จากกรณี เมื่อเวลา 00.05 น. ของวันที่ 12 ส.ค. 63 พ.ต.ต.วัชชิระ อาสาวุธ สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีผู้ขับรถยนต์เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี มีรถได้รับความเสียหายและคนเจ็บหลายราย บริเวณหน้าตลาด อตก. ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงแจ้งสกัดจับและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยด.ต.อ่อนสี ประสานทอง ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางซื่อ พยายามไล่สกัดผู้ก่อเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนน มีการใช้รถจักรยานยนต์เข้าขวางรถเบนซ์ ผู้ก่อเหตุและพยายามขับรถต่อไป
ต่อมารถคันดังกล่าวถูกพลเมืองดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับไว้ได้ที่แมนชั่นย่านเตาปูน จากการตรวจสอบพบเป็นรถยนต์ยี่ห้อ
เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น E250d สีดำ สภาพด้านหน้าเฉี่ยวชนจนพังยับเยิน กระจกด้านหลังถูกทุบจนแตกเสียหาย
ภายในรถพบ น.ส.วิชุดา วิทยสินธนา อายุ 37 ปี สวมชุดเดรสลายดอกสีฟ้า มีแผลแตกบริเวณคิ้วขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูจึงปฐมพยาบาลก่อนนำตัวไปที่ สน.บางซื่อ จากเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย มีรถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 4 คัน ได้รับความเสียหาย
เหตุการณ์เริ่มจากรถเบนซ์ขับรถเฉี่ยวชนรถแท็กซี่ที่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 7 ก่อนจะขับรถไปต่อไป ด.ต.อ่อนสี จึงขี่รถจักรยานยนต์มาสกัดที่แยกไฟแดงสะพานควาย แต่รถเบนซ์ก็ยังไม่หยุด และยังทำท่าจะขับชนตำรวจ และผู้คนที่ขวางอยู่ตรงบริเวณนั้น
กระทั่งสัญญาณไฟเขียว รถเบนซ์ได้ขับหนีมาติดไฟแดงที่แยกกำแพงเพชร เลี้ยวซ้ายมาที่ซอยสนั่นเบเกอร์รี่ เริ่มมีพลเมืองดีนำเครื่องกั้นมากั้นไม่ให้รถเบนซ์หลบหนี แต่รถเบนซ์ก็ได้กลับรถและมุ่งหน้าไปที่ถนนกำแพงเพชร ลงอุโมงค์แยกสะพานดำ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าเตาปูนแมนชั่น และเลี้ยวออกถนนเตชะวานิชย์
จากนั้นข้ามสะพานสูงไปสามแยกเตาปูน มุ่งหน้าแยกบางโพ ชนรถจักรยานยนต์ของนายจรัส อาสากู้ภัย ระหว่างทางได้กลับรถและมุ่งหน้ามายังแยกศาลาแดง ก่อนเลี้ยวกลับมายังถนนกำแพงเพชร หน้าโรงปูน และเลี้ยวซ้ายผ่านสวนจตุจักร ก่อนจะพุ่งชนรถมาสด้าสองสีขาวของ น.ส.พิชญา และหลบหนีมายังถนนวิภาวดีขาออก ก่อนขึ้นสะพานกลับรถ บริเวณใกล้วัดเสมียนนารี
จากนั้น รถเบนซ์ใช้เส้นทางถนนวิภาวดี ตัดเข้าถนนพหลโยธินหน้ากรมการขนส่งทางบก ขึ้นสะพานข้ามแยกกำแพงเพชร ลงอุโมงค์สะพานดำ ซึ่งได้ชนรถจักรยานยนต์ของนายกษิดิศ ที่หน้าธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ และเลี้ยวขวาเข้าเตาปูนแมนชั่น ก่อนถูกคนล้อมเอาไว้ได้
หลังจากเกิดเหตุ ได้ทำการตรวจตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด พบปริมาณแอลกอฮอล์ 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงมากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แจ้งข้อหา รวม 4 ข้อหาในความผิดฐาน เมาแล้วขับ, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียทรัพย์, ชนแล้วหนี และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
โดยเมื่อช่วงเที่ยง สามีของผู้ก่อเหตุเดินทางมาเยี่ยม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างการเพื่อตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือด และสารเสพติด รวมไปถึงร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย หรือบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ เนื่องจากขณะที่ผู้ก่อเหตุลงจากรถพบใบหน้ามีคาบเลือด คิ้วแตก
โดยระหว่างที่เดินทางขึ้นรถ น.ส.วิชุดา พร้อมกลับสามี เปิดเผยว่า ตนมีอาการเครียดสะสม เนื่องจากถูกโกงหุ้นส่วนบริษัทโกง มีการฟ้องร้องกับคู่ค้า มีความเสียหายกว่า 2-3 ล้านบาท นอกจากนี้ ถูกอายัดทรัพย์สิน ไม่สามรถนำเงินออกมาใช้ได้ "คุณเข้าใจไหมคนเคยมีเงิน แต่ตอนนี้ไม่มีเงินใช้แล้ว" ซึ่งมีอาการเครียดสะสมมานานแล้ว
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัว น.ส.วิชุดา ไปตรวจร่างกายที่นิติเวชโรงพยายาลตำรวจ เพื่อหาสารเสพติด แอลกอฮอล์ และร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายเสร็จสิ้น ช่วงขากลับมาสอบสวนต่อที่โรงพัก น.ส.วิชุดา กล่าวกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองอยากขอโทษสังคม ส่วนทางด้านผู้เสียหาย ตนเองยืนยันว่ายินดีจะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีทุกคน
ขณะนี้ตนเองอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เพราะยังตกใจ ที่ตนเองขับรถหลบหนีทำให้ไปชนกับคู่กรณีดังกล่าว เพราะมีบุคคลปริศนา เป็นชาย พยายามขว้างหินและขี่รถไล่ตามทำร้ายตนเอง จนตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณคิ้วด้านขวาแตก ตนเองยืนยันว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการกระแทกของตัวรถแน่นอน"
นายสฤญชัย สามีของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนขอโทษผู้เสียหายทุกคน ที่ทำลงไปเนื่องจากมีอาการเครียด ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัวและเรื่องธุรกิจ ซึ่งเป็นความเครียดสะสมมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมเรื่อยมา หลังภรรยาถูกอดีตสามีและเป็นหุ้นส่วนบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมกันฉ้อโกงเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว เล่นหุ้นจนขาดทุน เมื่อถูกจับได้ น.ส.วิชุดา พยายามที่จะขอซื้อหุ้นคืน แต่กลับตกลงกันไม่ได้ ทำให้แต่ละเดือนจะต้องหาเงินมาจ่ายส่วนต่าง ๆ เกือบ 1 ล้านบาท อยากขอให้สังคมเห็นใจและให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมยอมรับผิดกับการกระทำ และยินดีที่จะชดใช้ให้กับผู้เสียหายทุกคน
นายสฤญชัย กล่าวต่อว่า คืนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ทราบลำดับเหตุการณ์ว่าเป็นไปเป็นมาอย่างไร ทราบว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์กว่า 15 คัน ขับตามมาทั้งที่ไม่รู้จักกัน ผู้หญิงขับรถมาตามลำพังแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา ซึ่งหลังเกิดเหตุน.ส.วิชุดา ก็ได้รับบาดเจ็บที่ถูกอิฐตัวหนอนขว้างเข้ามาที่กระจกรถ อย่างไรก็ตาม หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นได้ยื่นประกันตัวแล้วในวงเงิน 85,000 บาท
ด.ต.อ่อนสี ประสานทอง ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเหตุตนได้พยายามไล่สกัดและยับยั้งผู้ก่อเหตุเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย กับผู้ใช้รถใช้ถนน จึงตัดสินใจใช้รถจักรยานยนต์เข้าขวางรถเบนซ์ และพูดเกลี้ยกล่อมให้ลงจากรถแต่ผู้ก่อเหตุพูดจาไม่รู้เรื่อง และพยายามขับรถต่อไป จึงได้ยืนขวางแต่ผู้ก่อเหตุยังคงขับรถฝ่าหนีไปได้ ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บบวมช้ำตามร่างกายเล็กน้อย