ลุงพลแจงพูดวันเจอศพ "หมดอาหารให้กิน" แค่สงสัยคนฆ่าชมพู่ - คู่กรณีไม่ติดใจ (คลิป)

12 ก.ค. 63

จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง ล่าสุดมีการเปิดเผยคำพูดของลุงพลในวันเจอศพ ที่พูดว่า "คิดว่าน้องชมพู่หมดอาหารกินจึงตาย" และสงสัยคนในหมู่บ้านนั้น

642601

วันที่ 11 ก.ค. 63 นายไชย์พล วิภา ลุงน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ส่วนที่บอกว่าน้องหมดอาหาร คนพามาน่าจะหมดอาหาร ตนเองก็ชี้แจงว่า ตนเองได้คุยกับครอบครัว ก็มีความกังวล ตนเองพูดไปในความห่วงหลาน ใครเจอแบบตนก็ต้องคิดแบบที่ตนเป็น มันเป็นความคิดตอนนั้น ที่ประกอบกับที่ได้ข้อมูลเรื่องผู้ต้องสงสัย ซึ่งไม่ได้ปรักปรำ แต่หากมีคนร้ายจริง ๆ น้องหายมา 4 วัน น้องต้องขาดอาหารแน่ ๆ แต่ไม่ได้คิดจะใส่ร้าย หรือใครจะมาทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายชมพู่

446466

หลังจากนี้ ไม่ว่าจะอะไรจะเป็นอย่างไร ขอให้ไปเป็นไปตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ เพราะครอบครัวชมพู่เป็นฝ่ายสูญเสีย วันนี้ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร จะสงสัยตนอยู่หรือไม่ ส่วนตัวก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามความคิดของแต่ละบุคคล ส่วนเรื่องไลน์ปลอมที่ส่งข้อความถึงแม่ชมพู่ ตนเองก็ให้พ่อแม่ชมพู่ตัดสินใจ ตนเองขอให้จับให้ได้

ส่วนการสงสัยบางคน ตอนนั้นก็มีการคุยกันเกี่ยวกับคนที่ต้องสงสัย ทำให้เมื่อไปเจอศพ ตนเองก็มีความคิดแบบนั้นและพูดออกมา แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ตนเองยืนยันว่าไม่ใช่ว่าเป็นการโยนความผิด และยืนยันความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะช่วงค้นหา ตนเองไม่ได้ไหาช่วงกลางคืน เพราะตนเองยุ่ง ๆ หาแต่หมอธรรม จะมีก็เพียงวันที่ 12 พ.ค. 63 ที่ได้ขึ้นเขาในตอนกลางคืน โดยไปกับลุงคล้าย และนายสัตยา หากคนที่คิดว่าตนโยนความผิด ก็ต้องหาเหตุผลอื่น ๆ ด้วย

453591

นายสมคิด หลาบโพธิ์ พยาน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ลุงพลมีการพูดต่อหน้าศพของน้องชมพู่ว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งตำรวจก็ได้สงสัยมาที่ตน ครั้งแรกตนก็รู้สึกเครียด แต่ช่วงที่ตนถูกเชิญไปสอบปากคำตนก็ไม่กังวล และให้ความร่วมมือมาตลอด เพราะตนคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนร้าย มีพยานที่ยืนยันว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งช่วงหลังตนก็รู้สึกดีใจและสบายใจมากขึ้น เพราะตนถูกกันให้อยู่ในฐานะพยาน ทำให้ตอนนี้ไม่มีความกังวลใด ๆ ซึ่งตนก็คิดว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟเอง และน่าจะมีคนร้ายพาตัวขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องตนกับลุงพลนั้น ตนได้ไกล่เกลี่ยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน และเคลียร์ใจให้อภัยกันแล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม