จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง และตรวจสอบไทม์ไลน์ของบุคคลในหมู่บ้านของน้องชมพู่
โดยไทม์ไลน์ของนายไชย์พล ลุงน้องชมพู่ วันที่ 11 พ.ค. 63 วันที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น เวลา 09.30 น. กลับมาจากสวนถึงบ้าน และออกไปส่งพระที่วัด ถึงเวลา 10.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น
ซึ่งก่อนหน้านี้ ลุงพลอ้างว่าขับรถไปส่งพระจริง และพบกับชาวบ้านระหว่างทาง มีการจอดรถพูดคุยกัน ซึ่งมีห้วงเวลาคือ 22 นาทีที่ขับรถจากบ้านไปวัด และมีพยานสามารถยืนยันได้ว่าได้พูดคุยกับลุงพลจริง แต่มีอีก 15 นาทีที่ขับไปโดยไม่มีพยานยืนยัน
วันที่ 11 ก.ค. 63 นางยุ บุคคลที่เห็นลุงพลที่ซุ้มประตูวัด เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 วันที่ชมพู่หายไป เปิดเผยว่า เท่าที่ตนเองจำได้ ตนอยู่กับนางแหล่ เมียผู้ใหญ่บ้าน นางวงศ์ ก็เห็นรถยนต์ของลุงพลมาจอด และลดกระจกจนสุด พร้อมกับเรียกป้าวงศ์ว่า “ป้า ๆ ไปส่งพระด้วยกันไหม” จากนั้นป้าวงศ์ก็ตอบว่า "ไม่ไปหรอก แดดมันร้อน" ซึ่งทั้ง 2 คนคุยกันแต่เพียงเท่านี้ จากนั้นลุงพลก็ขับรถออกไป
ทั้งนี้ ตนก็จำเวลาไม่ได้ว่าลุงพลพูดคุยกับป้าวงศ์เป็นเวลาเท่าไร แต่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 นาที ส่วนพระครูบารัตน์ที่ลุงพลไปส่งนั้น ตนก็มองไม่เห็น แต่เมียผู้ใหญ่บ้านที่นั่งอยู่ด้วยกันกับตน เขายืนยันว่าเห็นพระจริง นอกจากนี้ สำหรับพฤติกรรมที่ตนเห็นลุงพล เขาก็ดูยิ้มแย้มปกติ ไม่ได้มีสีหน้าที่เครียดหรือเหนื่อยหอบแต่อย่างใด