จากกรณีมีชาวบ้านในชุมชนหลัง สน.ลำผักชี ร้องเรียนทีมข่าวว่า ตนเองนั้นถูกคนร้ายไล่ยิงอย่างอุกอาจ แต่สามารถหลบหนีมาได้ ซึ่งคู่กรณีเป็นลูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
วันนี้ (16 ม.ค. 61) ทีมข่าวเดินทางมาบริเวณที่เกิดเหตุในชุมชนหลัง สน.ลำผักชี ทีมข่าวได้พบกับ นายฮีน อายุ16 ปี และ นายชุบ อายุ 31 ปี น้า-หลาน ซึ่งถูกไล่ยิงจากคู่กรณีที่เป็นลูกตำรวจ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.61 เวลาประมาณ 10.00 น.
นายฮีน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ขับรถมาตามปกติ ระหว่างทาง ได้พบกับรถคู่กรณีอยู่ด้านหน้า มีผู้โดยสาร 2 คน คนซ้อนท้ายเป็นลูกตำรวจพูดว่า “มองหน้าหาเรื่องหรือ”
หลังจากที่ตนได้ขับแซงหน้าไป คู่กรณีได้หยิบปืนจากเอวออกมาเล็งที่ตน ขณะนั้นยอมรับว่า รู้สึกตกใจกลัว จึงขับรถหนี และได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ นายชุบ น้าชายของตนให้ฟัง
จากนั้นตนและน้าชาย จึงขับรถมาที่บ้านของคู่กรณี เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คู่กรณีไม่ได้ออกมาพบ โดยให้เพื่อนมาคุยแทน ตนยืนยันว่าไม่ได้มาหาเรื่อง แต่ระหว่างที่ตนกำลังจะกลับบ้าน เพื่อนคู่กรณีได้ชักปืน ขึ้นมายิงไล่พวกตน 2 นัด นัดแรกยิงโดนพื้น ส่วนนัดที่สองพลาดเข้าไปโดนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง นายฮีน ยอมรับอีกว่า ยังรู้สึกหวาดกลัว เพราะถ้าหลบไม่ทันอาจตายได้ และยืนยันฝ่ายว่า ตัวเองไม่เคยมีปัญหากับลูกตำรวจรายนี้มาก่อน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางฟาติมะ เรืองบุญสม และ นางละมัย พันผึ้ง ญาติของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ที่ครอบครัวร้องเรียนทีมข่าว เพราะกลัวว่าคดีนี้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นลูกตำรวจในท้องที่ และตนทราบมาว่า ทางตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งตนเองให้ทราบ ว่าจับได้แล้ว และตนไม่ได้รับการติดต่อจากครอบครัวผู้ต้องหาอีกเลย ซึ่งตนจึงรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
รวมถึงสำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาให้ดู ระบุชื่อพ่อของผู้ต้องหาว่า มีอาชีพรับจ้าง แต่ความจริงแล้วเป็นตำรวจ เมื่อตนทักท้วง เจ้าหน้าใช้ปากกาขีดฆ่าเท่านั้น ส่วนตัวต้องการให้ฝ่ายคู่กรณีได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะได้ก่อเหตุอย่างอุกอาจในเขตชุมชน
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พบกับ นางอนุสรณ์ ยอดจำปา เจ้าของบ้านหลังที่ถูกลูกหลงยิงใส่บ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเรื่องบ้านตนเปิดประตูทิ้งไว้ และล้างจานอยู่หลังบ้าน ทันใดนั้นได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตามมา ก่อนที่จะพบว่ากระสุน 1 นัด เข้ามาโดนกำแพงบ้าน ทำให้เศษปูนแตกกระจาย บริเวณที่ถูกยิง
ขณะเดียวกันพบกระสุนปืน ตกอยู่บนพื้นบ้าน นางอนุสรณ์ เปิดใจว่า เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะในบ้านมีเด็กเล็กถึง 4 คน วันเกิดเรื่องมีเด็กอายุ 2 ขวบวิ่งเล่นอยู่ ช่วงที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ส่วนตัวห่วงความปลอดภัยว่า หากเกิดความสูญเสีย คงไม่มีใครรับผิดชอบ ส่วนตนนั้นได้ไปแจ้งความแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ให้ตนเป็นพยาน ไม่สามารถแจ้งความได้ ซึ่งตนก็สงสัยว่า ตนเป็นเจ้าทุกข์ ทำไมถึงแจ้งความไม่ได้ เพราะตนได้รับความเสียหาย จึงอยากเอาผิด เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำรอยอีก
ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับ นางเกศราภรณ์ ศรีเมือง มารดาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเรื่องตนอยู่ในบ้าน กำลังอาบน้ำ จึงไม่ทราบเรืองว่า ลูกชายไปทะเลาะวิวาทกับใคร และยอมรับว่า ลูกตนมีปัญหาบ่อย แต่ไม่เคยไปทำใครก่อน ส่วนใหญ่จะถูกกระทำ โดยยืนยันว่า ลูกตนไม่มีปืน ไม่ได้พกปืนไปไหนมาไหน และปืนที่ก่อเหตุ ไม่ใช่ปืนของสามีตน เนื่องจากข่วงเกิดเรื่องสามีตนไปราชการที่ต่างจังหวัด ซึ่งต้องพกปืนไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ลูกชายถูกควบคุมตัวแล้ว โดยตนไม่เคยขอให้ใครช่วยเหลือ และไม่ได้ใช้ตำแหน่งของสามี เข้าไปขอให้ใครช่วย เพราะมองว่า หากลูกผิดก็ต้องรับโทษเช่นกัน
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.เจริญ วิทิตกรกุล รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.ลำผักชี ยืนยันว่า พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้มีการบิดเบือนสำนวนแต่อย่างใด ขณะนี้ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาไว้ในสถานพินิจแล้ว เนื่องจากทั้งคู่เป็นเยาวชน พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามฆ่า และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าปืนที่ใช้เป็นของใคร มีใบอนุญาตหรือไม่ และยิงปืนในที่สาธารณะ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้เข้าข้างลูกตำรวจแน่นอน และไม่มีประโยชน์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนส่งฟ้องศาลต่อไป