จบไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับซีรีส์ It’s Okay to Not Be Okay เรื่องหัวใจไม่ไหวอย่าฝืน ของ 3 นักแสดงนำ คิมซูฮยอน ซอเยจี และโอจองเซ ผลงานกำกับโดย พัคชินอู (Encounter, Jealousy Incarnate) เขียนบทโดย โจยอง (After the Rain, Jugglers) ซึ่งอีพีท้ายๆ ก็เรียกน้ำตาจนหลายคนเกิดอาการเดียวกัน คือมูฟออนจากมุนคังแทและโกมุนยอง ไปไม่ได้จริงๆ และถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "10 วิธีเยียวยาตัวเอง" จากซีรีส์ It’s Okay to not be Okay
- ทอล์คออฟเดอะทาวน์! "5 เหตุผล" ต้องดู It’s Okay to Not Be Okay
- "8 โมเมนท์ละลายหัวใจ" จากซีรีส์ดัง It’s Okay to Not Be Okay
เรามาดูนวนไปกับซีรีส์สุดปังของคิมซูฮยอน และซอเยจี ใน Netflix กันดีกว่า
มูฟออนไปกับ คิมซูฮยอน
Dream High (2011)
คิมซูฮยอนรับบทเป็น ซงซัมดง เด็กหนุ่มชนบทที่มีความฝันอยากมีฟาร์มเป็นของตัวเอง แต่เมื่อได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนสอนศิลปะการแสดง ทำให้เขาได้ค้นพบพรสวรรค์ด้านดนตรีของตัวเองอย่างไม่คาดคิด ถึงแม้ Dream High จะไม่ใช่ผลงานเดบิวต์ในวงการบันเทิง แต่ก็นับว่าเป็นซีรีส์ที่ทำให้คิมซูฮยอนเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แม้ว่านักแสดงนำร่วมทุกคนต่างเป็นไอดอลในชีวิตจริง แต่คิมซูฮยอนก็ฉายความโดดเด่นและแสดงความสามารถด้านการร้องเพลงออกมาได้ไม่แพ้นักแสดงนำคนอื่นๆ
Dream High เล่าเรื่องราวการไล่ตามความฝันในการเป็นซูเปอร์สตาร์ของเด็กๆ ในโรงเรียนสอนศิลปะการแสดงชื่อดัง ซึ่งนักเรียนแต่ละคนต่างก็พบเจอกับปัญหาและอุปสรรคที่ต้องฟันฝ่าและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เพื่อที่จะก้าวสู่เส้นทางความฝันในวงการบันเทิงตามที่ต้องการ
The Moon Embracing the Sun (2012)
ซีรีส์พีเรียดเรื่องนี้ถือเป็นการก้าวขึ้นมารับบทนำอย่างเต็มตัวของคิมซูฮยอน ทั้งยังได้ประกบกับนักแสดงรุ่นพี่มากฝีมืออย่าง ฮันกาอิน โดยซีรีส์ The Moon Embracing the Sun เประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลานั้น เพราะทำเรตติ้งได้สูงสุดถึง 42.2% และยังทำให้คิมซูฮยอนคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวที Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 48 มาครองได้อีกด้วย
The Moon Embracing the Sun เป็นเรื่องราวความรักต่างชนชั้นระหว่างกษัตริย์อีฮวอน (คิมซูฮยอน) และ วอล (ฮันกาอิน) ที่ต้องพบเจอกับอุปสรรครอบด้าน ทั้งปมของครอบครัว ศัตรู และเกมการเมือง ที่เรียกได้ว่าชวนติดตามแบบละสายตาไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
My Love From The Star (2013)
นับว่าเป็นผลงานที่พาให้คิมซูฮยอนโด่งดังไกลในระดับเอเชียเลยทีเดียว เพราะ My Love From The Star เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากๆ ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย กับบทบาท โทมินจุน ชายหนุ่มจากต่างดาวผู้มีความสามารถเหนือธรรมชาติในหลายๆ ด้าน เขาใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์มาแล้วกว่า 400 ปี เพื่อรอคอยวันที่ยานจะมารับกลับไปยังดาวของตัวเอง
My Love From The Star ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ผสมผสานความแฟนตาซี ว่าด้วยเรื่องราวของ โทมินจุน (คิมซูฮยอน) ชายหนุ่มผู้มาจากต่างดาว แม้จะมีพลังพิเศษ แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติทั่วไป กระทั่งได้มาเจอกับสาวข้างห้องอย่าง ชอนซงอี (จอนจีฮยอน) ซูเปอร์สตาร์สาวผู้โด่งดัง ซึ่งก่อให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ที่ทั้งซีเรียสและสนุกสนานตามมามากมาย
The Producers (2015)
อีกหนึ่งซีรีส์คุณภาพที่เผยเบื้องหลังวงการโทรทัศน์ของเกาหลีออกมาได้อย่างสนุกสนานและน่าติดตาม โดยเรื่องนี้คิมซูฮยอนรับบทเป็น แบคซึงชาน โปรดิวเซอร์น้องใหม่ที่ตามฝันจนสามารถเข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ได้สำเร็จ แต่กลับถูกเลือกให้ไปเป็นทีมงานของรายการวาไรตี้ที่กำลังจะถูกยุบ เขาจึงต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้รายการกลับมาเป็นที่นิยมและยังอยู่ต่อไปได้
The Producers ซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้ที่เล่าเรื่องราวในวงการโทรทัศน์ของเกาหลีทั้งในมุมของคนทำงานเบื้องหลังและการรับมือกับชื่อเสียงของคนดังในวงการบันเทิง ทั้งยังสามารถแทรกเส้นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการทำงานและจรรยาบรรณของคนทำงานเข้ากับเรื่องราวความรักของคนสองคู่ (ชาแทฮยอน-กงฮโยจิน, คิมซูฮยอน-ไอยู) ได้อย่างกลมกลืนและสนุกสนาน
Hotel Del Luna (2019)
บทรับเชิญเล็กๆ ความยาวหนึ่งนาทีในอีพีสุดท้ายของซีรีส์ Hotel Del Luna กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาว์นเมื่อ คิมซูฮยอน ปรากฏตัวในซีรีส์เป็นครั้งแรกหลังเสร็จสิ้นการรับใช้ชาติ โดยรับบทเจ้าของโรงแรมคนใหม่ของ Hotel Blue Moon ซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซีเรื่องนี้ได้นักแสดงฝีมือดีอย่าง ไอยู และยอจินกูมารับบทนำ เรื่องราวของหญิงสาวต้องสาปที่ดูแลกิจการโรงแรมมานับพันปี มีลูกค้าคือเหล่าดวงวิญญาณ จนวันหนึ่งผู้จัดการคนใหม่เข้ามาเร่ิมทำงานที่โรงแรมแห่งนี้ พร้อมๆ กับการคลายปมปริศนาของโรงแรมแห่งนี้และชีวิตของพวกเขา
Crash Landing on You (2020)
คิมซูฮยอน นับเป็นหนึ่งในนักแสดงหนุ่มระดับท็อปของเกาหลี การปรากฏตัวแบบคาดไม่ถึงในซีรีส์ Crash Landing on You ของเขากลายเป็นข่าวดังระดับขโมยซีนอีกครั้ง เพราะมาในคาแรคเตอร์ตัวละครจากภาพยนตร์ Secretly Greatly (2013) ที่เขารับบทสายลับเกาหลีเหนือแฝงตัวมาอยู่เกาหลีใต้ ปลอมตัวเป็นคนเพี้ยนๆ ไว้ผมม้าเต่อ สวมชุดวอร์มสีเขียว บทรับเชิญเล็กๆ นี้ เมื่อมาอยู่ในซีรีส์ Crash Landing on You ก็คล้ายนำสองเรื่องราวมาเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว
มูฟออนไปกับ ซอเจยี
Diary of a Night Watchman (2013)
ซีรีส์ย้อนยุคไปในสมัยโชซอน เกี่ยวกับองค์ชายอีริน ที่ถูกเนรเทศออกจากวังและใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หลังจากที่พระบิดาสิ้นพระชนม์อย่างเป็นปริศนา เมื่อเติบโตมาองค์ชายมีความสามารถในการมองเห็นภูติผีต่างๆ ได้ เขาจึงเป็นหนึ่งในอัศวินรัตติกาลคอยปกป้องผู้คนและไล่ล่าภูตผีปีศาจในยามค่ำคืน แต่แล้วก็มีคนชั่วในวังหลวงที่ใช้เหล่าภูตผีปีศาจมาเป็นเครื่องมือเพื่อยึดครองอำนาจ องค์ชายอีรินจึงร่วมมือกับแม่หมอจากเผ่ามาโก องครักษ์มูซอก และพัคซูรยอน ในการตามหาความจริงและปกป้องบ้านเมืองให้พ้นภัย ในซีรีส์เรื่องนี้ ซอเยจี รับบทเป็นพัคซูรยอน เพื่อนสนิทในวัยเด็กขององค์ชายอีริน
The Bros (2017)
ภาพยนตร์คอเมดี้ดราม่า เรื่องราวของ อีซอกบง ครูสอนประวัติศาสตร์ที่ทำงานไปวันๆ และอีจูบง ที่ทำงานในบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ สองพี่น้องที่ไม่ค่อยถูกกันนัก แต่ต้องมาพบกันอีกครั้งในเมืองบ้านเกิด หลังจากพ่อเสียชีวิต ที่นั่นเองพวกเขาได้พบกับผู้หญิงที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม ทั้งยังเป็นผู้เก็บงำความลับเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเขาเอาไว้ ในเรื่อง The Bros ซอเจยีไปรับเชิญในบทซาร่า เพื่อนร่วมงานบริษัทที่อีจูบงแอบชอบ บุคลิกของซาร่า เป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ กล้าตะโกนเสียงดัง ด้วยความที่เรียนจบมาจากต่างประเทศ ซึ่งจะว่าไปก็เป็นคาแรคเตอร์ที่มีส่วนคล้ายโกมุนยองอยู่ไม่น้อย
Save Me (2017)
ถ้าประทับใจกับบทบาทโกมุนยองในซีรีส์ It’s Okay to not be Okay ขอแนะนำซีรีส์ Save Me ที่ซอเยจี รับบทนำและถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ดีมากๆ กับเรื่องราวสุดหม่นของ ซังมี และครอบครัวที่ตัดสินใจย้ายจากโซลไปยังเมืองชนบท พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด จนได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มภารดรของโบสถ์แห่งหนึ่งที่ดูพฤติกรรมแปลกๆ ไม่น่าไว้วางใจ และสุดท้ายซังมีได้รับรู้ความเลวร้ายของลักธินี้ เธอจะช่วยเหลือครอบครัวรวมถึงตัวเธอเองได้อย่างไร เป็นสิ่งที่ทำให้ซีรีส์น่าติดตาม Same Me เป็นซีรีส์ที่ซอเยจี แสดงร่วมกับ แทคยอน วง 2PM และอูดูฮวาน ที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Baeksang Arts Awards สาขานักแสดงชายหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากซีรีส์เรื่องนี้