กรณีเมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งความเหตุ น.ส.พยูร พวงใย อายุ 79 ปี ผู้เป็นป้าของนายสุทัศน์ อยู่สา อายุ 54 ปี ถูกนายสุทัศน์ทำร้ายร่างกาย เตะเข้าที่จมูกจนได้รับบาดเจ็บเลือดออกรูจมูกและดวงตาฟกช้ำ เหตุเข้าใจผิดเรื่องการขายที่ดิน โดยนายสุทัศน์กล่าวหาว่า น.ส.พยูร ขายที่ดินให้คนอื่น ไม่ยอมขายให้ตัวเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปตรวจร่างกาย เพื่อจะนำผลมาประกอบสำนวนคดี และดำเนินการตามกฎหมาย แต่ทางครอบครัวของน.ส.พยูร เกรงว่าขณะรอผลตรวจร่างกาย นายสุทัศน์จะย้อนกลับมาทำร้ายอีก จึงร้องมาทางอมรินทร์ทีวี ให้ช่วยกระจายข่าวเป็นหูเป็นตาให้
ล่าสุดวันที่ 4 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมายัง จ.สุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมน.ส.พยูร พวงใย ที่ขณะนี้ย้ายออกจากบ้านออกมาอยู่อาศัยอยู่กับญาติอีกอำเภอหนึ่ง โดยน.ส.พยูร ยังคงมีรอยฟกช้ำบริเวณดวงตาทั้งสองข้างและศีรษะปูดบวม ยังคงมีอาการเจ็บและปวดอยู่บ้าง
น.ส.พยูร บอกว่า ตนอาศัยอยู่บนที่ดินของตนกับหลานสาววัย 11 ขวบ 8 ขวบ และนางลำยอง ผู้เป็นน้องสาว ซึ่งเป็นแม่ของนายสุทัศน์ ที่ขณะนี้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนติดเตียงมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ส่วนนายสุทัศน์นั้นอาศัยอยู่กับภรรยา อยู่บ้านหลังเล็กถัดจากบ้านของตน
ในวันเกิดเหตุ ตรงกับวันที่ 31 ก.ค.63 ตนอยู่ในห้องกับหลานชายที่มาเจรจาขอถมบ่อน้ำ เนื่องจากเพิ่งซื้อที่ดินฝืนข้าง ๆ ได้ เพื่อที่จะทำเป็นทางเชื่อมบ้าน
นายสุทัศน์ ก็ได้เดินเข้ามาพูดว่า "ที่นี่ที่ใคร ไหนว่าจะขายให้กู" แล้วก็เข้ามาเตะเข้าที่จมูกของตน 1 ครั้ง และพูดต่อว่า "จะเอาให้ตายเลยไหม" เมื่อหลานคนอื่น ๆ ของตนเข้ามาประคอง นายสุทัศน์ก็เดินออกจากห้องไปและพูดทิ้งท้ายว่า "จะจัดงานศพ เผาเลยไหม"
น.ส.พยูร บอกด้วยว่า นายสุทัศน์เคยพูดลอย ๆ ว่าจะขอซื้อที่ดินของตนเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่เคยมาเจรจาอย่างจริงจัง แต่จากนี้ตนจะไม่ขายที่ดินแล้ว ตนจะเก็บที่ดินไว้ให้หลาน ๆ แต่จะขอไล่นายสุทัศน์ออกจากบ้าน ส่วนนางลำยอง ตนจะดูแลเอง หากนายสุทัศน์สำนึกบุญคุณที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ 1 ขวบ คงจะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้
ทั้งนี้ตนเคยถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง เนื่องจากนายสุทัศน์ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด เช่น ถูกเอาเท้าเหยียบหน้า เพราะตนบอกว่าอย่าโยนของเสียงดัง ถูกกระชากผม โขกศีรษะกับเครื่องซักผ้า เพราะตนถามว่าผงซักฟอกอยู่ไหน เมื่อตนต่อว่านายสุทัศน์ก็จะขู่ว่า "มึงอยากตายไหม" ตนจึงไม่กล้าที่จะแจ้งความ นอกจากนี้ตนทนมาตลอด แต่ครั้งนี้ตนจะไม่ทนแล้ว ตนเสียใจและอึดอัดใจที่เป็นเจ้าของที่แต่อยู่บ้านตัวเองไม่ได้ ตนขอให้ตำรวจเร่งจัดการจับนายสุทัศน์ และไม่ต้องพากลับมาอีก
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้เดินทางมาหานายสุทัศน์ อยู่สา อายุ 54 ปี ผู้ก่อเหตุดังกล่าว ยอมรับว่าก่อเหตุเตะจมูกน.ส.พยูร จริง เนื่องจากเก็บกดที่ถูกต่อว่ามาเป็นเวลานานตั้งแต่ยังเด็ก เก็บกดที่ถูกต่อว่าเสีย ๆ หาย ๆ มาตั้งแต่เด็ก จนเกิดความแค้นใจ ไม่กลัวชาวบ้านจะมองไม่ดีที่ทำร้ายคนแก่ หากผู้อื่นไม่มาเป็นตนคงไม่เข้าใจ
ทั้งนี้ตนไม่ได้โกธรเรื่องที่น.ส.พยูร จะไม่ขายที่ให้ หากไม่ขายตนก็ไม่ซื้อ แต่แท้จริงน.ส.พยูร โกหกผู้สื่อข่าว เนื่องจากน.ส.พยูร ตั้งใจจะขายที่ดินที่ตนจะซื้อให้กับคนอื่นอยู่แล้ว ชาวบ้านละแวกนี้ ไม่มีใครชอบน.ส.พยูร เนื่องจาก น.ส.พยูร ติดการพนัน ชอบเล่นไพ่และไฮโล มักจะด่าคนอื่นไปทั่ว ถึงแม้น.ส.พยูร จะดูแลแม่ของตนที่ป่วยติดเตียง แต่นางพยูร ก็จะดูแลไปบ่นไปด่าไปอยู่ทุกวัน
นอกจากนี้ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ติดสุรา เพราะเลิกมาหลายเดือนแล้ว และไม่เคยเสพยาเสพติด หากเสพคงโดนจับไปนานแล้ว ไม่ถูกจับแปลว่าไม่ได้เสพ ยืนยันไม่เคยทำร้ายร่างกายน.ส.พยูร แต่เคยตบปากน.ส.พยูร จำนวน 1 ครั้ง เนื่องจากกล่าวหาว่า ตนไปด่าน.ส.พยูร หากน.ส.พยูร จะแจ้งความหรือไล่ตนออกจากบ้าน ตนก็ยอมติดคุก ยอมย้ายออก แต่ขอฝากแม่ให้น.ส.พยูรดูแลต่อ