อิทธิพลพายุซินลากู ฝนถล่มน่าน ปชช.ได้รับความเสียหาย 7 อำเภอ 12 ตำบล 28 หมู่บ้าน รวม 229 ครัวเรือน
วันนี้ (3 ส.ค.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน สรุปความเสียหายจากอิทธิพลของพายุ "ซินลากู" ทำให้จังหวัดน่านมีพื้นที่ไดรับความเสียหายใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเพียง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา อำเภอปัว อำเภอบ้านหลวงและอำเภอเชียงกลาง จำนวน 12 ตำบล 28 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 229 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรอีกกว่า 1,000 ไร่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ซินลากู"
- อุตุฯ เตือนอิทธิพล "ซินลากู" ฝนตกหนักยาวถึง 6 โมงเช้า 4 ส.ค.นี้ ภาคเหนืออ่วม!
- "เลย" ฝายขาด ทะลักท่วมทั้งหมู่บ้าน กรมอุตุฯ เตือนพายุ "ซินลากู" น้ำท่วม-น้ำป่า
- กรมอุตุฯ เตือน 67 จังหวัดทั่วไทยรับมือ "ซินลากู" ฝนตกหนักมาก-น้ำท่วม 2-4 ส.ค.นี้
- กรมอุตุฯ คาด "พายุซินลากู" อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน คืนนี้
ที่สำคัญสะพานขาด 2 แห่งและถนนถูกดินสไลด์ 1 แห่ง โดยเฉพาะสะพานข้ามลำห้วยระหว่าง บ้านสาลี่-บ้านห้วยเลา บนถนน หมายเลข 1083 ทางไป อ.นาน้อย จ.น่าน สะพานขาด ชำรุดไม่สามารถ สัญจรผ่านไปมาได้ ชาวบ้านห้วยเลาถูกตัดขาดไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้ ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 15 จังหวัดน่านและชาวบ้านในพื้นที่ ได้สำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบอุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ บ้านห้วยเลา หมู่ 7 ตำบลเชียงของ อำเภอนาน้อย
ด้านนายสัมฤทธิ์สวามิภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายเกรียงไกร เวชอนุรักษ์ นายอำเภอเวียงสา นายจรัสพันธ์อรุณคง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารณภัยจังหวัดน่าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำมวบ พร้อมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ร่วมตรวจสอบเหตุสะพานขาดจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำลำห้วยสาลี่ไหลหลากเซาะตัวสะพานลำห้วยสาลี่ไม่สามารถใช้สัญจรได้ ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมต่อหมู่บ้านบ้านวนาไพร หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยได้สั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้สำรวจเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
และที่อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน นายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอเชียงกลางพร้อมด้วย สำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งเนื่องจากฝนต่อเนื่องเป็นเวลานาน หลายชั่วโมง และได้แจ้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
ทั้งนี้ ได้สำรวจจุดเสี่ยงต่างๆ พร้อมแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังและเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อไป.
.jpg)
