ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ส.ค. 63 ที่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 10 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จับภาพขณะที่นายสุทิน วุฒิสินธุ์ อายุ 83 ปี เจ้าของบ้าน กำลังเดินกลับมาที่บ้านเพื่อหยิบหน้ากากอนามัย ซึ่งกำลังจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลบางปะกง จังหวะนั้น มีร้อยเอกหญิงพรรษมนตร์ อายุ 45 ปี เพื่อนบ้าน เดินลงมาจากบ้าน พร้อมถืออาวุธมีดมาด้วย
นายสุทินหยุดเดิน เพราะกลัว ก่อนที่ร้อยเอกหญิงรีบเดินเข้าไปหานายสุทิน ใช้อาวุธมีดเข้าทำร้ายร่างกายทันที ทำให้นายสุทินพยายามปัดป้อง แล้ววิ่งหนี ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในบ้านแล้วล็อกประตูหน้าบ้านทันที ซึ่งคนในบ้านก็รีบออกมาช่วย โดยที่น.ส.สุกันดา วุฒิสินธุ์ อายุ 41 ปี ลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่ในรถเก๋งเห็นเหตุการณ์ รีบบีบแตรให้คนในบ้านออกมาช่วยเหลือ จากนั้นก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางปะกงได้เข้ามายังจุดเกิดเหตุ พร้อมเจรจากับผู้ก่อเหตุ โดยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานเกือบ 30 นาที สามารถนำตัวร้อยเอกหญิงไปที่โรงพักได้ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยร้อยเอกหญิงให้การรับว่าก่อเหตุจริง แต่ยังให้การไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ส่วนญาติของนายสุทินให้การว่าร้อยเอกหญิงพักอยู่คนเดียว มีอาการทางประสาท เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่แทงคนในบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนในบ้านต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะไม่มีใครมารับตัวร้อยเอกหญิงไปรักษาได้ จนมาเกิดเหตุครั้งนี้ขึ้นอีก
นายเกรียงไกร สาริกะวณิช อายุ 45 ปี ลูกเขยคนเจ็บ เล่าว่า ตอนเช้าพ่อกำลังจะไปหาหมอตรวจสุขภาพประจำปีที่กรุงเทพ ฯ แต่พ่อลืมหยิบหน้ากากอนามัยไป จึงเดินย้อนกลับมาบ้าน จะมาหยิบหน้ากากอนามัย จังหวะนั้นร้อยเอกหญิงใช้มีดปอกผลไม้ปลายแหลมจ้วงแทงและฟันพ่อตาตน ถูกฟันเข้าที่แขน 2 ข้าง และริมฝีปาก เป็นแผลเปิดขนาดใหญ่เย็บรวม 60 เข็ม
ส่วนผู้ก่อเหตุและพ่อตาตนมีศักดิ์เป็นญาติห่าง ๆ กัน ผู้ก่อเหตุต้องเรียกพ่อตาตนว่าปู่ เมื่อก่อนไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ ไปเรียนที่อื่น กระทั่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผู้ก่อเหตุกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เป็นทหาร และเหตุการณ์แปลกเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่นั้นมา ถือมีดอีโต้ทำครัวมา ตามหาสุนัขบนบ้านของพ่อตาตน ทำร้ายชาวบ้าน เอาหินปาใส่ ชาวบ้านโดนทั้งรถทั้งคนก็มี และทุกครั้งที่ก่อเรื่องก็จะหายตัวไป ปีที่แล้วก็เลี้ยงกระต่าย นำขี้กระต่ายมาทิ้งในถังน้ำ ทำน้ำขังส่งกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องถังขยะ คนมาเตือน ก็เอากรรไกรมาไล่แทง
ส่วนตัวอยากให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุ พาไปรับการรักษาอย่างจริงจัง และไม่ควรเป็นทหารแล้ว เพราะมีพฤติกรรมอันตรายมาก ทั้งที่พ่อตาตนไม่เคยไปทำอะไรให้ผู้ก่อเหตุแค้นใจ ผู้ก่อเหตุเคยให้พ่อตาตนไปช่วยต่อไฟให้ที่บ้าน แล้วกลับไปแจ้งความว่า พ่อตาตนจะไปทำร้ายไปปล้ำเขาอีก
ตนจึงมองว่า ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลอันตราย เป็นคน 2 บุคลิก คล้ายป่วยทางจิต และงงว่าเป็นทหารได้อย่างไร ถึงไม่ไปทำงาน ไม่ไปทำงาน สร้างความเดือนร้อนคนอื่น แต่กลับมีเงินเดือนเข้าทุกเดือน ตำแหน่งก็ขึ้น ตนมองว่าครอบครัวหรือต้นสังกัดควรมีการจัดการอะไรมากกว่านี้
ด้าน น.ส.อัญชลี รุ่งรส ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า คนก่อเหตุเป็นบุคคลอันตรายเวลาชาวบ้านขี่รถผ่านชอบปาข้าวของออกนอกหน้าต่างมาใส่ ส่วนตนยังเคยโดนกระถางธูปหรือขวดปามาใส่ตน ขณะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจนรถเกือบล้มมาแล้ว ที่ผ่านมาใครเดินผ่านหรือขี่รถผ่าน ผู้ก่อเหตุก็ตะโกนด่าคนอื่นไปทั่ว และถ้าผู้ก่อเหตุไม่พอใจใคร เคยจับจักรยานทุ่มใส่ชาวบ้านมาแล้ว อีกทั้งเคยเอากรรไกรไล่แทงญาติตัวเองมาแล้ว แทงเสร็จวิ่งหนีเข้าบ้าน
บางครั้งตนเห็นผู้ก่อเหตุเคยวิ่งไปด่าทอชาวบ้านที่ทำการประมงพื้นบ้าน และตะโกนว่า "มันด่า ต้องเอามีดไปฆ่ามัน" แล้วก็นำมีดดาบยาวไปวิ่งไล่ฟันชาวบ้าน ทั้งที่ไม่เคยมีใครไปด่าผู้ก่อเหตุ ตนเองกลัวว่าคดีของร้อยเอ็กหญิงที่ทำร้ายญาติจะถูกเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวออกมาอีก ทุกครั้งที่ชาวบ้านแจ้งจับไปโรงพัก ก็จะถูกตำรวจปล่อยตัวออกมาอีก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน
สำหรับร้อยเอกหญิงที่ก่อเหตุ หลังเกิดเหตุมีผู้บังคับบัญชาโทรหาญาติผู้บาดเจ็บ ระบุว่าผู้ก่อเหตุที่ไม่ได้ไปทำงาน เพราะเนื่องจากไปทำงานแล้วสร้างความเดือนร้อนให้เพื่อนร่วมงาน จึงสั่งให้อยู่บ้าน ไม่ต้องมาทำงาน แต่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บสงสัยว่า ทำไมไม่ให้ออกจากราชการ
เบื้องต้น ตำรวจ สภ.บางกะปง แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยในชั้นสอบสวนตำรวจคัดค้านการประกันตัว