กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นุชรี โสมประทุม” ได้แชร์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 40 วินาที เป็นภาพของชายคนหนึ่งโวยวายทำท่าทางจะเตะคุณยาย ซึ่งนั่งตัวสั่นกลัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ทราบว่าชายคนดังกลัวติดยาเสพติดและต้องการเงินไปซื้อยา จึงไล่คุณยายให้ไปหาเงิน โดยเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้คนเข้ามากดแชร์และวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันที่ 21 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่บ้านเมืองน้อยใต้ บ้านเลขที่ 123/1 หมู่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของนางสมบัติ อายุ 82 ปี และนายนฤเบศ ชายคนที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว อายุ 23 ปี พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีห้องน้ำอยู่นอกและในตัวบ้าน นอกจากนี้ทีมข่าวยังพบอุปกรณ์เสพยาและถุงผักที่คุณยายเตรียมจะนำไปจายที่ตลาดวางอยู่
ทีมข่าวได้พบกับนางสมบัติ ภูมิน้อย หรือ ยายบัติ อายุ 82 ปี ยายของนายนฤเบศ ที่เพิ่งกลับมาจากการเก็บผักบุ้งที่ท้องนา เพื่อจะนำไปมัดขายที่ตลาด แต่ยายกลับปฏิเสธการถูกทำร้าย และไม่รู้ว่าหลานชายเสพยาเสพติด
นางสมบัติ บอกว่า เมื่อวานนี้ตนไม่ได้ถูกนายนฤเบศทำร้าย ถ้าถูกทำร้าย ตำรวจคงมาจับตัวหลานชายไปแล้ว ตนหาเงินได้วันละประมาณ 200 บาท ซึ่งหลานชายมักจะขอเงินไปซื้อข้าววันละ 70-80 บาท หลานชายคงไม่กล้าทำร้ายตน เพราะตนหาเงินให้เขาใช้ หาเงินซื้อน้ำซื้อข้าวให้ ตนไม่ได้รักนายนฤเบศมากที่สุด ตนรักหลานทุกคนเท่า ๆ กัน หลาน 4 คน และตนไม่เคยรู้ว่านายนฤเบศเสพยา
ส่วนที่ขณะนี้ นายนฤเบศไม่ยอมกลับเข้ากรมทหารที่จังหวัดนครราชสีมา พาไปส่งก็บอกให้พากลับมา สงสัยว่าหลานชายจะชอบอยู่ที่บ้าน ซึ่งใจจริง ตนก็อยากจะให้หลานชายกลับเข้ากรมทหาร จะได้ฝึกนิสัยให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมยายถึงปกป้องนายนฤเบศ ยายสมบัติได้เแต่ยิ้ม หัวเราะแล้วไม่ตอบอะไร
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวนิรดา ยามชัยภูมิ อายุ 30 ปี พี่สาวต่างบิดาของนายนฤเบศ ซึ่งเป็นคนถ่ายคลิป ถ่ายแล้วส่งให้น้องสาวโพสต์ เล่าว่า ตนเป็นพี่สาวคนโต มีน้องชายร่วมบิดา 1 คน ส่วนนายนฤเบศเป็นพี่น้องฝาแฝดชายหญิงต่างบิดา ขณะนี้คุณแม่เสียชีวิตไปได้ 2-3 ปีแล้ว ตนจึงรับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลคุณยายและน้อง ๆ
นายนฤเบศ เริ่มติดเพื่อน ตั้งกลุ่มมั่วสุมดมกาว ดื่มสุราและเริ่มเสพยาเสพติดตั้งแต่อายุ 12 ปี จนอายุประมาณ 18 ปี นายนฤเบศ ประสบเหตุทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกันจนปางตาย ร่างกายไม่ตอบสนอง นอนอยู่ในห้อง ICU เกือบ 2 เดือน จนแพทย์ถามว่าจะให้ถอดเครื่องช่วยหายใจไหม แต่ทางครอบครัวก็ได้ตัดสินใจที่จะยื้อชีวิตของนายนฤเบศเอาไว้
จากนั้นตนและยายก็ได้ดูแลนายนฤเบศเหมือนกับเลี้ยงลูก ต้องฝึกให้หัดเดินและหัดพูดใหม่ โดยยายที่ไม่อยากจะสูญเสียหลานไปอีก จึงดูแลนายนฤเบศแบบตามใจ หาข้าวหาน้ำเตรียมไว้ให้ทุกมื้อ เก็บผักบุ้งตามทุ่งนาของชาวบ้าน นำไปขาย หาเงินมาให้นายนฤเบศ จนนายนฤเบศเคยตัว ซึ่งบางครั้งชาวบ้านก็สงสารยาย นำให้เงินยายเก็บไว้ใช้ แต่ยายก็นำมาให้นายนฤเบศจนหมด
จนนายนฤเบศอายุได้ 21 ปี ทางครอบครัวจึงเกลี้ยกล่อมให้นายนฤเบศสมัครเป็นทหารเกณฑ์ หวังว่าการเป็นทหารช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมของนายนฤเบศ และยายจะได้ไม่ถูกทำร้าย แต่สุดท้ายการเข้ากรมทหารก็ไม่ช่วยอะไร นายนฤเบศยังคงโทรศัพท์มาขอเงินยายตลอดเวลา ซึ่งยายก็แอบโอนเงิน ซ้ำเมื่อเดือนมีนาคม 63 ที่ผ่านมา นายนฤเบศ ยังลากรมกลับบ้าน แล้วตัดสินใจหนีทหารไม่ยอมกลับเข้ากรมอีก
นางสาวนิรดา บอกด้วยว่า ตนคาดว่านายนฤเบศ น่าจะรู้สึกเป็นเด็กมีปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน ตั้งแต่นายนฤเบศยังเด็ก จึงกลายเป็นเด็กมีปัญหา ติดเพื่อน ชอบเรียกร้องความสนใจ โดยมีครั้งหนึ่งที่คุณพ่อของนายนฤเบศ มาเยี่ยมนายนฤเบศ พยายามสอนให้นายนฤเบศ ทำงานหาเงินเอง จะได้ไม่ต้องรบกวนยาย แต่กลับถูกนายนฤเบศพยายามใช้มีดไล่แทง
นอกจากนี้ ตั้งแต่ที่แม่เสียชีวิตไป ทำให้นายนฤเบศยิ่งลงอารมณ์กับยายหนักขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องจากแม่ที่คอยให้เงินและคนที่นายนฤเบศ คิดว่าเป็นทาสไม่อยู่แล้ว ซึ่งตนเคยฝันเห็นแม่ แม่บอกว่าไม่อยากกลับมามีชีวิต กลัวนายนฤเบศตี ปกติแม่จะคอยช่วยยายและให้เงินนายนฤเบศ นายนฤเบศชี้หน้าเรียกชื่อแม่ ใช้ไปซื้อของ
ตนเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้งว่า นายนฤเบศทำร้ายร่างกายยาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าต้องการหลักฐาน แต่ตนไม่เคยถ่ายคลิปได้ทัน อีกทั้งยายยังพูดแก้ต่างให้นายนฤเบศ บางครั้งตนก็แจ้งจับนายนฤเบศ ขณะเสพยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาจับตัวไป พาไปให้หน่วยงานคุมประพฤติดูแล แต่เนื่องจากโควิด-19 จึงทำให้หน่วยงานไม่รับดูแลนายนฤเบศ สุดท้ายครอบครัวพานายนฤเบศไปบำบัดที่โรงพยาบาลชัยภูมิ แต่ขณะนี้นายนฤเบศเป็นพลทหาร สิทธิ์การรักษาจึงอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่นายนฤเบศไม่ยอมไป ตนจึงขอร้องจ่าทหารนายหนึ่งให้มารับตัวนายนฤเบศไป แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มารับตัวกลับไป
นายนฤเบศ โสมประทุม อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าเป็นบุคคลในคลิปจริง แต่จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ปกติทุกวันตนมักจะมีอาการเมาเล็กน้อย บวกกับสติไม่ค่อยจะดี เนื่องจากเคยประสบเหตุเคยถูกทำร้ายปางตาย จึงทำให้จำเหตุการณ์บางช่วงของแต่ละวันไม่ค่อยได้
โดยนายนฤเบศ บอกว่า ตนเคยสังเกตว่าบางวันนั้นยายมีแผลฟกช้ำ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายนฤเบศว่า ได้ทำร้ายร่างกายยายหรือไม่ นายนฤเบศ กลับบอกว่ายายไม่เคยมีแผลฟกช้ำ และจำไม่ได้ว่าตนทำร้ายยายตอนไหน ตนรักและเป็นห่วงยาย เพราะยายอายุมากแล้ว ตนไม่เคยทำร้ายยาย
นอกจากนี้ ตนยังไม่เคยขอเงินยายเพื่อไปซื้อยาเสพติด ตนไม่รู้เรื่องยาอะไรทั้งนั้น แต่ปกติตนจะขอเงินจากพี่สาว เพื่อนำไปซื้อข้าว ส่วนที่คุณยายอยากให้ตนกลับเข้ากรมทหารที่จังหวัดนครราชสีมา ตนคาดว่าเดือนหน้าตนจะเดินทางกลับเข้ากรม
ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ บ้านเมืองน้อยใต้ หมู่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เกี่ยวกับพฤติกรรมของนายนฤเบศว่าชอบทำร้ายร่างกายยายสมบัติจริงหรือไม่ นางนัชชา แก้วหมื่น อายุ 56 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า นายนฤเบศเป็นคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ชอบขอเงินและทำร้ายร่างกายยายสมบัติจริง แต่ตนไม่ทราบว่านายนฤเบศนำเงินไปซื้อยาจริงหรือไม่
โดยนายนฤเบศจะทำร้ายร่างกายเฉพาะคนในครอบครัว แต่ไม่เคยทำร้ายชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านรู้สึกทั้งสงสารและเอือมระอา เนื่องจากชาวบ้านเตือนยายแล้ว แต่ยายไม่ฟัง ยายยังคงปกป้องให้ท้ายและเข้าข้างนายนฤเบศทุกครั้ง ซึ่งตนเคยเห็นยายสมบัติ ถูกทำร้ายจนร่างกายฟกช้ำ แต่เมื่อถามยายสมบัติกลับบอกว่าหกล้ม หากเป็นไปได้ ตนและชาวบ้านก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลยายสมบัติ หรือจะส่งตัวนายนฤเบศกลับเข้ากรมทหาร ไม่ต้องเอาออกมา ยายสมบัติจะได้ปลอดภัย