เมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 ศูนย์วิทยุสภ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายก่อเหตุฉุดผู้หญิง โดยใช้อาวุธมีดบังคับจี้คอ เหตุเกิดบริเวณหมู่ที่ 4 หลังโรงเรียนชนแดนวิทยาคม ต.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังอาสาร่วมกตัญญูร่วมอำนวยความสะดวก
โดยพื้นที่เกิดเหตุเป็นบ้านของฝ่ายหญิง อยู่ด้านหลังของโรงเรียน ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการกระจายกำลังกันออกติดตาม ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายพะเนียง โพธิ์มณี อายุ 56 ปี ชาว ต.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ อดีตสามีเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนฝ่ายหญิงที่ถูกฉุดตัวไป ทราบชื่อ คือ นางวัชรีย์ ทับน้อย อายุ 50 ปี ชาว ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้เลิกรากันแล้วประมาณ 6-7 เดือน โดยฝ่ายนางวัชรีย์ได้สามีใหม่
หลังการออกติดตามทำให้ทราบว่านายพะเนียง ได้ก่อเหตุฉุดอดีตภรรยาไปจากบ้าน โดยใช้อาวุธมีดจี้ที่คอ จากนั้นบังคับให้นางวัชรีย์ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปในป่ามะขาม พื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลชนแดน และทำการลงมือข่มขืนอดีตภรรยาจนสำเร็จความใคร่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง ได้ควบคุมตัวนายพะเนียงได้พร้อมกับอาวุธมีดทำครัว ความยาวรวมด้ามจับ 12 นิ้ว
นายพะเนียง สารภาพว่า ไปดักรออดีตภรรยาระหว่างกลับมากินข้าว เมื่อสบโอกาสจึงใช้มีดจี้บังคับให้ขึ้นรถจักรยานยนต์มาด้วย โดยพามาหลบอยู่ในบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย จากนั้นก็ลงมือข่มขืนอดีตภรรยาไป 1 ครั้ง
กระทั่งมาถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหาใช้อาวุธมีดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ๆ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต และข้อหากักขังผู้อื่นและพาบุคคลไปเพื่อการอนาจาร รวมถึงข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายแม่ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนไม่รู้เรื่องที่ลูกชายไปลงมือก่อเหตุฉุดอดีตภรรยา ส่วนสาเหตุที่ทั้ง 2 แยกกันอยู่นั้น ตนไม่ทราบสาเหตุ ก่อนหน้านี้ลูกชายไปหาอดีตภรรยาค่อนข้างบ่อย หลังจากอดีตภรรยาไม่ค่อยสนใจ นาน ๆ จึงไปหา แต่ก็ไม่ได้ทิ้ง และมาตอนหลังทางฝ่ายภรรยา ก็ไปมีแฟนใหม่ ลูกชายเคยหาเงินมาได้หลายหมื่น ก็เอาไปให้อดีตภรรยาจนหมด ซึ่งตนก็บอกไปว่าเอาเงินไปให้เขาหมดแล้ว ตัวเองจะเอาอะไรใช้