ชุดพญาเสือจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงมโหฬาร ขนเที่ยงคืนยันเที่ยงวัน มูลค่ามากกว่า 20 ล้าน
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และที่ปรึกษาหน่วยพญาเสือ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่และฝ่ายปกครองอำเภอบึงโขงหลง กว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเปิดเป็นปั๊มน้ำมัน ตามหมายจับของศาล หลังสืบสวนขยายผลจนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นหนึ่งในขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
หลังบุกเข้าตรวจค้นพบนายวินัย จันทร์อุ่ม อายุ 35 ปี ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมกับพบของกลางเป็นไม้พะยูงแปรรูปทั้งแบบชนิดกลม แบบชนิดเหลี่ยม เป็นจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักห่างจากปั๊มน้ำมันประมาณ 15 เมตร และพบไม้พะยูงอีกจำนวนมากทั้งแปรรูปและยังไม่แปรรูปอีกเป็นจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในโกดังด้านหลังปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปไม้ และยังพบอุปกรณ์การตัดไม้ แปรรูปไม้ แท่นเครื่องเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ เลื่อยโซ่ยนต์ ตาชั่ง และอื่นๆ อีกจำนวนมาก และยังพบยาบ้า จำนวน 1,723 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก และรถยนต์ที่ใช้กระทำผิดอีกจำนวน 3 คัน จึงร่วมกันตรวจยึดเป็นของกลาง
นายชัยวัฒน์ เผยว่า นับจากการขยายผลงานการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ซึ่งเริ่มต้นจับไม้พะยูงที่จังหวัดศรีสะเกษ มีการบอนไม้อำพรางไปสวมโฉนด ที่ดินโฉนด แต่ว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมไว้ได้ก่อน แล้วก็ขยายผลมา ในครั้งแรกจับได้ 8 คน แล้วขยายผลจับมาได้ถึง 31 คนด้วยเทคโนโลยี จากทีมพญาเสือ จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขยายผลมาจนถึง จ.กาฬสินธุ์ แล้วก็ที่ช่องเม็ก จ.มุกดาหาร สุดท้ายก็มาขอหมายศาลตรวจค้นที่บึงกาฬ ทั้งหมดมาการจากแกะรอยสืบค้นจากกระบวนการนำไม้พะยูงมาสวมบ้าง ใช้หลักฐานการได้มาจากมาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.2484 ป่าไม้ แล้วอ้างว่ามีหลักฐานครอบครอง นำไปสวมไปสวมมา แล้วก็นำออก สุดท้ายจับได้ขณะที่กระทำความผิดก็ยอมรับไป การตรวจค้นครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จับกุมในเคสที่ใหญ่ที่สุดของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและของกรมป่าไม้ร่วมกัน
จากการตรวจสอบพบว่า ทางผู้ต้องหาขออนุญาตแปรรูปไม้จากยูคาลิปตัส และไม้ยางพารา แต่พบว่าเศษขี้เลื่อย เศษไม้ หัวไม้ เป็นไม้พะยูงที่แปรรูป ซึ่งก็ต้องแจ้งข้อหาการตั้งโรงงานแปรรูปไม่โดยไม่ได้รับอนุญาต และต้องใช้มาตรการยึดทรัพย์ด้วย โดยดูจากไม้ของกลางที่มีมากมีมูลค่ามากว่า 30-40 ล้านบาท ซึ่งขบวนการนี้อุกอาจมาก ขณะเข้าจับกุมผู้ต้องหาไม่มีท่าทีตกใจกลัว ไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหมดว่าทุกชิ้น ทุกอย่างเป็นของเขาเพียงคนเดียว ไม่มีการซัดทอดใคร ส่วนคดีนี้หลังจากตรวจนับไม้ของกลางเสร็จสิ้น จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป