วันที่ 11 ส.ค. 63 นายบุญส่ง มั่งมี อายุ 59 ปี ชาว ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เดินทางมาร้องผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมได้หอบเอกสารไปแจ้งความและหลักฐานต่าง ๆ อ้างว่าถูก น.ส.บุญมา อายุ 46 ปี หลอกให้แต่งงาน ซ้ำยังเชิญแขกผู้หลักผู้ใหญ่จำนวนมากทำให้อับอาย สูญเงินมูลค่าเกือบ 200,000 บาทด้วยนั้น
ความเสียหายของนายบุญส่ง มั่งมี ถูกหลอกให้จัดงานแต่งงานตั้งแต่ปี 2562 มูลค่าความเสียหายเกือบ 200,000 บาท
นายบุญศรี ไชยปาละ เมื่อปี 2563 ถูกกู้เงินโดยใช้โฉลดปลอมมาค้ำประกัน มูลค่าเสียหาย 67,000 บาท
นางสุนทร สอนเตจา เมื่อ 2563 ถูกหลอกยืมเงินไป ผู้ยืมอ้างว่าเป็นแฟนของน้องชาย เสียกายไป 14,000 บาท ซึ่งทั้งหมดได้แจ้งความไว้แล้ว รวมความเสียหายประมาณ 281,000 บาท
ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 น.ส.บุญมา รู้จักกับนายบุญส่งทางเฟซบุ๊ก และพูดคุยกันมาตลอด และชอบพอกัน จนกระทั่งตกลงจะแต่งงานและเตรียมการจัดงาน
จากนั้น ในวันที่ 1 พ.ค. 62 นายบุญส่งมาสู่ขอนางบุญมา ใช้สินสอดเป็นเงินสด 40,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท จากนั้นวันที่ 19 พ.ค. 62 น.ส.บุญมาอ้างว่าจะช่วยฝ่ายชายจัดงานแต่งงาน และจัดเตรียมโต๊ะจีนให้
จนถึงวันแต่งงาน 24 พ.ค.62 ปรากฏว่า น.ส.บุญมา ไม่ได้มาร่วมงานและอ้างว่าติดธุระพี่เขยเสียชีวิต ทำให้นายบุญส่งเริ่มสงสัยและเริ่มสืบหาความจริง จนรู้ว่าตัวเองถูกหลอก
ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของ น.ส.บุญมา ผู้ถูกกล่าวหา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี น.ส.บุญธิดา อายุ 20 ปี ลูกสาว เปิดเผยว่า ตอนนี้แม่ไม่ได้มาบ้านหลังนี้นาน 2-3 เดือนแล้ว ติดต่อไม่ได้ เรื่องที่แม่จะแต่งงานหนุ่มใหญ่ จ.อุทัยธานี แต่งงาน ตนพอทราบรายละเอียด แต่มันนานแล้ว ส่วนอีกหลายคดีที่แม่ทำ ตนยืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตอนนี้ยอมรับว่าเครียดเหมือนกันที่แม่ทำแบบนี้ และที่บ้านญาติพี่น้องก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับแม่แล้ว ตนเคยห้ามเคยพูดไปเยอะแล้ว เตือนแล้วแต่แม่ก็ไม่เคยฟัง
ตนเองในฐานะลูก ก็ไม่รู้จะพูดจะบอกอะไรกับแม่ แต่อยากขอให้แม่หยุดการกระทำแบบนี้ ตนทราบแค่ว่าแม่ทำกับคนอื่นมาเยอะ ก็ไม่รู้จะรับผิดชอบอย่างไร และขอให้แม่หยุดได้แล้ว
ด้านนายธานินทร์ อายุ 52 ปี ญาติของ น.ส.บุญมา เปิดเผยว่า ตนและน.ส.บุญมา เป็นญาติห่าง ๆ กัน ที่ผ่านมา น.ส.บุญมา มีพฤติกรรมแบบนี้มานานร่วม 10 ปีแล้ว มักชอบให้คนอื่นแต่งงานด้วย ส่วนใหญ่เป็นคนต่างพื้นที่ และเท่าที่ทราบคือหลายรายแล้ว พฤติกรรมคือทำทีไปแอบอ้างว่ามีฐานะ มีที่ดิน ทั้งที่ไร่และที่นาจำนวนมาก และอ้างว่าเป็นญาติคนดัง
และล่าสุดตนรับการติดต่อจากผู้เสียหายเมื่อปีที่แล้วว่า น.ส.บุญมา ไปชวนแต่งงาน อ้างว่ามีญาติทำโต๊ะจีน พอจัดงานแต่งแล้ว จะนำโต๊ะจีนไปจัดงานเองที่ จ.อุทัยธานี พร้อมวงดนตรี แต่สุดท้ายก็ได้เงินมาร่วม 200,000 บาท แต่ไม่ไปงานแต่ง
นอกจากนี้ น.ส.บุญมา มีพฤติกรรมชอบคุยกับหนุ่มต่างถิ่น ขอยืมเงินกับญาติด้วยกัน แล้วไม่ค่อยได้คืนบ้าง แม้กระทั่งเงินกองทุนหมู่บ้านก็ยืมไป 50,000 บาท ยังไม่ยอมนำมาคืน ตอนนี้ก็เตรียมจะฟ้องร้องแล้ว รวมถึงเคยให้คนจำนองที่ดิน เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย ส่วนตัวตนเองคิดว่าลูกสาวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่ด้วย แต่อ้างไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งตนก็ได้เคยไปสอบถามและต่อว่าหลานไปแล้ว สัมผัสได้ว่าหลานต้องติดต่อแม่