จากกรณีเหตุความวุ่นวายภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล 2 แห่ง จ.สมุทรปราการ ระหว่างแก๊งมหาวงษ์ กลุ่มคนตาย และแก๊งโรงเหล็ก โดยต้นตอมาจากการเสียชีวิตของนายรัชต์พงษ์ หรือ คิว ที่ถูกแทงในซอยโรงเหล็กนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฟังชัด ๆ! แก๊งมหาวงษ์ถล่ม รพ.ชกหมอ อ้างแค่ถาก ๆ หัวอกแม่เครียด ลูกซวยเพราะเพื่อน
- แม่ “แฮ็ก” ต้นเหตุแก๊งมหาวงษ์ถล่ม รพ.ร่ำไห้ขอโทษสังคม โร่จับมือเคลียร์ใจแม่แก๊งโรงเหล็ก
- เปิดความเสียหาย “รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ” ฝีมือโจ๋ถล่มอริทำพินาศ เร่งปลอบขวัญหมอ-พยาบาล
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ค. 63 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ส่งฝากขังผู้ต้องหา 4 ราย แก๊งมหาวงษ์ ได้แก่ นายนิพนธ์ อายุ 22 ปี, นายกานต์ อายุ 22 ปี, นายวิชัย อายุ 24 ปี แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ บุกรุกสถานพยาบาลในเวลากลางคืน และเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ถูกแจ้งข้อหาบุกรุกสถานพยาบาลในเวลากลางคืน โดยรวมในคดีถูกแจ้งข้อหา 24 คน เป็นแก๊งมหาวงษ์ 16 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว 1 คน และแก๊งโรงเหล็ก 3 คน
นายศุภกร หรือ เต๋า อายุ 23 ปี พยานในเหตุการณ์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ นายอรรถพล หรือ แฮ็ก มีท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยโรงเหล็ก ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ตนเห็นว่ามาส่งยาต่อหน้าต่อตาของตน ถือว่านายแฮ็กบุกรุก จึงเดินเข้าไปไล่นายแฮ็ก แต่นายแฮ็กไม่ยอมฟังและทำท่าทางไม่พอใจ เกิดปากเสียงและลงไม้ลงมือเกิดขึ้น ตนได้ต่อยหน้านายแฮ็กก ก่อนที่นายแฮ็กจะออกจากพื้นที่ไป
ต่อมาในเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่ตนและกลุ่มเพื่อนกำลังนั่งเล่นดนตรีกันอยู่ นายแฮ็กยกพวกมาหาตน รวม 8 คน อาวุธครบมือ ไม้เบสบอล ไม้ต่าง ๆ โดยมีบางคนทำท่าเหมือนจะหยิบปืนด้วย แล้วแก๊งมหาวงษ์ก็ได้วิ่งกรูกันเข้ามา ฝั่งตนไม่มีอาวุธ ตนไม่รู้ว่านายธนพล หรือ แจ็ค เอาอาวุธมาจากไหน เชื่อว่านายธนพลไม่ใช่คนแทงนายคิว คนตาย ขณะนี้ตนยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับนายธนพลที่ถูกฝากขังที่ศาล ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วงมาก ทั้งนี้ ตนรู้สึกใจเสียเป็นห่วงครอบครัว กลัวว่าจะถูกแก๊งมหาวงษ์ตามกลับมาล้างแค้นแทนนายคิว ผู้ตาย ตนจึงได้ย้ายไปอาศัยอยู่ต่างจังหวัด และเพิ่งกลับมาให้ปากคำในวันนี้ ขอยืนยันว่าฝั่งตนไม่เคยรู้จักแก๊งมหาวงษ์ ไม่ได้ขัดขากันเรื่องยาเสพติด ตนไม่เคยเสพ และตนบริสุทธิ์
ด้านนายชยธร หรือ เจ๋ง อายุ 21 ปี คู่กรณีกับแก๊งมหาวงษ์ เล่าว่า นายแฮ็กได้ยกพวกมา 8 คน เมื่อนายศุภกรเข้าไปเจรจาบอกให้อีกฝ่ายใจเย็น ๆ แก๊งมหาวงษ์ที่มีอาวุธครบมือก็วิ่งกรูเข้ามาทันที ตนได้พยายามสู้ แต่สู้ไม่ได้ ตนเห็นนายแจ็คถูกตีที่แขนจนล้มลงจึงวิ่งเข้าไปช่วย และพากันวิ่งหนีไปหลังบ้าน อีกฝ่ายก็จับตัวตนไปซ้อม ตนถูกไม้เบสบอลตี จากนั้นอีกฝ่ายก็จับตนอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ พูดว่า "ถ้าน้องกูเป็นอะไรไป มึงต้องเป็นตามนั้น" ตนถูกพาออกมาได้ประมาณ 200 เมตร ญาติของตนที่อยู่แถวนั้นเห็น จึงได้ช่วยสะกัด อีกฝ่ายบอกอย่าเข้ามายุ่ง แต่ตนดิ้นหลุดออกมาได้
ขณะนี้ ตนยังคงรู้สึกกลัวและหวาดระแวง กลัวว่าครอบครัวจะถูกลอบทำร้าย ตนไม่รู้จะพูดอะไรกับสังคม แต่ตนอยากขอโทษแม่ ขอโทษครอบครัว และไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายแบบนี้
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ผู้ต้องหาในคดีนี้ แบ่งเป็น 3 เหตุการณ์ ได้แก่ ซอยโรงเหล็ก โรงพยาบาลวิภารามฯ และที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ซึ่งผู้ต้องหาบางคนเป็นผู้ต้องหามากกว่า 1 เหตุการณ์ ผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 27 คน เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาเกือบครบแล้ว คือ 24 คน และได้ขออนุญาตศาลฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัว แจ้งข้อหาต่างกรรมต่างวาระ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่าโรงพยาบาลได้รับความเสียหายประมาณ 50,000 บาท แต่ความเสียหายทางด้านจิตใจมีมากกว่า ทั้งนี้ จะมีการขยายผลเกี่ยวกับยาเสพติดของแก๊งมหาวงษ์ต่อไป หากประชาชนมีเบาะแสก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้