จากกรณีที่ตำรวจบุกค้นตึกแถว 3 ชั้น ฝั่งตรงข้ามบ่อนเฮียตี้ 4 ศพ ซึ่งพบว่า ใช้เป็นสถานที่เก็บกล้องวงจรปิด และอุปกรณ์การพนัน ปรากฏว่า พอขึ้นไปตรวจดูที่ชั้น 2 และ 3 เป็นที่พัก และเป็นครัว ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ติดอาคารเก็บซ่อนของกลาง เปิดเผยว่า คูหานี้เคยมีคนอาศัยอยู่ และเป็นร้านอาหารไว้สำหรับบริการคนในบ่อน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ “นางแก้ว" (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า ตนไม่เห็นวันที่มีการขนย้ายของกลางออกจากบ่อน เพื่อไปเก็บซ่อนไว้ แต่ทราบว่า อาคารพาณิชย์คูหาที่มีการเก็บซ่อนของกลางเอาไว้นั้น เปิดเป็นร้านอาหาร แต่ไม่เคยเห็นคนในพื้นที่เข้าไปใช้บริการ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีคนขับรถเข้าออกอยู่เป็นประจำ แต่กลับไม่มีคนเข้าไปรับประทานอาหาร และตนสังเกตว่าร้านอาหารนี้ใช้ประกอบอาหาร เพื่อเข้าไปให้บริการคนที่อยู่ในบ่อนกิน และที่ผ่านมาขณะที่ตนไปซื้อส้มตำจากร้านที่อยู่ใกล้กับคูหาดังกล่าว ตนมักจะเห็นคนถือถาดอาหารเตรียมเสิร์ฟ แล้วเดินเข้าที่ประตูทางเข้าบ่อนเป็นประจำ จึงทราบว่านำอาหารเข้าไปให้คนในบ่อนกิน
สำหรับอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ตนไม่ทราบว่า ผู้เช่าเป็นเจ้าของคนเดียวกันกับบ่อนหรือไม่ รู้เพียงว่ามีการเปิดเป็นร้านอาหารมานานแล้ว และส่วนตัวไม่เคยไปซื้ออาหารจากร้านดังกล่าว
นอกจากนี้ จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณบ่อนที่เกิดเหตุ ว่าใครรู้จักและเคยพบเห็นเด็กซื้อของ หรือคนที่มีการขนย้ายของในวันเกิดเหตุหรือไม่ พร้อมนำภาพจากวงจรปิดภายในบ่อน ที่ปรากฏตามข่าวให้ดู ชาวบ้านต่างบอกว่าไม่รู้จัก ไม่เคยพบเห็น และปฏิเสธให้ข้อมูลบุคคลที่อยู่ภายในบ่อน เนื่องจากหวั่นกลัวในความปลอดภัย