เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 22.30 น. พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งเหตุ นายตูน ตูนาเมียน หรือ โทน อายุ 29 ปี ชาวเมียนมา ผู้จัดการร้านคาร์แคร์ ในพื้นที่หมู่ 5 ซอยวัดมหาวงศ์ ต.สำโนง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตบริเวณพื้นหน้าห้องใกล้กับคอมแอร์ โดยมีสุนัขที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว นอนเฝ้าศพอยู่
จากข้อมูลเบื้องต้น นายตูนทำงานที่ร้านคาร์แคร์มานานกว่า 4 ปี ศพนอนคว่ำหน้า แขนขวาพาดอยู่บนคอมแอร์ มีบาดแผลรอยไหม้ที่หน้าท้อง แขนและต้นแขนข้างขวา ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ไม่พบทรัพย์สินเสียหาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้พยายามทำการปั๊มหัวใจช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านและสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะออกมาไล่จับสุขที่เลี้ยงไว้เข้ากรง แต่เกิดลื่น มือและตัวไปพิงกับตู้คอมแอร์ ทำให้ไฟดูดจนเสียชีวิต
วันที่ 13 ส.ค. 63 นายนที ตะระศักดิ์ อายุ 44 ปี เพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ตายทำงานและพักอาศัยอยู่ภายในร้านคาร์แคร์ ซึ่งมีห้องพักให้เป็นตู้คอนเทรนเนอร์ด้านหลังกรงสุนัข ผู้ตายพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว และได้เลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว ได้แก่ เจ้าเจ็ท สุนัขพันธุ์ปลั๊ก เพศผู้ อายุ 5 ปี, เจ้าเศรษฐี สุนัขพันธ์ทางสีขาว เพศเมีย อายุ 1 ปี และเจ้าแดง สุนัขพันธ์ทางสีน้ำตาลแดง เพศผู้ อายุ 1 ปี
โดยเมื่อวานนี้ หลังจากที่ผู้ตายเลิกงานในช่วงเย็น ผู้ตายได้นั่งดื่มเหล้าขาวขวดเล็ก 2 ขวดอยู่กับตนตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายก็ได้อุ้มสุนัขทั้ง 3 ตัวเข้าห้องนอน ส่วนตนก็ได้กลับเข้าไปนั่งในห้องรับแขกของคาร์แคร์ จนเวลาประมาณเกือบ 21.00 น. ผู้ตายได้เปิดประตูห้องออกมาเพื่อจะนำสุนัขทั้ง 3 ตัวเข้ากรงหน้าห้อง แต่สุนัขไม่ยอม ผู้ตายจึงได้พยายามไล่สุนัขให้เข้ากรง แต่เนื่องจากบริเวณคาร์แคร์ฝนตกตั้งแต่ช่วงค่ำ ทำให้พื้นที่เป็นดินเริ่มเปียก ผู้ตายเสียหลักลื้นล้มคว่ำหน้าทับตู้คอมแอร์และถูกไฟฟ้าดูด 3 จุด ได้แก่ แขนขวา ต้นแขนขวา และหน้าท้อง
จากนั้นในเวลาประมาณ 21.06 น. ตนก็ได้ยินเสียงเจ้าเศรษฐีและเจ้าแดงร้องเห่าเสียงดังอยู่นานในบริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้ออกมาไล่สุนัขให้เงียบเสียง และพยายามจะต้อนสุนัขทั้ง 3 ตัวไปไว้ที่กรงหลังร้าน ตนเดินเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ เจ้าแดงก็ได้วิ่งเข้ามากัดตนที่ฝ่าเท้าข้างขวา ซึ่งปกติแม้เจ้าแดงและเจ้าเศรษฐีจะเห่าตน แต่ไม่เคยกัดตนมาก่อน ด้วยความโมโหตนจึงคว้าไม้และวิ่งไล่ตีเจ้าแดง ซึ่งเจ้าแดงก็ได้วิ่งเฉียดไปที่คอมแอร์หลายครั้ง แต่ตนจ้องเพียงจะตีสุนัข ทำให้ไม่เห็นศพ
นอกจากนี้ ขณะที่ตนวิ่งไล่เจ้าแดง สังเกตเห็นว่าเจ้าเศรษฐีได้หันมามองตนแล้วหันไปทางศพอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยขณะนั้น ภายในคาร์แคร์มืดมาก ไม่มีไฟส่องสว่างทำให้ตนมองไม่เห็นผู้ตาย จนผ่านไปประมาณ 10 นาที หลานชายของตนและพนักงานคาร์แคร์คนอื่นได้กลับมาจากข้างนอก สังเกตเห็นผู้ตายนอนฟุบอยู่ที่คอมแอร์จึงตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ โดยขณะนั้นยังคงมีกระแสไฟแล่บอยู่บริเวณแขนของผู้ตายที่สัมผัสกับคอมแอร์ พร้อมกับกลิ่นเนื้อไหม้ที่ลอยคลุ้ง ตนได้พยายามช่วยปั๊มหัวใจ เพื่อรอเจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ปรากฎว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อนแล้ว
ด้านนายฐิติพงศ์ คีรีเขต อายุ 34 ปี พนักงานคาร์แคร์ บอกว่า คอมแอร์เครื่องนี้ไม่ได้เป็นของห้องพักผู้ตาย แต่เป็นของห้องข้าง ๆ ที่ไม่มีใครอาศัย โดยจะปิดคัตเอาต์ไว้อยู่ตลอด มีกระแสไฟ 220 โวลล์ ซึ่งคอมแอร์ดังกล่าวน่าจะมีไฟฟ้ารั่วประกอบกับเมื่อวานนี้ฝนตกและผู้ตายไม่สวมใส่รองเท้าขณะเกิดเหตุ ทำให้ถูกไฟดูดเสียชีวิต
ล่าสุด สุนัขทั้ง 3 ตัวมีอาการหงอย ไม่ร่าเริง เรียกก็ไม่หัน เนื่องจากไม่เห็นผู้ตายตั้งแต่เมื่อคืน โดยทางคาร์แคร์เองก็กลัวว่าสุนัขทั้ง 3 ตัวจะตรอมใจตายตามเจ้าของไป เนื่องจากสุนัขทั้ง 3 ตัวรักผู้ตายมาก เวลาที่ผู้ตายเดินทางไปต่างจังหวัดหรือเดินทางกลับประเทศเมียนมา สุนัขทั้ง 3 ตัวก็จะไม่กินข้าว เอาแต่นอนรอผู้ตายกลับมาจนตัวซูบผอม "สิ่งที่ตนโกธรคือทำไมสุนัขไม่เหาให้ดังหรือบอกเหตุให้ชัดเจนกว่านี้ ไม่อย่างนั้นอาจจะช่วยเหลือผู้ตายได้ทัน แต่จากนี้ตนจะพยายามดูแลสุนัขของผู้ตายต่อ อยากบอกผู้ตายว่าไม่ต้องห่วง"