ผัวรับสิ้นทุบเมียดับก่อนจัดฉากล้มเอง น้องเขยรับทะเลาะบ่อยเชื่อพลั้งมือ (คลิป)

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ รับแจ้งมีคนเป็นลมเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ โดยเมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิต นางกัณยาณี ทองสุข อายุ 38 ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน โดยมีนายอุทัย ทองสุข อายุ 42 ปี สามีนั่งกอดร่างภรรยาในสภาพเมาเหล้า กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง พร้อมกับบอกว่าภรรยาเป็นลมเสียชีวิต

แต่จากการตรวจสอบพบผู้ตายอยู่ในสภาพใบหน้าบวมปูด และเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงแจ้งประสานแพทย์เวร รพ.รัษฎา รีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา

จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบผู้ตายในสภาพใบหน้ามีแผลฟอกช้ำไปทั่ว ทั้งเปลือกตา 2 ข้าง ใบหน้า แก้ม บวมปูดทั่วใบหน้า กรามซ้ายยุบ มีเลือดออกทางปากและจมูก เชื่อว่าสมองจะต้องได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่ขณะที่นายอุทัย สามีผู้ตายให้การในเบื้องต้นวกไปวนมา ยืนยันเสียงแข็งขณะที่ยังอยู่ในอาการเมาว่า ภรรยามีอาการชักและเป็นลมเสียชีวิตเอง บริเวณสวนกล้วยหน้าบ้าน ไม่มีใครทำอะไร โดยที่น้องสาวเป็นคนลากภรรยาเข้ามาในบ้าน ตนไม่รู้ไม่เห็น ที่ผ่านมาภรรยาไม่เคยมีโรคประจำตัวใด ๆ ส่วนที่ตนแจ้งตำรวจช้า เพราะไม่คิดว่าภรรยาจะเสียชีวิต  และไม่อยากให้ภรรยาเสียชีวิต  

ล่าสุดวันที่ 26 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานที่สภ.รัษฎา ร.ต.อ.สถาพร จ้องโก้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เรียกญาติพี่น้อง คนในครอบครัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งได้ควบคุมตัวนายอุทัยออกจากห้องควบคุมตัว สภ.รัษฎา ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายอุทัยให้การรับสารภาพแล้วว่า เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาจนเสียชีวิตจริง ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

ทางด้าน พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีทางโทรศัพท์ว่า คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนใด ๆ ล่าสุดฝ่ายชายให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายภรรยาจนเสียชีวิตจริง โดยผู้ต้องหากล่าวอ้างว่า ทะเลาะกับภรรยา และมีการด่าทอกัน โดยฝ่ายภรรยาพูดจาไม่ดี จึงใช้มือชกบริเวณใบหน้า และกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนล้มลงเอาใบหน้าลง เป็นเหตุให้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาระบุว่า ไม่ได้สวมเสื้อ และพบว่าบริเวณตามลำตัวมีรอยขีดข่วน จึงได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่องรอยบาดแผลบริเวณลำตัว เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหานายอุทัยว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความ และเมื่อเช้าที่ผ่านมา ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพแล้ว จากนั้นนำตัวมาควบคุมไว้ที่ สภ.รัษฎา โดยครบกำหนดควบคุมตัวในวันที่ 27 ก.ค.63 และจะต้องนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตรังต่อไป  

นายวิจิตร ม่วงทำ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นน้องเขยของผู้ต้องหา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.63 ตลอดทั้งวันตนและผู้ต้องหาไปทำงานด้วยกัน พอตกเย็นงานเสร็จ และฝนตก ทางเจ้าของบ้านที่พวกตนไปช่วยฉาบผิวบ้านได้ซื้อเหล้ามาเลี้ยง ซึ่งผู้ต้องหาก็ดื่มมากเป็นปกติ และตนก็ดื่มด้วย จากนั้นตกค่ำ ก็พากันกลับบ้าน เมื่อมาถึงตนก็ขี่รถเลยไปเข้าบ้าน ส่วนภรรยาตน (น้องสาวผู้ต้องหา) ได้ออกมาที่บ้านพี่ชาย จากนั้นได้โทรบอกตนว่าพี่สะใภ้เสียชีวิตแล้ว ตนไม่เห็นเหตุการณ์ จึงไม่สามารถบอกได้ว่า เกิดอะไรขึ้น แต่ยอมรับว่าทั้ง 2 คน มักมีปากเสียงกันเป็นประจำ และก็อาจมีลงไม้ลงมือบ้างตามประสา แต่ไม่เคยหนัก

แต่มาครั้งนี้พอมาทราบก็พบว่าพี่สะใภ้เสียชีวิต ส่วนตัวก็ไม่อยากพูดมาก เพราะพูดยาก เรื่องปัญหาทะเลาะกันของสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกัน สิ่งที่เป็นห่วงก็คือ หลาน 2 คน ที่ยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นคนดูแล แต่คิดว่าน่าจะเป็นฝ่ายพ่อรับดูแลแทน สงสารขาดทั้งพ่อและแม่ ยังไม่ได้คุยกันในครอบครัวจะช่วยกันดูแลหลานอย่างไร แต่ก็ต้องดูแลกันไป เพราะแม่ก็ไม่อยู่แล้ว และพ่อก็มาติดคุก