ลุงพลสาบานร่วมแม่ชมพู่ ชวนดื่มน้ำวัดพระแก้ว พระห่วงแตกแยกถ้าไม่ให้อภัย (คลิป)

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับ นายชาญ หลาบโพธิ์ ให้ข้อมูลว่า ตนจะนำกล่าวคำสาบานว่า "ข้าพเจ้า ขอสาบานว่าถ้าฆ่าน้องชมพู่ หรือรู้เห็นเป็นใจกับคนร้าย ขอให้มีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิต ภายใน 3 วัน 7 วัน" 

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

ตนจะเป็นคนกล่าวนำและให้ทุกคนกล่าวตาม ส่วนน้ำสาบานนั้น จะนำน้ำใส่ขัน และตนจะดื่มเป็นคนแรก ส่วนใครจะดื่มตามหลังก็แล้วแต่เขา ส่วนถ้าใครไม่อยากดื่มตนก็ไม่บังคับ เพราะการดื่มน้ำนั้นก็ทำไปเพื่อความสบายใจเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับน้ำที่ใช้ดื่มจะเป็นน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่มาจากเขาภูผาแอก ซึ่งตนได้นัดหมายทุกคนไปทำบุญตักบาตรให้พระก่อน และน่าจะเดินขึ้นถ้ำในเวลา 09.00 น. แต่กำหนดการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะรอให้พระฉันข้าวให้เสร็จก่อน เพราะจะนิมนต์พระอธิการบุญมาขึ้นไปร่วมพิธีด้วย

ด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้คำนึงเรื่องเวลาออกจากบ้าน และไม่คำนึงถึงการก้าวเท้าออกจากบ้าน สำหรับการสาบานนั้น ตนก็คงเหนื่อยจากการเดินขึ้นเขาภูผาแอก แต่ก็ต้องไปและยืนยันว่ายินดีที่จะไปสาบานอยู่แล้ว ซึ่งตนคิดว่าหลังสาบานแล้วความสัมพันธ์น่าจะดีขึ้น เพราะการสาบานก็เป็นการสร้างความบริสุทธิ์ใจในกลุ่มพี่น้อง

ทีมข่าวสอบถาม นายไชย์พล วิภา ลุงของของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า กรณีนี้ตนไม่ต้องเตรียมตัวอะไร สบายใจมาก ไม่ต้องเตรียมจะทำหน้าอะไร ตนเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ส่วนจะทักทายกันหรือไม่ ตนคิดว่าหากตนทักไปก็ไม่รู้เขาจะทักตอบไหม ซึ่งตนคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะทักใคร

เรื่องบทคำสาบาน ตนคิดว่าอาจจะยังไม่พอ ตนอยากเอาแบบที่ตนเคยพูด จะได้หนักไปเลย แต่หากเป็นแบบนี้ก็ต้องทำตาม โดยพูดทีละคนจะได้ชัดเจน ตนพร้อมเสมอ

ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลุงพลพูดติดตลกบอกว่า “โอ้ย ต้องมี เพราะเล่นกับของแบบนี้ ผมนับถือศาสนาพุทธอยู่แล้ว พระเครื่องก็ต้องมี อาจเอาไปทุกสำนัก มีเท่าไรขนไปให้หมด” ซึ่งตนพูดหยอกเล่น คงไม่ได้เอาอะไรไป ซึ่งอาจจะใส่ไปหรือไม่ใส่ไปก็ได้ เพราะธรรมะอยู่ที่ใจ พุทธคุณอยู่ที่ใจ ใจตอนนี้พร้อม ร่างกายก็พร้อม คนเป็นพุทธมามะกะ จะรู้ว่าพุทธคุณอยู่ที่ใจ การห้อยหรือไม่ห้อยพระเครื่องจึงไม่ได้จำเป็นอะไร

น้ำสาบานตนยังยืนยันว่าไม่ดื่ม หากดื่มก็ขอให้ไปวัดพระแก้ว หากท้าทายกันตอนสาบาน ตนก็จะท้ากลับว่า “จะกลัวอะไรแค่วัดพระแก้ว” ส่วนตัวไม่สนใจว่าขึ้นไปถ้ำภูผาแอกแล้วใครจะพูดอะไร ส่วนพรุ่งนี้ไม่เตรียมอะไร ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่คิดจะออกจากบ้านกี่โมง ไม่คิดว่าจะก้าวขาไหน

สำหรับการสาบานในวันที่ 28 ก.ค.63 ตาชาญจะจุดธูป 3 ดอก (ตาไหว้กับธูปคนเดียว) และเป็นเป็นคนยกขัน 5 ไหว้สถูปตั้งอัฐิของพระอาจารย์ลิ้น ทีฆปญฺโญ (ทีคะปันโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดภูผาแอก และจะนำสวดนะโม 3 จบ หลังจากนั้นจะกล่าวว่า "ข้าพเจ้า" และให้ทุกคนพูดชื่อของตัวเอง

ทีมข่าวลงพื้นที่วัดป่าภูผาแอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ไปพูดคุยกับ พระอธิการบุญมา ศรีลเตโช เจ้าอาวาสวัดป่าภูผาแอก เปิดเผยว่า อาตมาได้รับการนิมนต์จากตาชาญให้ขึ้นไปถ้ำภูผาแอก เพื่อเป็นสักขีพยานในวันที่ 28 ก.ค.63 ส่วนเรื่องน้ำที่ใช้ดื่มนั้นเป็นน้ำที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติจากถ้ำภูผาแอก และได้ยินว่าตาชาญจะเอาน้ำมาจากบ้านด้วย และเรื่องพิธีกรรมนั้นทางผู้ที่มาสาบานน่าจะทำเอง เพราะอาตมานั้นทำพิธีเกี่ยวกับสาบานไม่เป็น ส่วนเรื่องยาสั่งนั้นตนก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่มั่นใจว่าคงจะไม่มีการใส่ยาสั่ง เพราะในหมู่บ้านแถบนี้นั้น อาตมาไม่เคยได้ยินเรื่องยาสั่ง

สำหรับใครที่ผิดคำสาบานก็ขึ้นอยู่ที่คนที่สาบานว่าเขาจะสาบานว่าอะไร ซึ่งจะเห็นผลใน 3 วัน 7 วันหรือไม่นั้นก็อยู่ที่ความเชื่อ บางคนผิดคำสาบานอาจจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเล็กน้อย แต่อาจจะส่งผลถึงภายภาคหน้า ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ไม่อะไรตายตัว แต่อาตมาคิดว่าการสาบานอาจจะมีส่วนในการปรองดอง เพราะเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นการคลายความสงสัย

สำหรับความศักดิ์สิทธิ์นั้น ถ้ำภูผาแอกเป็นถ้ำที่เก่าแก่ ซึ่งพระอาจารย์ลิ้น ทีฆปญฺโญ (ทีคะปันโย) เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีความเพียร ได้ขึ้นไปอยู่รูปเดียวหลายปีโดยที่ไม่เป็นอะไร ทำให้ชาวบ้านมีความเคารพท่าน และถือว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านเคารพทั้งถ้ำและสถูปของท่าน อีกทั้งเคยมีตำนานว่าภูผาแอกมีเมืองบังบด (ลับแล) เคยมาใส่บาตรท่านอยู่

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องสาบานนั้นอาตมาไม่เคยได้ยินว่าใครมาสาบานแล้วตาย แต่เคยได้ยินว่ามีคนมาบนบานขอเรื่องสอบราชการ และได้รับผลสำเร็จ

นายจักรพันธ์ การสมพรต หรือ แจ็ค กุมารทอง กล่าวว่า หากวางยาสั่งลงในขันน้ำมนต์ ที่มีพระสวดมนต์บทธรรมจักรกัปปวัตตนะสูตร ยาสั่งก็สามารถออกฤทธิ์ได้ แม้จะเอาพระกริ่งกวนในน้ำ ก็ทำลายมนต์ยาสั่งไม่ได้

เนื่องจากผีไม่กลัวพระ แต่ผีจะกลัวพวกเครื่องลาง อย่างอื่น พร้อมแนะนำให้ใช้ท้าวเวสสุวัน พญาครุฑ พญานาค และองค์พระราหูมาใช้ ก็จะแก้คุณไสยยาสั่งได้

นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของชมพู่ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งมีการนัดหมายกันช่วงที่พระฉันท์ข้าวเสร็จ จากนั้นจะขึ้นไปถ้ำภูผาแอกเลย ตนเองไม่ต้องเตรียมอะไร เพราะพ่อเขียนคำสาบานไว้ให้

คงไม่มีการนำสาบาน คงจะเป็นการท่องทีละคน เพราะจะได้ชัดเจนในคำสาบาน ถึงจะเสียเวลาหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไร

ตนเองไม่คิดเอาของดี หรือพระอะไรขึ้นไปด้วย เพราะของดีอยู่ที่ตัว ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรขึ้นไป ยังยืนยันว่าไม่ดื่มน้ำสาบาน จึงไม่จำเป็นต้องพกพระอะไรไป

เรื่องยาสั่งตนเองเคยได้ยินมาบ้าง ตนเข้าใจว่าหากโดนยาสั่งไป ของพวกนี้มันตะกำหนดชื่อมาแล้ว หากกินไปแล้วอาจตายตามมนต์ที่สั่งไว้ ถึงแม้น้ำนั้นจะเป็นน้ำจากบ่อเดียวกัน ขันเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม แผนผังการนั่งสาบาน จะแบ่งแยกชายและหญิง เนื่องจากบริเวณแท่นพิธี ตามความเชื่อแล้วจะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นไปนั่ง จึงจะมีเพียงผู้ชายเท่านั้น ได้แก่ ตาชาญ นายอนามัย นายไชย์พล นายนรินทร์ และนายเสริม นอกจากนั้นผู้หญิงจะนั่งบริเวณด้านล่าง 

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระลูกวัดวัดสร้อยทองพระอารามหลวง กล่าวว่า การสาบานไม่ได้ช่วยอะไร และไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดว่าความจริงจะเปิดเผยออกมา นอกจากนี้การสาบานก็ไม่ได้ส่งผลถึงผู้ที่ทำผิดด้วย แต่การสาบานจะทำให้ครอบครัวแตกแยกมากกว่าเดิม เพราะเป็นการสาปแช่งซึ่งกันและกัน วิธีของคนพุทธจะไม่ทำแบบนี้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน จะยิ่งสร้างความเกลียดชังกันมากขึ้น

หากต้องการความสบายใจ เรียกความไว้วางใจของครอบครัวหรือพี่น้องกลับมา ไม่จำเป็นต้องไปสาบาน เพราะความไว้ใจอยู่ที่พฤติกรรมมากกว่า ตามหลักศาสนาพุทธต้องใช้หลักอโหสิกรรม คือ เลิกโทษกันในเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นความผิด โดยเริ่มให้อภัยกัน ตามด้วยการดูพฤติกรรม ว่ามีความจริงใจต่อกันเหมือนเดิมหรือไม่ และการพูดสาบาน หรือดื่มน้ำร่วมสาบาน ไม่ได้ทำให้คนกลับมาดีกันได้ภายใน 1-2 วัน 

โดยคนที่เป็นสายเลือดเดียวกัน หรือเป็นพี่น้องกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกัน ตราบใดที่ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่ควรไปกล่าวโทษอีกฝ่ายด้วยความระแวง ทั้งนี้ความบริสุทธิ์ใจก็ไม่ได้อยู่ที่ปากพูด แต่อยู่ที่ใจทำ แม้คนจะทำผิดแต่หากใจด้านไม่กลัวบาป คำสาบานก็ไม่มีประโยชน์ โดยคนพุทธก็ไม่ควรทำเพราะเป็นการสาปแช่งกัน ส่วนวิธีที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ควรถือหลักสัจจะ ยึดความจริงเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น พิธีกรรมไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายความจริงจะเปิดเผยออกมาในที่สุด