รวบ 21 กะเหรี่ยง ลอบเข้าไทย อ้างฤาษีให้มาตามหาบุคคลสำคัญ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จ.ราชบุรี จับกุมชาวกะเหรี่ยง 21 คน ลักลอบเข้าไทย อ้างฤาษีให้มาตามหาบุคคลสำคัญที่ถูกจับ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 ก.ค. 63 นายมนตรี โภคานิตย์ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี ได้นำชาวกระเหรี่ยงชายหญิง รวม 21 คน มาทำการตรวจสอบประวัติที่ว่าการอำเภอบ้านคา หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีกลุ่มคนต่างชาติ ซึ่งมีแบบฟอร์มในการแต่งกายคล้ายกัน คือสวมเสื้อคลุมสีม่วง ขาว มีโลโก้ที่แขนบอกสังกัดของแต่ละกลุ่มด้วย มีผ้าโพกหัวสีขาว มีผ้าพันคอที่มีสัญลักษณ์รูปเขาควายล้อมกลอง และทุกคนจะต้องมีสายสร้อยลูกประคำ และบัตรประจำตัวห้อยคอไว้ทุกคน เข้ามาอาศัยอยู่ที่หมู่ 9 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา ซึ่งบุคคลเหล่านี้น่าจะลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงได้ไปทำการจับกุมตัวมาทั้งหมด โดยมีหน่วยงานของ กอ.รมน.จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านคา ร่วมทำการตรวจสอบด้วย

เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นชาวกะเหรี่ยงอิสระ อาศัยอยู่ในหมู่บ้านทิสเซอร์เปอร์ บริเวณชายแดนประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำหมู่บ้าน แต่นับถือฤาษี ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณของคนในหมู่บ้าน โดยบุคคลเหล่านี้แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ

1.กลุ่ม ASI ทำหน้าที่คล้ายกับตำรวจ มี 2 คน
2.กลุ่ม DSI ทำหน้าที่เป็นสายลับ มี 2 คน
3.กลุ่ม ESI ทำหน้าที่เผยแพร่ลัทธิฤาษีให้กับพี่น้องชาวกระเหรี่ยง มี 4 คน
4.กลุ่ม GSI ทำหน้าที่ดูแลตามแนวชายแดนของหมู่บ้าน ต่อต้านความไม่เป็นธรรม มี 13 คน
ทุกคนจะต้องมีโลโก้ประจำกลุ่มที่แขนเสื้อคลุม และทุกคนก็ห้ามกินเนื้อสัตว์

จากการสอบถามนางสาวเม้า เหมา อายุ 31 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่ม GSI บอกว่าพวกตนที่ถูกจับทั้งหมดได้รับคำสั่งจากฤาษีชื่อ โสจิตรลดา ให้มาตามหาเพื่อน ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของหมู่บ้านที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วไปถูกจับที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อสามวันที่ผ่านมา เพื่อจะมานำตัวกลับไปโดยไม่ทราบว่าผิดกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ

เมื่อมาถึงด่านเจดีย์สามองค์ ก็เช่ารถตู้จำนวน 5 คัน มาที่ จ.ราชบุรี โดยมีนางเอ ชาวกระเหรี่ยงด้วยกันที่อยู่ที่ อ.บ้านคา เป็นผู้บอกเส้นทางให้มาพักที่หมู่ 9 ต.หนองพันจันทร์ ซึ่งมาถึงเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมในวันนี้ ซึ่งก็ยังไม่ได้พบกับผู้นำคนสำคัญของหมู่บ้านที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้เลย

ด้านนายมนตรี โภคานิตย์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอบ้านคา ก็บอกว่า หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวก็เข้าไปตรวจสอบก็พบกลุ่มบุคคลเหล่านี้ จึงได้นำตัวมาสอบสวน พร้อมกับตรวจหาโรคด้วย เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทราบผลของอาการในวันนี้ (22 ก.ค.63) ถ้าพบว่ามีใครติดเชื้อ โควิด 19 ก็จะต้องทำการกักตัว แต่ถ้าไม่พบก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านคา ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนจะทำการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป