แม่เหยื่อช่างกลปาบึ้มเศร้า ลูกโดนฟันกระดูกโผล่ เพื่อนหลังเหวอะ หนีตายถูกรุม 15 ต่อ 2 (คลิป)

จากกรณีวันที่ 23 ก.ค.63 พ.ต.ท.กรวิก สุปะทัศ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุนักเรียนช่างกลตีกัน มีผู้บาดเจ็บบริเวณหน้าร้านขายของเก่าไม่มีชื่อ ปากซอยเทอดไท 59 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ในที่เกิดเหตุพบรอยเลือดอยู่หน้าร้าน ใกล้กันพบสะเก็ดระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่ง พร้อมเสื้อผ้า หมวกนิรภัย มีดดายหญ้า และกระเป๋าสะพายตกอยู่ 1 ใบ ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้

ทราบในภายหลังว่าเป็นนักเรียนชั้น ปวช.ปี 3 เทคโนโลยีกรุงธน อายุ 18 ปี ถูกฟันที่ใบหน้าและศีรษะ ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.บางไผ่ และอีกรายเป็นนักเรียน กศน. อายุเท่ากัน ถูกฟันเข้าที่สะบักหลังเป็นแผลฉกรรจ์ ส่งไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เพชรเกษม 2

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ช่างกลสุดเหิมยกพวกตีอริปาระเบิดลั่นซอย โจ๋หนีตายถูกฟันยับ เพื่อนซุ่มรอหิ้วปีก 

ล่าสุดวันที่ 24 ก.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังโรงพยาบาลบางไผ่ ถนนเพชรเกษม แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เพื่อพูดคุยกับ นางบัวพา มะลิวัลย์ หรือ นางตู่ อายุ 42 ปี แม่ของนายธีระพัฒน์ มะลิวัลย์ หรือ "หลั่ง" อายุ 18 ปี นักเรียน ปวช.ปี 3 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยนางตู่ บอกว่า ขณะนี้ลูกชายรักษาตัวในห้อง ICU ของโรงพยาบาลบางไผ่ อาการสาหัส โดยแพทย์มีการผ่าตัดรักษาและเย็บอวัยวะภายนอกหลายตำแหน่ง สำหรับอาการบาดเจ็บของนายหลั่ง ถูกฟันที่ศีรษะฝั่งขวา จนกะโหลกร้าว, ถูกฟันที่ข้อศอกขวาหัก, ถูกฟันที่สันจมูกหัก, ถูกแทงที่หน้าท้อง, ถูกฟังที่แผ่นหลังจนเห็นซี่โครง และถูกฟันที่ท้ายทอยจนกระดูกซี่โครงโผล่ อาการสาหัส แพทย์ต้องผ่าตัดจมูกและช่องท้องเพื่อรักษา ขณะนี้ยังให้งดน้ำ งดอาหาร แต่ยังสามารถพูดคุยตอบสนองได้

เมื่อวานนี้ลูกชายตนไม่ค่อยสบาย จึงพักอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปโรงเรียน กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ลูกชายบอกว่าจะออกไปทำงานพิเศษ จากนั้นจึงขี่รถออกจากบ้านไป แค่ 10 นาที ตนได้ยินเพื่อนบ้านในซอย เดินมาเล่าให้ฟังว่า แถวหน้าปากซอยเทอดไท 59 มีเหตุทะเลาะวิวาท กลุ่มวัยรุ่นฟันกัน เด็กผู้ชายผิวขาวคนหนึ่ง ถูกฟันเลือดอาบ จังหวะนั้นตนรู้สึกตกใจ เพราะคนถูกฟันผิวขาว คล้ายลูกชายตัวเอง แต่ตนไม่เอะใจอะไร

หลังเพื่อนบ้านเล่า ทันใดนั้นอาจารย์ที่โรงเรียนโทรศัพท์มาหาตน แจ้งให้ทราบว่า “ลูกชายถูกฟันอาการสาหัส ส่งตัวไปยัง รพ.บางไผ่” ตนรู้สึกใจหายและตกใจมาก ไม่คิดว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทำร้าย จะเป็นลูกชายตัวเอง หลังทราบเรื่องจึงรีบมาโรงพยาบาลบางไผ่ทันที พร้อมเข้าเยี่ยมลูกชายวันละ 1 ชั่วโมง เนื่องจากอยู่ในห้อง ICU

นอกจากนี้ภายหลังจากลูกอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยได้ จึงเปิดใจคุยกับลูกและถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งลูกบอกตนว่า เมื่อวานนี้ไม่ได้จะออกไปทำงาน ความจริงคือจะออกไปรับรุ่นน้องที่แถว ๆ ปากซอยเทอดไท 59 จังหวะนั้นบังเอิญไปเจอเพื่อน 2 คน ที่ขี่รถนั่งซ้อนท้ายกันมา จึงได้ขี่คู่กันไปเพื่อพูดคุยกัน ทันใดนั้นกลุ่มคู่กรณีที่ก่อเหตุ ขับจักรยานยนต์มาทั้งหมด 14 คัน บางคันซ้อนสอง บางคันขับมาคนเดียว ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่และมาจำนวนหลายคน แล้ววิ่งเข้ามาลุมทำร้าย จึงวิ่งหนีตายเข้าไปที่ร้านขายแก๊สที่เกิดเหตุ จังหวะนั้นนายหลั่งเกิดเสียหลักสะดุดล้มลงพื้น จึงถูกกลุ่มคู่กรณีใช้อาวุธมีดรุมฟัน บาดเจ็บสาหัส

โดยนายหลั่ง (คนเจ็บ) บอกกับตนว่า ไม่เคยรู้จักคู่กรณีมาก่อน ไม่ใช่คู่อริกัน และจำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่คาดว่าคงเห็นเป็นวัยรุ่นต่างสถาบัน จึงถูกทำร้าย อีกทั้งยืนยันว่า นายหลั่งไม่มีอาวุธใด ๆ ติดตัวไป ไม่มีระเบิด ไม่มีมีด เป็นฝ่ายถูกกระทำและเป็นผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บเกือบตาย

นอกจากนี้นางตู่ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทให้เห็น ลูกชายเป็นคนเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา ไม่มีปากเสียงกับใคร ทั้งนี้ตนวอนขอความเป็นธรรม อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามกลุ่มคนก่อเหตุ มารับโทษและดำเนินคดี ตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนางพลอย บุญแต่ง อายุ 47 ปี อาชีพแม่บ้านที่พัฒนาการแมนชั่น เป็นพลเมืองดีที่ให้ความช่วยเหลือนายบอล โดยนางพลอย เล่าว่า เมื่อวานนี้ขณะเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนโวยวายดัง จึงเดินออกมาดูที่หน้าแมนชั่น พบว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท จากนั้นมองเห็นชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหลบที่ด้านในรั้วของแมนชั่น ด้วยอาการสั่น ผวากลัว มีรอยบวมช้ำที่ใบหน้า จากนั้นก็มีชายอีกคน (นายบอล คนบาดเจ็บ) วิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ พร้อมกับบอกว่า “ช่วยผมด้วย พาไปหลบที่ปลอดภัย ตรงนี้ไม่ปลอดภัย” จากนั้นตนจึงพาชายวัยรุ่นทั้งสองคน เดินไปที่หลังตึกเพื่อไปหลบที่หลังห้องน้ำ

แต่คนบาดเจ็บที่ถูกฟันยังรู้สึกไม่ปลอดภัย ตนจึงพาไปหลบบนชั้น 2 ของแมนชั่น เนื่องจากประตูทางขึ้นแมนชั่นเป็นระบบคีย์การ์ด ที่ปลอดภัยกว่า กระทั่งเหตุการณ์สงบลง มีรถพยาบาล รถกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุ ตนจึงเดินไปเรียกชายวัยรุ่นทั้ง 2 คนลงมา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม ตนยังคงรู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลุ่มวัยรุ่นยังเด็ก เรียนหนังสืออยู่ แต่กลับมาก่อเหตุรุนแรง สงสารพ่อแม่เด็ก และยังรู้สึกผวากลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนกลับถึงบ้านยังนอนไม่หลับ เพราะรู้สึกกลัว ทั้งนี้อย่างน้อยจากเหตุการณ์นี้ ตนได้ช่วยเหลือคนบาดเจ็บได้ปลอดภัย ไม่ถูกทำร้ายหนัก ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

นอกจากนี้ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิด 3 มุม ในช่วงที่คนเจ็บทั้งสองรายหลบหนี มุมที่ 1 ประตูหน้าแมนชั่น เป็นช่วงคนบาดเจ็บวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ

มุมที่ 2 ช่วงโซนหลังแมนชั่น (ภายในแมนชั่น) เป็นช่วงหลบอยู่ห้องน้ำ ก่อนเดินออกมาขอความช่วยเหลือ เพื่อเปลี่ยนที่ซ่อนตัว

มุมที่ 3 ช่วงหน้าห้องโถงแมนชั่น เป็นจังหวะที่พลเมืองดี พาเดินหลบหนีขึ้นไปบนชั้น 2 ของแมนชั่น ในที่ที่ปลอดภัย

ขณะที่นายบอล (ผู้บาดเจ็บ) ให้สัมภาษณ์ว่า คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นนักศึกษาจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งนายบอลเปิดภาพนิ่งให้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีดู ซึ่งเป็นภาพกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งของสถาบันคู่กรณี พร้อมบอกว่า “หลายคนในภาพเป็นกลุ่มที่รุมทำร้ายเมื่อวานนี้” อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

โดยนายบอล ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากับกลุ่มคู่กรณีมาก่อน ตนเชื่อว่าที่ถูกทำร้ายครั้งนี้ เป็นเพราะความขัดแย้งต่างสถาบัน ที่คู่กรณีตั้งใจมาทำร้ายตนและเพื่อน อย่างไรก็ตามตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามตัวคนก่อเหตุ มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

สำหรับอาการของนายบอลขณะนี้ ดีขึ้นมากแล้ว บาดแผลที่ถูกฟันแผ่นหลัง เย็นทั้งหมด 30 เข็ม และนายบอลบอกว่า ตนสักยันต์ที่แผ่นหลัง แต่กลับไม่ช่วยให้ปลอดภัยเลย หลังจากนี้ก็จะรักษาตัวให้ดีขึ้นก่อน แล้วจึงจะปรึกษากับครอบครัวเรื่องคดีต่อไป