กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ตอ เอย ยอ ไวรัส” ได้โพสต์เรื่องราวของตัวเอง ซึ่งเป็นพนักงานส่งอาหารกับเพื่อน ๆ พนักงานอีก 5-6 คน ขณะที่กำลังรอรับออเดอร์อยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ภายในซอยเอกมัย 19 ก็มีวินจักรยานยนต์ เบอร์ 10 ป้ายทะเบียนขาว ขับมาจอดรถกลางวง แล้วก็เบิ้ลเครื่องยนต์ คล้ายจะมาหาเรื่อง พร้อมพูดว่า “นี่เป็นที่หลวง คุณเป็นเจ้าของที่เหรอ รถผม ผมจะทำอะไรก็ได้” จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเกิดการถกเถียงกันขึ้น แล้วแยกย้ายกันไป
จนกระทั่งประมาณ 18.00 น. เจ้าของโพสต์ได้กลับมารอรับออเดอร์ ภายในซอยเอกมัย 19 อีกครั้ง แต่ได้พบกับวินรับจ้างคนเดิมที่พาพวกมาด้วยอีก 1 คน โชคดีที่ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันไล่วินรับจ้างป้ายขาวรายนี้ไปได้
ล่าสุดวันที่ 6 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบเป็นซอยแคบ ถนน 2 เลน ตั้งอยู่ภายในซอยเอกมัย 19 และได้พูดคุยกับ น.ส.นัทธมน ไวยรัตน์ หรือ เตย อายุ 24 ปี พนักงานส่งอาหาร เล่าว่า ตนเพิ่งมาทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร ประมาณ 4 เดือน และมักจะมาจอดรับออเดอร์ในซอยนี้กับกลุ่มเพื่อนเสมอ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนไม่เคยเจอกับนายแสงสุรีย์ หรือ ก้อย วินเถื่อนที่ปรากฏในคลิปมาก่อน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
โดยเมื่อวานนี้ ในเวลาประมาณ 17.30 น. ตนและกลุ่มพนักงานส่งอาหาร อีกประมาณ 5-6 คน กำลังรอรับออเดอร์อยู่ข้างกำแพงภายในซอยแห่งนี้ นายแสงสุรีย์ ก็ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดกลางซอย ทำท่าทีหาโทรศัพท์มือถือ โยนโทรศัพท์ลงพื้น ใช้เท้าเขี่ยโทรศัพท์แล้วเก็บขึ้นมา ทำแบบนี้วนอยู่หลายรอบ จากนั้นก็เบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดัง จนตนและเพื่อนต้องเข้าไปสอบถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า รถมีปัญหาหรือเปล่า มีอะไรให้ช่วยไหม” จนเกิดการถกเถียงขึ้นตามในคลิปประมาณ 3-4 นาที จนมีรถเก๋งขับเข้ามาในซอย ทำให้ต่างคนต่างต้องหลบไปชิดกำแพง
จากนั้นเมื่อรถเก๋งขับผ่านไป นายแสงสุรีย์ก็ทำพฤติกรรมแบบเดิม โยนโทรศัพท์ลงพื้น แล้วเบิ้ลเครื่องยนต์ ทำให้ตนเริ่มโมโหและเกิดการถกเถียงกันอีกประมาณ 10 นาที จนมีชาวบ้านตะโกนมาว่า “โทรศัพท์แจ้งตำรวจแล้ว ตำรวจกำลังมา” นายแสงสุรีย์ จึงขี่รถจักรยานยนต์หนีไป ทุกคนจึงแยกย้ายกลับไปส่งอาหารต่อ
จนในเวลาประมาณ 18.00 น. ตนได้กลับมารอรับออเดอร์ที่ซอยแห่งนี้อีกครั้งเพียงลำพัง และได้พบกับนายแสงสุรีย์ ที่พาผู้ชายมาด้วยอีก 1 คน พร้อมชี้ว่า “อีนี่ที่ด่ากู” โชคดีที่ชาวบ้านในซอยเข้ามาช่วยเหลือตน และไล่นายแสงสุรีย์กับพวกกลับไป
ทั้งนี้ตนยอมรับว่ามีอารมณ์โมโหและทนพฤติกรรมของนายแสงสุรีย์ไม่ไหว จึงได้ต่อว่าและพูดจาหยายคายใส่นายแสงสุรีย์ไป ถ้าในช่วงเวลา 18.00 น. ไม่มีชาวบ้านมาช่วย ตนก็ทำใจที่จะถูกนายแสงสุรีย์ทำร้ายร่างกาย ตนไม่ได้ติดใจอะไรกับเหตุการณ์นี้ ตนกับเพื่อน ๆ พนักงานส่งอาหารคงต้องระวังตัวเอง เพราะไม่รู้ว่านายแสงสุรีย์นั้น เมายาหรือเมาเหล้า แต่ตนเป็นห่วงลูกค้าของนายแสงสุรีย์ เพราะนายแสงสุรีย์เป็นวินเถื่อน และมีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ ตนกลัวลูกค้าของนายแสงสุรีย์ จะเป็นอันตรายหรือไม่
ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายแสงสุรีย์ ทรัพย์ผล หรือ ก้อย อายุ 40 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านพัก หลังสน.ทองหล่อ ใกล้กับซอยเอกมัย 19 โดยเจ้าตัวยอมรับผิดทุกอย่าง ฝากขอโทษกลุ่มแกร็บฟู้ดผ่านอมรินทร์ทีวี ที่ทำไปเพราะอยากกวนตี_เล่น
นายแสงสุรีย์ บอกว่า ตนเคยเป็นพนักขับรถตู้ รับส่งนักเรียน มีเงินเดือน 15,000 บาท แต่เจ้านายชอบสั่งสอนว่าอย่าเอาเงินไปซื้อเหล้า ตนจึงทนไม่ไหวและลาออกมาขับวินรับจ้าง แต่ขณะนี้ตนไม่ได้ประจำซุ้มวินแล้ว แต่จะคอยออกมารับลูกค้าเอง เพราะได้เงินมากกว่า เฉลี่ยวันละ 700-800 บาท โดยตนจะรับลูกค้าในช่วงเช้า (คนทำงาน) และรับลูกค้าในช่วงดึก (คนมาเที่ยวทองหล่อ) โดยจะถามว่าลูกค้าเคยจ่ายค่าวินเท่าไร ตนก็จะเก็บเงินตามราคานั้น ไม่ได้คิดเงินเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งหากมีเวลาตนก็จะกลับไปขี่วินที่ซุ้มวินบ้าง ไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนวินรับจ้างตามที่ชาวบ้านลือกัน
ทั้งนี้ตนเป็นคนดื่มเบียร์สุราไม่หนัก แต่ดื่มบ่อย วันหนึ่งตนจะดื่มวันละ 3 แก้ว (เช้า-กลางวัน-เย็น) ดื่มเบียร์อย่างน้อยวันละ 2 กระป๋อง ซึ่งเป็นปริมาณที่ลดลงกว่าเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนดื่มตั้งแต่เช้ายันค่ำ ตนขอบคุณที่ชาวบ้านคอยตักเตือนให้ตนเลิกสุรา ตนรู้ว่าดื่มแล้วเปลืองเงิน ไม่เกิดประโยชน์ ตนก็พยายามเลิก แต่ยังไม่สามารถเลิกให้ขาดได้ ตนขอบคุณที่ชาวบ้านที่คอยเตือนตนให้ทำตัวให้ดีเพื่อลูกสาวทั้ง 4 คน
เพราะขณะนี้ภรรยาของตน พาหนีไปอยู่กับแม่ยาย เพราะทนพฤติกรรมของตนไม่ไหว อายุลูกมีตั้งแต่ อายุ 20 18 13 และ 9 ซึ่งลูกคนที่อายุ 18 อยู่กับนายแสงสุรีย์ ที่เหลือภรรยาพาหนีไปอยู่กับแม่ยาย ตนอยากจะบอกลูก ๆ ว่า ที่ตนดื่มสุราเพราะตนเครียด ต้องลุ้นหาเงินรายวันจากการวิ่งวินเถื่อน ไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนแต่ก่อน
ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ตนยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำกับแกร็บฟู้ด ตนแค่อยากจะกวนตี_แกร็บฟู้ดเล่นแก้เซ็ง เนื่องจากอากาศร้อน แต่ฝ่ายแกร็บฟู้ดถามตนก่อนว่า “เบิ้ลรถทำไม” และต่อว่าตนแบบหยาบคาย ตนทำไปโดยไม่คิด ยอมรับว่าเมื่อวานนี้ ตนดื่มเบียร์และสุราในช่วงเช้า แต่ตนไม่ได้เมาเท่าไร เพราะหากเมาคงขับรถไม่ได้ เป็นการดื่มทิ้งทวนก่อนจะเข้าพรรษา ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด และตนไม่ได้มีเจตนาจะหาเรื่องหรือทำร้ายใคร เพราะหากทำคงทำไปแล้ว จากนี้ตนจะปรับปรุงตัวและเลิกเหล้าให้ได้