เด็ก 13 ป่วยประหลาดเลือดทะลักออกปากจนช็อก หมอชี้รากฟันแทงเส้นเลือดใต้เหงือก (คลิป)

1 ส.ค. 63

จากกรณีแม่เด็กชายอายุ 13 ปี ร้องเรียนผ่านทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่าตนเองมีลูกชายอายุ 13 ปี ป่วยประหลาด มีเลือดซึมออกจากเหงือก บ้างครั้งนั่งอยู่ก็มีเลือดพุ่งออกจากเหงือกอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นหมดสติไป และเหตุที่มาร้องเรียนเนื่องจากลูกเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันลูกก็ยังมีอาการอยู่เหมือนเดิม ซึ่งหมอไม่สามารถระบุโรคได้ บอกเพียงว่าต้องรักษาตามอาการ และยังไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้

902075

486324

วันที่ 1 ส.ค. 63 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ย่านเจริญกรุง กรุงเทพฯ เพื่อพบกับครอบครัวของเด็กชายวัย 13 ปี นางอักษร พรมนิจ อายุ 44 ปี ป้าของเด็กชายเอ (นามสมมติ) วัย 13 ปี เล่าว่า ตนเองเลี้ยงหลานและเริ่มสังเกตเห็นอาการหลานตั้งแต่ต้นปี 2557 ซึ่งตอนนั้นหลานยังอายุประมาณ 5-6 ปี สิ่งที่ตนสังเกตได้คือเวลาหลานนอนก็จะมีเลือดซึมออกมาเปื้อนที่หมอน ทุกครั้งที่หลานนอนคว่ำหน้าก็จะมีเลือดไหลออกมาเยอะมาก ตนก็พาหลานไปหาหมอแล้วได้วิตามินซีมาทาน กระทั่งวันที่ 15 ก.พ. 63 เป็นครั้งแรกที่เลือดพุ่งออกมา ตนเห็นหลานวิ่งมาหาที่ห้อง และมีเลือดพุ่งออกมาจากปากเยอะมาก หลานก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ตนเองไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จึงรีบเรียกรถพยาบาล เลือดออกมาเยอะเกินจนทำให้หลานหมดสติไป

624013

หลังจากเกิดเหตุเลือดพุ่งครั้งแรก หลังจากนั้นก็เริ่มพุ่งตลอด และจะชอบเป็นตอนกลางคืน บางครั้งนั่งดูโทรทัศน์อยู่และหัวเราะเลือด ก็พุ่งออกมา หรือบางครั้งนอนหลับอยู่ หากเลือดจะพุ่งน้องจะรู้สึกตัวเองว่าเหมือนมีอะไรแตะเหงือก และวิ่งไปห้องน้ำ เลือดก็จะพุ่งออก บางครั้งก็จะให้น้องกัดผ้าห้ามเลือดเอาไว้ ก่อนพาส่งโรงพยาบาล

450448

จุดที่เลือดออกมาคือบริเวณฟันกรามด้านขวา หมอระบุว่าเกิดจากรากฟันกดทับเส้นเลือดดำ เมื่อเป็นมาเรื่อย ๆ หมอก็ได้ผ่าตัดให้ ช่วงนั้นก็อาการดีขึ้น ทิ้งช่วงมา 2-3 ปี ก็กลับมาเป็นอีก ตอนนี้ก็ลามมาที่ฟันหน้า และเลือดก็พุ่งออกมาจากใต้เหงือกเช่นเดิม เปลี่ยนไปมาหลายโรงพยาบาล แพทย์ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ เวลาน้องไปโรงเรียนจะไม่มีอาการ แต่จะเป็นตอนกลางคืนมากกว่า แรก ๆ ผ่าตัดมาแล้วไปโรงเรียน น้องจะปวดหัวและทุบหัวตัวเองบ่อยครั้ง

file

ครอบครัวพยายามรักษามาเรื่อย ๆ แม่ของน้องก็ไปทำงานหาเงินส่งมา กระทั่งมาตอนนี้ช่วงโควิด-19 ตนเองและแม่ของหลานก็ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีแม้ค่ารักษาหลาน หากเป็นไปได้ตนก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ตนไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร จึงตัดสินใจร้องกับสื่อฯ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส