หลังวางมือจากตำแหน่งผู้บริหารของค่ายเพลงดังย่านลาดพร้าวที่ทำมานานกว่า 25 ปี "แหม่ม พัชริดา วัฒนา" ก็ผันตัวมาเป็นศิลปินฟรีแลนซ์และเปิดร้านกาแฟ PAT'S Tea room & Coffee Club ทำให้แฟนเพลงได้มีโอกาสได้พบเจอศิลปินในดวงใจได้ใกล้ชิดขึ้น รายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้ยินเสียงร่ำลือว่าอร่อยมาก เลยได้เชิญนักร้องสาวคนดังมาพูดคุยอัปเดตชีวิต กินน้ำ กินขนมกันไป โดยเจ้าตัวเผยว่าไม่คิดมีทายาท ตั้งใจเก็บเงินไปอยู่บ้านพักคนชราในช่วงบั้นปลายชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "จิตดี ศรีดี" เคลียร์ชัด! หลังเกิดคำถามหายหน้าไปไหนจาก "ทุบโต๊ะข่าว"
- "เจมส์ เรืองศักดิ์" หลงลูกหนัก เบรกงานในวงการเป็นปี ทุ่มเวลาให้ลูกหมด
- "หมวย สุภาภรณ์" นางร้ายสายโหด เผยวินาทีถีบซุปเปอร์สตาร์ "อั้ม พัชราภา"
- "เอ๋ เชิญยิ้ม" เล่าชีวิตวันที่เคยไม่มีเงิน ไม่มีงาน พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าหากินกับผี
- "หมอช้าง ทศพร" เปิดดวง 12 ราศี ครึ่งปีหลัง 2563
ถาม ตอนนี้คือทำร้านกาแฟจริงจังเลย ที่เล่าถึงแฟนคลับว่ามาหาเนี่ย เคยมีแบบแปลกๆ บ้างไหม?
แหม่ม : แฟนคลับที่โตมาด้วยกัน เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จะไม่มีความกรี๊ดคลั่งอะไร จะมีบ้างที่มาแล้วหลุดๆ เขาอาจจะมีความแปลกนิดๆ อันนี้เราเข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วเขาเข้ามาเพราะเขารักเรา หน้าที่เราก็คือให้เขามีความสุขกลับบ้านไป ได้มาเจอกัน เขาบอกเลยว่า หนูไม่รู้ว่าจะเจอพี่ได้ที่ไหน เราก็เฮ้ย เราสำคัญสำหรับเขาขนาดนั้นเลยหรอ ร้านเราเล็กๆ ด้วยความที่เขามาแล้วก็จะอยากคุยกับเรา ทีนี้ปกติเนี่ยตัวฉันเป็นคนสันโดษ เป็นคนมีโลกส่วนตัวเยอะมาก พอเราเปิดร้านกาแฟ เราต้องดูแลเขา แต่พอดูแลเขาถึงจุดนึง บางทีเราปวดหัวไง ไหนจะต้องหันไปล้างแก้ว ไหนจะต้องหันมาชง พี่ไม่ได้จ้างคนทำงาน ถ้าคุณไป คุณจะเห็นพัชริดาชงกาแฟ อยู่ร้านคนเดียว ล้างจาน เสิร์ฟ ทุกคนที่มา เขารู้ว่าร้านนี้ไม่ใช่ร้านที่นักร้องดาราเปิดร้านแล้วมีคนขาย เราอยู่ร้าน ทำเอง
ถาม แต่ก็มีแฟนคลับที่ประทับใจมากเป็นพิเศษ?
แหม่ม : จะมีน้องคู่นึงที่เป็นแฟนคลับเราตั้งแต่สมัยขึ้นเวทีโลกดนตรีครั้งแรก จำชื่อ จำหน้ากันได้ เขาก็กลับมาหาเราที่นี่ แต่มาบอกว่าพี่ หนูเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เราก็นั่งคุยกัน หลังจากนั้นพี่ฉอดจัดคอนเสิร์ตสาว สาว สาว ก็เหมือนได้ร้านเราเป็นสื่อกลางในการแจ้งข่าวคอนเสิร์ต คอนเสิร์ตเสร็จได้ไม่เท่าไหร่ เขาเสียชีวิต ซึ่งยังดีใจว่าอย่างน้อยได้เปิดร้านแล้วเป็นที่ทำให้ได้เจอกัน
ถาม เห็นพี่แหม่มแต่งงานนานแล้ว แต่ไม่มีลูก อันนี้คือตั้งใจ?
แหม่ม : ตั้งใจที่จะไม่มี ช่วงแรกที่มีได้ เราต่างคนต่างทำงาน พี่ก็เพิ่งมาอยู่อาร์เอส สามีก็เพิ่งเปิดบริษัท พอผ่านการเดี๋ยวก่อนไปสักพักนึง เราก็เริ่มแบบเดี๋ยวนะ สามสิบห้าแล้ว อีกนิดนึงลูกก็จะออกมาเป็นผักแล้วนะ ก็คุยกันว่าจะเอายังไง สามีเขาก็พูดออกมาคำนึง เขาบอกเราอยู่กันสองคนก็ได้นะ โอ้...ยกภูเขาออกจากอก
ถาม แสดงว่าเราไม่ได้อยากมีอยู่แล้ว?
แหม่ม : พี่เฉยๆ มาก เป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าต้องมี
ถาม แล้วคุณแม่ล่ะว่ายังไง ?
แหม่ม : รายการนี้อย่าให้แม่ดูนะ งอน เดี๋ยวนี้เริ่มมีประโยคแบบแหวนเหวิน เพชร ที่ดิน จะเอาไปให้ใคร ไอ้พวกนี้ ลูกหลานก็ไม่มี ก็เลยบอกว่านี่ไงลูก อยู่ยัง อยู่นี่ ไม่ต้องไปพูดถึงหลาน ให้มาเลย ให้ตอนนี้เลย พี่เห็นเพื่อนทุกวันนี้ที่มีลูก ครึ่งนึงมีความสุข สุขมากไปเลย แต่อีกครึ่งนึง ก็ต้องห่วงเขาไปจนโต เราก็มีความรู้สึกว่า ถ้าเราเลือกได้ แน่นอนถ้าเรามี พี่เชื่อว่าพี่จะมีความสุข พี่เชื่อว่าพี่จะเลี้ยงเขาดี แต่ในเมื่อมันไม่มี ก็ไม่มี แล้วก็โล่งดี
ถาม แล้วไม่กลัวหรอแก่ๆ แล้วใครจะดูแล?
แหม่ม : แล้วรู้ได้ยังไงว่าแก่ๆ แล้วลูกมันจะเลี้ยงเรา ทุกวันนี้เด็กทำงานไม่เหมือนรุ่นเรานะ ที่ทำงานแล้วเก็บเงินมีทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่า ในเมื่อไม่มี มองไปข้างหน้าเลย
ถาม นี่คือเหตุผลที่บอกว่าเตรียมตัวไปอยู่บ้านพักคนชรา เราคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?
แหม่ม : เราคิดอย่างนั้นจริงๆ เราต้องไม่เป็นภาระให้ใคร คือโมเมเป็นน้อง แต่เขาก็ต้องมีชีวิตของเขา ถ้าเราอยู่บ้านพักคนชรา คุณอย่ามองว่าต้องอยู่อย่างรันทดน้ำตาร่วง
เราก็เลือกที่ที่เราสบายใจ เรามีเพื่อนวัยเดียวกัน เราไม่ต้องรำคาญเด็ก เด็กไม่ต้องรำคาญเรา แล้วก็เก็บเงินไว้ เจ็บป่วยมีข้อจำกัด เช่น ป่วยแค่นี้รักษาได้ ป่วยไปเกินจากนี้ กรุณาปล่อยให้ดิฉันสิ้นชีพไปตามธรรชาติ อย่ามาใส่ท่อ อย่ามาฉีดนู้นนั่นนี่ แล้วก็ไม่เป็นภาระใคร พี่บริจาคร่างกายเรียบร้อย
ถาม แสดงว่าพี่แหม่มก็วางแผนช่วงท้ายๆ ชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว?
แหม่ม : เอาจริงๆ อย่าเรียกว่าวางแผน เรียกว่าดูไว้อย่างนั้น ถ้าทำได้ พี่มองว่าเราจะป่วยไข้มากน้อยแค่ไหน สุดท้ายมันอยู่ที่ตัวเรา เราคิดเยอะ เราก็ต้องประสาทเสียในการหาเงิน แต่ถ้าเราไม่คิดเยอะ ถ้ามันป่วยแล้วมันหาย มันก็คือหาย ถ้ามันไม่หายก็คือตาย พี่เห็นคนตาย น้องที่ออฟฟิศ เด็กกว่าเรา อยู่ดีๆ ตาย ชีวิตมีแค่นี้ ทุกวันนี้ถึงได้เปิดร้านกาแฟเสมือนโรงทาน เพราะว่าถ้าพี่เข้าร้าน พนักงานที่ร้านจะบอกว่าช่วยกลับบ้าน เพราะเดี๋ยวแกก็แถม เดี๋ยวแกก็แจก ปีที่แล้วทั้งปี กำไรห้าพันบาท นี่ปีหน้าจะซื้อตลาดหลักทรัพย์แล้ว ถ้าขอได้จะขออย่างเดียว ขอให้เป็นคนแก่ที่ยังมีแรงทำอะไรให้ตัวเองได้ ไม่ต้องงอมืองอเท้า เพราะฉะนั้นทุกอย่างปล่อยหมดแล้ว