จากกรณีที่ได้มีการนำเสนอเรื่องราวชีวิตสุดลำเค็ญ ของนายรุ่งโรจน์ ทิพย์รัตน์ อายุ 62 ปี หรือลุงโรจน์ และ ด.ช.กัมปนาท ทิพย์รัตน์ อายุ 10 ขวบ หรือน้องปาน ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนไร้บ้าน ต้องนอนบนรถตุ๊กตุ๊ก อาบน้ำในปั้มน้ำมัน และกินข้าวก้นบาตรพระ ซึ่งลูกชายต้องออกไปช่วยเดินตามพระบิณฑบาตนานนับปี และมีผู้ใจบุญจากทั่วประเทศ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือสองพ่อลูกคู่นี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งบริจาคเงิน สิ่งของเครื่องใช้ หรือแม้แต่บริจาคที่ดิน
ล่าสุด วันนี้ (16ม.ค.) ที่ตลาดกรีนเวย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายภาณุ พิทักษ์เผ่า ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้คุณธรรมเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นผู้ประสานงานการช่วยเหลือ พร้อมด้วยลุงโรจน์ และลูกชาย รวมทั้งคุณครูประจำชั้น ซึ่งเป็นตัวแทนของโรงเรียนเทศบาล 5 ได้ร่วมกันแถลงสรุปความช่วยเหลือ และการบริหารจัดการเงินบริจาค และการวางแผนดูแลสองพ่อลูกคู่นี้ในอนาคต
โดยนายภาณุ เปิดเผยว่า ยอดเงินที่ได้รับบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติทั้ง 2บัญชี ตลอดระยะเวลา 6 วันที่ผ่านมา มียอดเงินบริจาครวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,347,280.35 ล้านบาท(หนึ่งล้านสามแสนสี่หมื่นเจ็ดพันสองร้อยแปดสิบบาทสามสิบห้าสตางค์) แยกเป็นบัญชีของลุงโรจน์ 1,315,160.35 บาท และบัญชีกองบุญเพื่อชีวิตพอเพียงอีก 3,2120 บาท และยังมีการบริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่รวมถึงผู้ที่ต้องการบริจาคที่ดินให้ 1 แปลง ในพื้นที่ อ.บางกล่ำ และโอนกรรมสิทธิ์ให้ทันทีเพื่อใช้สร้างบ้าน
นายภาณุ กล่าวว่า เงินในส่วนนี้จะนำไปใช้จ่ายในเรื่องของบ้านเช่า จัดซื้อรถตุ๊กตุ๊กมือสอง ส่วนที่เหลือก็จะตั้งเป็นกองทุนการศึกษาของน้องปานในอนาคต และเงินทุกบาททุกสตางค์จะมีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อย่างละเอียด และจะมีคณะกรรมการเข้ามาดูแลการเบิกจ่ายเงินของลุงโรจน์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและใช้ในสิ่งที่จำเป็น รวมทั้งจะมีการเปิดเผยยอดเงินบริจาค รวมทั้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกเดือนเพื่อความโปร่งใส
ด้านลุงโรจน์ และน้องปาน ลูกชาย ได้กล่าวของคุณผู้ที่ให้การช่วยเหลือทุกคน โดยเฉพาะลุงโรจน์ ได้กล่าวทั้งน้ำตา ด้วยความตื้นตันใจ ของคุณผู้ที่ให้การช่วยเหลือทุกคน จนทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และไม่คิดว่าชีวิตของตนกับลูกจะมีวันนี้ หลังจากนี้ก็จะขับรถตุ๊กตุ๊กเลี้ยงดูลูกชายต่อไป และจะทำความดีเพื่อตอบแทนน้ำใจของทุกคน ที่ให้การช่วยเหลือ และจะใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมอบหมายให้ทางคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเป็นผู้ดูแลเพื่อความสบายใจ
ส่วนน้องปาน ซึ่งในวันนี้เริ่มมีรอยยิ้มและใบหน้าที่แจ่มใสขึ้น บอกเพียงสั้นๆว่าขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่ให้การช่วยเหลือตนกับพ่อ
ขณะที่ นางกรกมล แท่นมณี และนางณัฐธิดา กรดกางกั้น ครูประจำชั้นของน้องปาน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้ช่วยเหลือน้องปานมาโดยตลอด ทั้งอาหารเช้า อาหารกลางวัน และใส่ห่อกลับไปเป็นอาหารเย็น รวมทั้งเรื่องทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน และเรื่องของสุขภาพ โดยน้องปานจะมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นและเรียนช้ากว่าคนอื่น หลังจากนี้จะต้องเพิ่มการเรียนแบบพิเศษเพื่อพัฒนาด้านทักษะการเรียนให้ดีขึ้น