เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 เวลา 06.00 น. นายนริน เชื้อคมตา นางชนาภา ภรรยา พร้อมด้วยญาติของนายนริน ได้รอใส่บาตรที่ถนนหน้าบ้านของนางแย้ม พี่สาวของนายนริน โดยนายนรินได้ยืนคู่กับนางแย้มพี่สาว แล้วยกกระติบข้าวขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนหยิบข้าวเหนียวใส่บาตรให้กับพระสงฆ์ จำนวน 6 รูป
หลังจากใส่บาตรนายนรินได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ในการใส่บาตรครั้งแรก หลังจากที่ออกจากเรือนจำ จากนั้นภรรยาพร้อมญาติ ก็ได้เตรียมสายสิญจน์ให้กับญาติ และชาวบ้าน ที่มาผู้กข้อมือ เรียกขวัญกำลังใจ ให้กับนายนรินหลังจากที่ออกมาจากเรือนจำ
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ต่อมาเวลา 06.30 น. หลังจากที่นายนรินใส่บาตรเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายค้นเข้าค้นบ้านนายนริน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับนางชนาภา ภรรยาของนายนรินอยู่ที่หน้าบ้าน ประมาณ 3 นาที ก่อนเข้าค้นทุกจุดในบ้าน ทั้งในตัวบ้านชั้นล่าง ชั้นบนของบ้าน ในห้องน้ำ บริเวณบ้าน แต่ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าไปในบ้าน
โดยจุดประสงค์ในการค้นวันนี้ มุ่งเน้นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องยาเสพติด เนื่องจากเป็นอีก 1 ประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ในปมการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งที่บ้านของนายนริน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น ประมาณ 1 ชม. ตั้งแต่เวลา 06.30-07.30 น. จากการตรวจค้นที่บ้านนายนริน เบื้องต้นก็ไม่พบสารเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้ ประกอบด้วย 1.ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร 2.ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3.ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล กระจายกำลังทำการค้นบ้านของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ได้แก่บ้านกกกอก บ้านกกตูม และบ้านมะนาว ทั้งหมด รวม 12 จุด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัวนายนรินไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.กกตูม ซึ่งระหว่างที่นายนรินเดินไปขึ้นรถกับเจ้าหน้าที่นั้น ก็ได้ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวตนไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.กกตูม และตนก็ยังรู้สึกหนักใจบ้างเล็กน้อย
และมีนางชนาภา ภรรยานายนริน พร้อมลูกสาว และพี่สาวนายนริน เดินทางด้วยรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคันเพื่อตามไปที่ สภ.กกตูม
เมื่อนายนรินมาถึงที่ สภ.กกตูม นายนรินก็ได้เปิดใจสั้น ๆ ว่า ที่ตำรวจเชิญตัวมาวันนี้ ตนก็ไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด แต่สำหรับเมื่อคืนนี้ ตนก็ยังรู้สึกเครียดอยู่บ้าง แต่ตนก็ได้ทำบุญใส่บาตรในตอนเช้านี้ของวันนี้ ก็รู้สึกสบายใจขึ้น สำหรับวันนี้เจ้าหน้าที่ก็เชิญตัวตนมาเซ็นเอกสารรับทราบการเข้าค้นบ้านเท่านั้น ส่วนเรื่องของคดีน้องชมพู่ และเด็กหญิงเอ ตนยืนยันความบริสุทธิเหมือนเดิม
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านกกตูม ซึ่งมีบ้านที่ถูกตรวจค้นจำนวน 4 หลัง เเละถูกตำรวจนำตัวไปสอบปากคำ 5 คน ได้เเก่
1.นายรุ่งโรจน์ เชื้อคมตา (หลอด) อายุ 38 ปี
2.นายสมจิต เชื้อคำฮด อายุ 25 ปี
3.นายทาม เชื้อคำฮด (พี่ชายสมจิต) อายุ 29 ปี
4.นายสมสนุก เเสงอรุณ (นิ่ม) อายุ 39 ปี
5.นายไรพร (ไม่ทราบอายุ)
ขณะนี้ตำรวจได้นำตัวไปสอบปากคำ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีปฏิบัติการค้นบ้านของเป้าหมาย โดยระบุว่าการค้นครั้งนี้เป็นการค้นตามหมายค้น ซึ่งเป็นบ้านของเป้าหมายที่มีข้อมูลของกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งหมด 12 จุด ทีมข่าวทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเข้าค้นบ้านของหมู่บ้านมะนาว ต.ฝั่งแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยหมู่บ้านนี้เจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านรวม 3 จุด
คือ 1.บ้านของ นางดนตรี ป้าของพ่อน้องชมพู่ 2.บ้านลูกชาย นางดนตรี เป็นญาติฝั่งพ่อน้องชมพู่ และ 3.บ้านของนายไพโรจน์ สิงนวน เป็นพ่อสื่อของพ่อน้องชมพู่
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่ถูกตรวจค้น เริ่มจากบ้านของนายหลอด หรือนายรุ่งโรจน์ เชื้อคมตา ได้พูดคุยกับภรรยา เเต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ เเละไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ บอกเพียงสั้น ๆ ว่าตำรวจมาค้นบ้านช่วงเวลา 05.00 น. จากนั้นก็นำตัวสามีไปสอบปากคำ ส่วนบ้านของนายไรพรนั้น พบว่าบ้านปิดล็อก ไม่มีคนอยู่ในบ้าน
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายสมจิต ที่ถูกตำรวจนำตัวไปพร้อมกับพี่ชาย คือนายทาม ทีมข่าวได้พูดคุยกับเเม่ของทั้งคู่ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ตำรวจได้มาค้นบ้าน โดยการค้นตามหลังตู้โชว์ เเละหลังตู้เสื้อผ้า ใช้เวลาค้นประมาณ 30 นาที ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เเต่ตำรวจได้นำตัวลูกชาย คือนายสมจิต เเละนายทาม ไปสอบปากคำ
คุณเเม่ บอกว่า เคยเห็นครอบครัวชมพู่ในฐานะคนหมู่บ้านติดกัน เเต่ไม่ได้สนิทสนม เเละไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน อีกทั้งลูกชายก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดตำรวจจึงมาค้นบ้าน หากถามว่าตนมีความกังวลหรือไม่ หลังจากที่ตำรวจนำตัวลูกชายไป ตนไม่กังวล เพราะเชื่อมั่นว่าลูกเเม่ไม่ได้ทำอะไรผิด
จากการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน นายลิขิต เชื้อคนเเข็ง กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจตรวจค้นบ้านของลูกบ้าน ว่า ตนไม่ทราบมาก่อน เพราะตำรวจไม่มีการเเจ้งล่วงหน้า ส่วนลูกบ้านทั้ง 5 คน ที่ตำรวจนำไปสอบปากคำ มีเพียงนายทามคนเดียว ที่ไม่เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วน 4 คนที่เหลืออยู่ในข่ายกลุ่มเสี่ยง ตำรวจจึงนำตัวไปสอบปากคำ เเต่เชื่อว่าทั้ง 5 คน ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมอันตราย อีกทั้งช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป ลูกบ้านทุกคนยังอยู่ในพื้นที่ ไม่มีใครหายไปเเต่อย่างใด
ในเวลา 19.50 น. คุณนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี รายงานจากบ้านนายสมสนุก เเสงอรุณ (นิ่ม) อายุ 39 ปี โดยเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ จับดูเสื้อผ้าประมาณ 5-10 นาที ไม่พบสิ่งผิดกฎหาย เเล้วก็พาตัวนายนิ่มไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กกตูม ก่อนจะเดินทางเข้าจ.มุกดาหาร
นายนิ่ม เปิดเผยว่า ตนได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เกี่ยวจข้องกับคดีน้องชมพู่ ส่วนเหตุผลที่ตำรวจค้นบ้านของตน คิดว่าคงอยู่ในเครือข่ายของตำรวจอยู่แล้ว เพื่อตรวจหาสารเสพติด ตนยืนยันว่าตนไม่เคยเห็นน้องชมพู่แม่แต่ครั้งเดียว ส่วนพ่อแม่ของเด็กก็เคยเห็นอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยมีความบาดหมางกับครอบครัวของน้องชมพู่ และภูเหล็กไฟตนก็ไม่เคยขึ้นไปแม้แต่ครั้งเดียว
ทีมข่าวมาที่บ้านของนานไพโรจน์ พบกับนางเจี้ยบ (นามสมมติ) ภรรยานายไพโรจน์ เปิดเผยว่า ตำรวจเข้ามาค้นบ้านจริง โดยตนเองตื่นนอนมา ตำรวจก็เข้ามาค้นบ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้านมาด้วย ระบุว่ามาค้นเกี่ยวกับยาเสพติด ตำรวจก็ไปค้นที่นอน ค้นทุกอย่างในบ้าน ตนยืนยันว่าตนกับสามีไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนอยากให้ปราบให้หมดด้วยซ้ำเรื่องยาเสพติด
หลังจากการค้นบ้าน ตำรวจก็ไม่ได้เอาของอะไรไป ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย เพียงเชิญสามีไปสอบปากคำที่อำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยระบุว่าต้องไปลงชื่อในเอกสารการตรวจค้น นอกจากนี้ตำรวจยังเชิญตัวลูกชายคนรองตนไปด้วย โดยจะขอไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งยอมรับว่าลูกชายมีประวัติเสพยาเสพติด
ทีมข่าวเดินทางไปพบกับ นางดนตรี ป้าของพ่อน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ช่วง 06.00น. ตำรวจเข้ามาเคาะบ้านตั้งแต่ตนยังไม่ตื่นนอน ซึ่งตำรวจแจ้งว่ามีหมายค้น จะมาขอค้นบ้านตนเองก็ยินดีให้เข้าตรวจค้น ตำรวจไม่ได้พูดถึงเรื่องของน้องชมพู่ รู้แค่หมายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเท่านั้น หลังจากค้นตำรวจก็ไม่ได้สิ่งผิดกฎหมายไป เพียงแค่ขอสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่มไปตรวจสอบ ซึ่งตนก็ยินดีให้ไปตรวจสอบเส้นทางรายรับรายจ่าย ยืนยันตนไม่ได้มีอะไรผิดกฎหมาย
ส่วนตัวกับบ้านน้องชมพู่ ตนก็เป็นป้าของนายอนามัย ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ตนรักหลานคนนี้มากด้วยซ้ำ เพราะนายอนามัย พ่อเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตามตนไม่ได้มีอะไรกังวล ตำรวจอยากค้น อยากตรวจตนเองก็ให้ตรวจ ตำรวจมาค้นราว 1 ชั่วโมง จากนั้นก็เดินไปที่หลังบ้านตน ซึ่งลูกชายปลูกบ้านอยู่จุดนั้น
หลังจากค้นบ้านก็ได้เชิญตัวลูกชายและสามีตน ซึ่งเป็นเจ้าบ้านของทั้ง 2 หลัง ไปสอบปากคำที่อำเภอดงหลวง ซึ่งตำรวจก็ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัว พ่อแม่ของน้องชมพู่ ไปสอบถามว่าวันที่ 11-12 พ.ค.63 อยู่ที่ไหน ส่วนในวันที่ 29 มิ.ย.63 ได้เรียกตัวนายพิศนุพร ป้าสมพร และนายบุญทัน ไปสอบด้วย