ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตแบบหมดเปลือกในรายการ ต้มยำอมรินทร์ สำหรับนักร้องเสียงดี "มัม ลาโคนิค" งานนี้เจ้าตัวเล่าว่า เคยดาวน์บ้าน ดาวน์รถ เปย์ผู้ชายพร้อมติดพนัน สูญเงินไปหลายล้านบาท จนวันหนึ่งคิดได้ จึงดึงตัวเองกลับมา ปัจจุบันเหมือนได้มีชีวิตใหม่เพราะหันหน้าเข้าวัดเพิ่งทางธรรมบำบัดจิต จนขาเมาท์ลือสนั่นว่าเตรียมออกจากวงการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดชีวิตหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟกต์ “อั๊ต อัษฎา” ที่ตอนนี้หัวใจยังว่าง เหตุเพราะถูกสาปให้เป็นโสดตลอดชีวิต!!
- "เก่ง ธชย" สายมูตัวจริง เชื่อเป็นข่าวดังเพราะถือศีลปิดวาจา 9 วัน 9 คืน!
- "จอย ชลธิชา" แอบหวั่นอาถรรพ์เลข 7 กับแฟนหนุ่มนอกวงการ
- "หนุ่ม อรรถพร" รับตั้งแต่แต่งงานไม่เคยได้จับเงิน เพราะภรรยาเป็นคนเก็บ!
- "พี สะเดิด" เจ้าพ่อคำคมสอนใจ! รักในการศึกษาธรรมะพอๆ กับเสียงดนตรี
ถาม จริงหรือเปล่าที่เคยเปย์ผู้ชาย
มัม : พี่อ้วนเขาเป็นตัวอย่างเรา เป็นเด็กเราต้องเดินตามผู้ใหญ่
ถาม เปย์หนักสุดให้ผู้ชายคืออะไร??
มัม : ดาวน์รถแล้วให้เขาไปส่งเอง
ถาม ทำไมเราให้เขาเยอะขนาดนั้น เราถูกหลอกหรือเราหลง??
มัม : เราหลง แล้วก็ถูกหลอกด้วย แต่เรารักเขา ชอบเขา สิ่งที่เราให้เขาไป บ้านหรือรถ หรืออะไร เป็นเงินที่เราเก็บหอมรอมริบของเราเอง เราจะให้ผู้ชายสักคน เราจะไม่ไปเบียดเบียนทางบ้าน ทุกอย่างคือจากรายได้ที่เราหามาได้เองทั้งหมด เราให้เขาไม่ใช่ให้หมดตัว เราก็เหลือเก็บไว้บ้าง เรามี เราก็แบ่งปัน
ถาม นอกจากเปย์ผู้ชาย เคยติดการพนันไหม
มัม : ช่วงหนึ่งที่เราทำงานแล้วได้เงินมาจากการร้องเพลง เงินเดือนออกปุ๊บ เราก็ไปเล่นเลย วันไหนได้ก็ได้ วันไหนเจ๊งก็เจ๊ง ดวงไม่ดีพอ เราได้รับเงินมา ก็เสียหมดสามสี่แสน มีครั้งหนึ่งถึงกับเอากุญแจรถเบนซ์วางเลย เพราะเราคิดว่ามันจะได้คืน แต่ปรากฏว่ารถก็ไปเลย พอกลับบ้าน แม่ถามว่ารถไปไหน เราก็บอกเขาไปตามตรง เป็นเรื่องที่แม่เสียใจมาก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย ตอนนั้นเราก็ยังเด็กมากๆ ด้วย แค่ 20 ต้นๆ เอง
ถาม สุดท้ายเราหลุดออกมาจากวงจรนี้ได้ยังไง??
มัม : วันหนึ่งนอนแล้วตื่นขึ้นมานั่งแล้วก็คิดได้เอง เหมือนเราหมดเวรหมดกรรม จะคิดได้เองเลยว่าทำงานแทบตาย เราเอาเงินที่เราทำงานไปเล่นเท่าไหร่แล้ว ทำไมเรายังเล่นอยู่ได้ เล่นไปเพื่ออะไร เล่นแล้วได้อะไร พอเรารู้ตัวด้วยตัวเอง เราก็ตัดสินใจตอนนั้นเลยว่าฉันจะไม่เล่นอีกแล้ว เลิก ตั้งแต่วันนั้นมาคือเราไม่ได้เล่นอีกเลย
ถาม ตอนนั้นกว่าจะเลิกได้เราเสียไปเท่าไหร่
มัม : หลายล้านเลย เพราะตั้งแต่ที่เราได้ทำงานมีขีวิตเป็นนักร้อง เราไม่เคยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยที่จะเอาไปลงทุนทำอะไร ซื้ออะไรเก็บไว้เพราะเราเล่นหมด แต่ตั้งแต่เลิกมา ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นมากๆ ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวการพนันอีกแล้ว
ถาม ในชีวิตเคยถลำลึกไปในทางที่ผิด แต่ปัจจุบันเหมือนชีวิตใหม่ คนใหม่ เพราะมุ่งไปสู่สายธรรมะ
มัม : หลังจากที่เราตาสว่าง เราเลิกเลย หักดิบ แล้วก็ได้รู้จักกับคุณสอง วจี และคุณอุ้ย รวิวรรณ ทั้งสองคุณเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์เอกชัย สิริญาโน ของวัดใหม่ศรีร่มเย็น อำเภอเชียงของ เราได้มีโอกาสขึ้นไปงานกฐินที่วัดนี้ พอไปเราก็ได้เข้าไปนมัสการพระอาจารย์ ท่านเป็นพระสายพัฒนา พัฒนาวัด พัฒนาหมู่บ้าน รวมไปถึงดูแลหน่วยงานต่างๆ ที่ไปขอความช่วยเหลือจากท่าน พระอาจารย์ท่านก็จะช่วยเหลือทุกเรื่องเท่าที่พระอาจารย์จะช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร แทบจะทั่วประเทศไทยเลยที่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ฝึกธรรมะ ฝึกสมาธิอยู่กับท่านซึ่งท่านเป็นคนสอน
มัม : ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งใจ ท่านเลยชวนปฏิบัติธรรม แต่ว่าบอกเลยเราไม่พร้อมที่สุด ที่จะเข้าไปนั่งปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกับท่านได้ แต่ว่าเมื่อมีโอกาสสักครั้งหนึ่ง เราจะต้องทำให้ได้ แล้วตอนนี้ก็เลย ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ แต่ช่วงโควิดเราไปอยู่วัดเลย ตั้งแต่ช่วงเมษายน เราไปนอนที่วัด ไปเป็นจิตอาสา ไปเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ แพ็คหน้ากากอนามัย ลงพื้นที่ผู้ป่วยติดเตียง นำของไปบริจาคกับพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ได้ทำกิจกรรมในวัด อย่างเช่น ดูแลวัด กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ แม้กระทั่งอาหาร ถ้ามีโอกาส ก็จะลงเข้าครัว ทำอาหารของวัดด้วยตัวเราเอง ร่วมกับแม่ครัวที่นั่น
มัม : แล้วท่านก็มีโครงการช่วงปิดเทอม โรงเรียนเชียงของ มีเด็กวัยรุ่น 9 คน มานอนที่วัดด้วย แล้วพระอาจารย์ท่านก็จะนำน้องๆ มาร้องเพลงไลฟ์เฟสบุ๊คเพื่อหารายได้ ช่วยเหลือผู้ที่ลำบากช่วงโควิด
มัม : นอกนั้นเรายังไม่ได้ไปวัด แต่เราได้เห็นจากทางไลฟ์ เราเลยได้แจ้งกับพระอาจารย์ไปค่ะ ว่าถ้าเป็นทางดนตรีมัมช่วยได้ อยากจะไปช่วยไลฟ์ด้วย เราเลยได้ขึ้นไป ช่วยไลฟ์ทุกวันเสาร์ ไลฟ์สดร้องเพลง ก็มีผู้บริจาคเข้ามา ก็ทำมาเรื่อยๆ ทุกวันนี้ พอพระอาจารย์เห็นว่ามัมกับครูอ้วนอยู่ที่วัด ก็เลยมีโครงการให้เราสองคนสอนเด็กๆ ร้องเพลง เด็ก 9 คนที่อยู่โรงเรียนเชียงของ ก็ได้เรียนวิธีการร้องเพลงจากเรา แล้วก็ได้เรียนเต้นกับครูเป็ด แบ่งเป็นคอร์สแบบบ้านเอเอฟเลย แบบครูมัมสอนร้องกับครูอ้วน พอเสร็จแล้วก็ส่งไปเรียนเต้นกับครูเป็ด พวกเราทำบุญด้วยใจ
ถาม สามเดือนเราไปอยู่ที่วัดเลย มีจุดที่เราอยากจะลาวงการไหม ??
มัม : ไม่ค่ะ ไปอยู่ตรงนั้นพระอาจารย์ท่านก็เข้าใจ เวลามีงานเข้ามา เราก็กราบเรียนท่านพระอาจารย์ว่าเราขอมาทำงาน ก็ขอลงมาแล้วพอเสร็จงานเราก็กลับไป
ถาม แปลว่าช่วงนี้ชีวิตหลักๆ ของเราคืออยู่เชียงรายมากกว่ากรุงเทพฯ เลยใช่ไหม
มัม : ตอนนี้อยู่เชียงรายตลอด
ถาม ส่วนมากใช้ชีวิตอยู่ที่วัดแบบนี้คิดไหมว่าจะไปทางธรรม ตัดทางโลกในวงการบันเทิง
มัม : ยังค่ะ ยังคงทำงานอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ
ถาม มาถามถึงงานกันบ้างเห็นว่า ร้องเพลงมา 40 ปี แต่มีเพียงแค่ 2 เพลงที่เป็นเพลงทำมาหากินของเรา
มัม : มันเป็นความอเมซิ่งนะ มัมมีซิงเกิ้ลแรกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พริกขี้หนูกับหมูแฮม เพลง เติมใจให้กัน เราก็ร้องมาเรื่อยๆเจ้าภาพ รือลูกค้าที่ติดต่อเราไป ต้องขอเพลงนี้ นอกนั้นก็เป็นเพลงวาไรตี้หลากหลาย สากล ไทย จีน ได้หมด แล้วก็มา 15 ปี ให้หลังเราก็มาเจอคุณกอล์ฟ เบญจพล เขามีค่าย ก็ชวนเรามาทำอัลบั้มรวมกับศิลปินหลายๆ คน เราก็มีเพลง ความลับ ซึ่งดังมากอีกเพลงของเรา ที่ออกตอนนั้น 2549 ถึงตอนนี้ 2563 ทั้งหมด 14 ปี ปีหน้า 2564 จะมีเพลงออกมาใหม่ ชื่อเพลงว่า จุดเดิม เพลงนี้ออกเราออกคนเดียว จริงๆ แล้วเราจะเข้าห้องอัดเมื่อต้นเดือน ที่ผ่านมาแต่เดี๋ยวได้เข้าห้องอัดเพลงเร็วๆ นี้ ฝากด้วยนะคะ
Advertisement