"จักรทิพย์ ชัยจินดา" ผบ.ตร. ลงนามคำสั่งสำรองราชการ 'วิระชัย ทรงเมตตา' ปมปล่อยคลิปเสียงคดียิงรถ 'บิ๊กโจ๊ก' ทั้งที่เมื่อ23 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา "บิ๊กตู่" เพิ่งเซ็นคำสั่งให้กลับปฏิบัติหน้าที่ สตช. ตามเดิม
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่ง ตร.ที่ 387/2563 ลงวันที่ 29 ก.ค.63 สั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งย้าย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา
- สั่งเด้ง "วิระชัย" รอง ผบ.ตร. เข้ากรุสำนักนายกฯ
- บิ๊กตู่เซ็นคำสั่ง ให้ 'วิระชัย' นั่งเก้าอี้ รอง ผบ.ตร.ตามเดิม ระบุผลสอบเสร็จสิ้นแล้ว
หนังสือคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ตามคำสั่ง ตร.ที่ 383/2563 ลงวันที่ 24 ก.ค. 63 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ซึ่งถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยมีพฤติการณ์และการกระทำเข้าลักษณะมีเจตนาเปิดเผยความลับของทางราชการ และฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งว่าด้วยการให้ข่าวสัมภาษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง ประกอบกับ กองบังคับการปราบปราม ได้รับคำร้องทุกข์ในกรณีกล่าวโทษว่า มีการกระทำอันเป็นการทำผิดต่อรัฐ มีมูลเข้าข่ายตามความผิด พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 74 และตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 21 เรื่อง การห้ามดักฟังทางโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารอื่นใด
กรณีดังกล่าว เป็นเหตุในการสั่งสำรองราชการได้ ตามนัยข้อ 3(1)แห่งกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจประจำ ตร. หรือส่วนราชการใด หรือสำรองราชการ ในส่วนราชการใด พ.ศ.2548 ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรมในการดำเนินการทางวินัยและอาญา เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการในภาพรวมของ ตร. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 61 (2) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.สำรองราชการ ตร. (อัตราเลขที่ สรส.1) ลงชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.