จากกรณีนักร้องฝาแฝดวัยใส อายุ 10 ขวบ "น้องอั้ม ช่อว่าน-น้องอุ้ม ใบเฟิร์น ไผ่ร้อยกอ" ถูกเกรียนคีย์บอร์ดรายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า “บางกอก เรดิโอ” เข้ามาคอมเมนต์ป่วนใต้ MV เพลง “TIKTOK บอกเพื่อน” ในช่องยูทูปของต้นสังกัดว่า “ไม่เห็นจะดัง ปั๊มยอดวิวกี่บาทอะคับ555”
หลังจากนั้นนักร้องสาวที่สนิทกับน้องทั้ง 2 คนอย่าง “บูม ชญาภา” หรือลูกสาวของอดีตนักแสดงตลก “ชูศรี เชิญยิ้ม” เข้ามาเห็นจึงคอมเมนต์ตอบโต้กลับไปว่า “อวตาน แค่จะเข้ามาติยังไม่กล้า เอาตัวจริงเข้ามาตำหนิเลย สงสารพ่อแม่ มีลูกขี้อิจฉา ชอบป่วนตนอื่นแบบลับหลัง ไม่กล้าซึ่งๆหน้า ทำไม กลัวโดนแฉบ้างเหรอ 555 ไม่ต้องตอบกลับมานะ กลัว”
งานนี้อีกฝั่งก็ตอบกลับมาแบบรัวทำนองว่าติดตามค่ายเพลงนี้มานาน และการเข้ามาแสดงความคิดเห็นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก ถ้าไม่อยากให้คนติก็ปิดกั้นความคิดเห็นไปเลย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทาง “บูม ชญาภา” ก็ได้มีการสืบต้นตอของคอมเมนต์ แล้วปรากฎว่าเป็นชื่อของแอดมินเพจ “บางกอก เรดิโอ” ในเวลาต่อมาจึงพยายามค้นหาช่องทางติดต่อไปยังเพจดังเกล่า แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า นั่นไม่ใช่เพจจริง เป็นการปลอมข้อมูลแล้วนำไปก่อกวนนั่นเอง
ทำให้ครูเพลงอย่าง "พยัพ คำพันธุ์" ถึงกับลั่นจะเอาเรื่องผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุดเหตุ เพราะมองว่านี่เป็นการก่อกวนศิลปินรูปแบบหนึ่ง
ล่าสุดวันนี้ (29 มิถุนายน 2563) "น้องอั้ม-น้องอุ้ม" พร้อมคุณแม่ และ “บูม ชญาภา” พร้อมแอดมินเพจ “บางกอก เรดิโอ” จึงโร่เข้าแจ้งความกับ “พ.ต.อ. อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อดำเนินคดีสืบหาผู้กระทำความผิด
ด้านของ “ขวัญจิรา บัวคง” คุณแม่ของน้อง ๆ ศิลปินบอกว่า คอมเมนต์ที่เข้ามากล่าวหาว่า ตนปั๊มยอดวิวเป็นสิ่งที่ทำให้เสียความรู้สึกมากๆ ซึ่งในแผนการทำงานของตนไม่มีนโยบายซื้อยอดวิว แต่ยอมรับว่าจะมีเพียงแค่ซื้อโฆษณาเพื่อเป็นช่องทางในการกระจายผลงานให้เป็นที่รู้จักกว้างขึ้นก็เท่านั้น ทาง “บูม ชญาภา” จึงเห็นและรู้สึกไม่พอใจเพราะด้วยความตั้งใจของเด็ก ๆ ทั้ง 2 คนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่สมควรที่จะได้รับผลตอบกลับแบบนี้
หลังจากนั้นเมื่อ “พิสุทธิ์ ชัยสงคราม” กรรมการบริษัท “บางกอก เรดิโอ” รู้ว่าตนโดนแอบอ้างชื่อบริษัทไปกระทำเช่นนี้ ซึ่งส่งผลเสียแก่ชื่อเสียงของบริษัทแน่นอน จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจใกล้เคียงทันที พร้อมกับการปรึกษา “บูม ชญาภา” ว่าควรมาดำเนินคดีกับ DSI เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่มีให้กันทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะเดียวกัน “บูม ชญาภา” ก็พูดถึงเหตุการณ์คอมเมนต์การโต้ตอบในยูทูปกับผู้กระทำผิดว่าด้วยความที่อุปนิสัยของตนเป็นคนชอบเจาะหาข้อเท็จจริงอยู่แล้ว จึงเจอเบอร์โทรและติดต่อไปจนรู้ความจริง พร้อมกับเล่าว่าก่อนหน้านี้หนึ่งในศิลปิน 2 คนนี้เคยทำเพลงออกมาครั้งหนึ่งแต่กลับโดนลบออกจากช่อง ทำให้เกิดความเสียใจแก่ตัวเด็กมาก มองว่านี่เป็นอีกครั้งที่อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของน้องอุ้ม-น้องอั้ม เพราะกว่าเขาจะผ่านช่างฝึกฝนมาได้ต้องใช้ความพยายามเยอะมาก จึงไม่อยากให้ความตั้งใจของน้องต้องมาเสียเปล่าเพราะแค่คอมเมนต์แบบนี้
สุดท้ายคุณแม่ ก็เผยความรู้สึกด้วยอาการน้ำตาคลอเบ้าว่าตนสงสารลูกมาก เพราะหลังจากที่น้องเห็นคอมเมนต์และโดนคนรอบข้างถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ก็เกิดคำถามต่าง ๆ นานา กับคุณแม่ว่าตนทำผิดอะไร แก่แดดตรงไหน ทั้ง ๆ ที่คอสตูมและเนื้อหาเพลงก็เหมาะสมตามวัย ถึงขั้นที่แอบตัดใจไม่ขอทำเพลงต่อ จนคนเป็นแม่ก็ฉุกคิดขึ้นมาหรือสิ่งที่ตนสนับสนุนลูกเป็นเรื่องที่ผิดพลาด แต่วันนี้ตนสบายใจขึ้นเยอะมาก เพราะทางรองคณบดีกรมสอบสวนพิเศษได้รับปากกับเธอว่าจะสืบหาผู้กระทำผิดให้จนได้ อย่างน้อยจะได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่น