ลุงพลร่ำไห้กอดสาวสุดอึดมาหานั่งรถ 27 ชม. ยอมเสีย 6 พันหวังให้กำลังใจ (คลิป)

เมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี รายงานที่บ้านของนายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ พบว่ายังมีคนมาเยี่ยมให้กำลังใจไม่ขาด มีทั้งจาก จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.นครพนม จ.สกลนคร จ.พังงา และอีกหลาย ๆ จังหวัด

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

โดยช่วงเช้ามีพระสงฆ์จากวัดบ้านงิ้ว อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร 3 รูป เดินทางมาที่บ้ายลุงพล ซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจทั้งบ้านลุงพล และบ้านน้องชมพู่ พร้อมกับนำพระเครื่อง สัพพัญญูเสวยวิมุตติสุข 4 องค์, แผ่นทองพิมพ์รูปพระพุทธเจ้า จากประเทศอินเดีย, ตุ้มปรอทดำกายสิทธิ์ แบบห้อยคอ 4 เส้น แบบวางบนหิ้งพระ 1 องค์ พระปางนาคปกจากพระธาตุพนม

จากนั้นมีการผูกข้อมือให้กับลุงพล ป้าแต๋น ขอให้ชีวิตมีความสุข ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป และก็มีการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล นอกจากนี้พระอาจารย์ทวีชัย คุณากโร หัวหน้าที่พักสงฆ์เขาทองถ้ำน้ำทิพย์ บ้านงิ้ว ต.โนนยาง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ได้ให้ป้าแต๋นหยิบสลากกินแล่งรัฐบาล 2 ใบ เลข 374093 ซึ่งพระอาจารย์แบ่งให้ป้าแต๋น 1 ใบ

พระอาจารย์ทวีชัย ระบุว่า อาตมาเดินทางมาให้กำลังใจลุงพล และครอบครัวชมพู่ โดยส่วนตัวไม่ได้มาเข้าข้างใคร เพียงดูข่าวแล้วก็อยากมาให้กำลังใจ โดยเฉพาะลุงพลเป็นคนซื่อ ๆ มีเอกลักษณ์ พูดเสียงดัง ตรงไปตรงมา ซึ่งนิสัยคล้ายกับอาตมา ที่พูดเสียงดัง พูดหวานกับคนไม่เป็น วันนี้อาตมาไม่ได้มาทำพิธี เพียงอยากมามอบพระ ผูกฝ้ายข้อมือให้ สิ่งที่นำมาบอกลุงพล คือ หากบริสุทธิ์ใจ ตามพระพุทธเจ้าตรัสไว้ ทำดีย่อมได้ดี ธรรมใดย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม อาตมาขอให้ทุกฝ่าย หากจิตใจบริสุทธิ์อะไรก็ไม่สามารถทำร้ายเราได้ เราประพฤติสิ่งใด สิ่งนั้นต้องคุ้มครองเรา แต่ถ้าเราทำผิดจริง เราคงหลีกเลี่ยงกฎแห่งกรรมไม่ได้ เวรกรรมมีจริง ใครทำสิง่ใดจะได้แบบนั้น

โดยสิ่งที่มอบให้ คือ รูปของพระพุทธเจ้าในสถานที่ตรัสรู้ ซึ่งอาตมาบูชามาจากประเทศอินเดียวราว 3-4 ปีแล้ว ลูกตุ้มปรอท ซึ่งเป็นเครื่องราง ที่เชื่อว่าเป็นสสารพลังงาน เป็นประเภทเดียวกับเหล็กไหล จะคุ้มครองไปในสิ่งที่ดี อะไรไม่ดีที่จะเข้ามา ก็จะถูกดังเอาไว้ ไม่ให้สิ่งไม่ดีเข้ามาเข้ามาทำให้เดือดร้อน ตุ้มลูกใหญ่ก็เป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่ให้บูชาไว้บนหิ้งพระ ให้ต่ำกว่าพระพุทธ และเกจิ

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายนี้อาตมาอยากบอกว่า หากเราไม่ได้กระทำ ย่อมไม่ผิด ความจริงย่อมเป็นความจริง ความลับไม่มีในโลก สักวันหนึ่งความจริงจะเปิดเผยออกมา ส่วนใครจะเข้าข้างใคร เป็นเรื่องทางโลก เป็นเรื่องของจิตใจ แต่ละคนมีปัญญาที่สั่งสมมาต่างกัน

ขณะที่นางชบา มณีอ่อน เป็นข้าราชการของ อ.ทับปุด จ.พังงา เดินทางมาที่บ้านลุงพล โดยนำของฝากมามอบให้ลุงพล เป็นกะปิกับปลาจิ้งจั้ง นอกจากนี้ยังมอบพระพุทธอิทธิมงคลชัย วัดบางเหรียง จ.พังงา มามอบให้แก่ลุงพล และผูกข้อมือเรียกขวัญ

นางชบา เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจาก อ.ทับปุด จ.พังงา โดยเดินทางมากัน 2 คน ตนมุ่งหน้า ตั้งใจลางานมาให้กำลังใจลุงพล เพียงอยากมาให้กำลังใจ ส่วนตัวเดินทางโดยรถทัวร์โดยสาร ออกจากบ้านมาตั้งแต่ 10.00 น. ของวานนี้ จากนั้นมาลงรถที่นครราชสีมา ยืมรถเพื่อนที่อยู่นครราชสีมา ขับมุ่งตรงมาที่บ้ายลุงพลเลย ส่วนตัวตั้งใจเดินทางมาตั้งนานแล้ว ตั้แต่ลุงพลยังไม่ดัง แต่ด้วยติดภารกิจหลายอย่าง ตอนนั้นลุงพลถูกกล่าวหาเป็นผู้ต้องสงสัย ตนก็อยากเดินทางมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มาจึงมาวันนี้

ทั้งนี้ตนขอยังนำกะปิกับปลาจิ้งจั้ง เป็นปลาตัวเล็กตัวน้อย เพราะเป็นของดีที่ จ.พังงา ตนพูดได้ว่าระยะทางที่เดินทางมา “โคตรไกล” โดยเดินทางมาถึงที่บ้านลุงพลช่วงเวลา 13.00 น. ของวันนี้ รวมเวลา 27 ชั่วโมง ตนขอให้ลุงพล สู้ ๆ เป็นห่วงเพราะดูข่าวแล้วก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอะไร นักข่าวจะให้ทดสอบอะไร ลุงพลก็ทำหมด จึงอยากมาให้กำลังใจ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของตนที่เดินทางมาภาคอีสาน

ลุงพล ระบุว่า ตนดีใจ จากนั้นก็เหมือนจะร้องไห้ และขอกอดนางชบา 1 ที ที่เดินทางมาไกลเพื่อมาให้กำลังใจตน จังหวะนี้นางชบา ช่วยตอบก่อน ลุงพลจะร้องไห้ ระบุว่า ตนก็จะเดินทางกลับเลย โดยน่าจะไปพักที่ตัวเมืองโคราช 1 คืน

ลุงพล พูดต่อว่า ตนดีใจที่คนเห็นในสิ่งที่ตนพยายามแสดงออกว่าตนบริสุทธิ์ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ ตนไม่คิดว่าจะได้กำลังใจดีขนาดนี้ ตนก็ขอให้นางชบาสู้ ๆ รักษาสุขภาพเช่นกัน 

ส่วนบรรยากาศในช่วงเย็นที่บ้านลุงพล มีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข เดินทางมาที่บ้านลุงพล โดยนำป้ายประกาศมาติดที่หน้าบ้าน ระบุข้อความว่า มาบ้านลุงพล ทุกคนต้องป้องกันสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีการมอบหน้ากากอนามัย สมุดลงชื่อ

นายณัฐวุฒิ วังคะฮาต ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอดงหลวง ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง ระบุว่า ตนเดินทางมาแนะนำ และนำข้อเสนอแนะของนายอำเภอ เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข โดยให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ถึงแม้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ในไทยจะไม่มีการติดเชื้อจากคนในประเทศแล้วถึง 2 เดือน รวมทั้งมีการนำสมุดลงชื่อสำหรับผู้มาเยี่ยมเยือนมอบให้ที่บ้าน เพื่อให้มีการเขียนสำหรับคนที่มาเยี่ยมลุงพล