่ ก่อนจะโอบกอด ซึ่งพ่อแม่มีการให้พรลุงไชย์พล ระบุว่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ไม่ต้องกังวล อีก 10 ปี 20 ปี คนผิดต้องได้รับโทษ หากตัวเองไม่ได้ทำก็จงมั่นใจ ไม่ต้องกังวล ซึ่งลุงไชย์พล น้ำตาคลอที่ได้มีโอกาสกลับมาหาพ่อแม่ ป้าแต๋นและลูก ๆ ก็ได้เข้ากราบปู่กับย่าเช่นกัน ซึ่งปู่ย่าก็ให้พร ให้เติบโตเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อแม่
นายไชย์พล เปิดเผยว่า ตนตั้งใจเดินทางมาหาพ่อ หลังจากทราบว่าพ่อเพิ่งเดินทางกลับมาจากชลบุรี ซึ่งตนตั้งใจเดินทางมา โดยไม่ได้เจอกันนาน พ่อเองก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตนก็มีกำลังใจมากขึ้นหลังจากได้เจอพ่อแม่ ซึ่งพ่อเองอาจจะไม่ได้ให้พร ซึ่งบอกว่าผิดว่าไปตามผิด ใครทำต้องได้รับโทษ คนทำมีโทษถึงประหารชีวิต
ทั้งนี้ยอมรับว่าตนเป็นห่วงหลานมาก ทำให้สิ่งที่แสดงออกไป อาจจะทำให้คนจับผิดว่าตนออกนอกหน้าเกินไป แต่ตนทำไปเพราะรักหลาน ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
ก่อนกลับ ลุงไชย์พลได้ให้สลากกินแบ่งรัฐบาลกับแม่ 3 ใบ ได้แก่ 234030 / 278240 / 904580 จากนั้นลุงไชย์พล มาเดินตลาดสดเทศบาลตำบลวานรนิวาส ซึ่งเมื่อมาถึงได้รับกำลังใจจำนวนมาก มีคนมาขอถ่ายรูป และจับมือให้กำลังใจ
ชาวบ้านยังให้ลุงไชย์พล เขียนเลขหวังได้โชค ซึ่งลุงไชย์พลเขียนเลขให้คือ 748 และ 72 เมื่อชาวบ้านใน จ.สกลนคร พบเจอลุงไชย์พลแล้ว จึงแนะนำให้เดินทางมาพบหมอธรรมคนหนึ่ง ในจังหวัดสกลนคร ซึ่งชื่อว่า "หมอเชียงบัว" เมื่อทีมข่าวมาถึงได้ให้แต่งขันธ์ 5 ก่อนวางขันธ์เพื่อดูหาเบาะแสคนร้าย หลังจากหมอธรรมรับขันธ์แล้ว ได้แตะไปที่เหรียญบาท ซึ่งใช้แทนเงินแดงสมัยก่อน จากนั้นหยิบเหรียญขึ้นมาทาบไว้ที่หน้าอก และสวดบทต่าง ๆ
จากนั้นมีการหยิบขันธ์ขึ้นสวดเพื่อให้เปิดทางธรรม และได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น หมอธรรมใช้เวลาสวด ประมาณ 5 นาที ปรากฎว่าพยายามมองเท่าไรก็มองไม่เห็นคนร้าย หมอธรรมเชียงบัว ระบุว่า "เดี๋ยวจะลองเรียกธรรมอีกครั้ง" ปรากฏเมื่อมีการยกขันธ์ 5 อีกครั้ง ก็ไม่สามารถดูอะไรได้
โดยหมอธรรม ระบุว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้ดูไม่ได้ วันนี้เป็นวันพระ ที่ปกติจะไม่มีการทำพิธี รวมถึงเรื่องที่ให้ค้นหาเป็นเรื่องที่ตนไม่เคยทำ ทำให้ไม่สามารถดูให้ได้