วันที่ 13 ส.ค. 63 เมื่อเวลา 05.53 น. มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายใน ซอยพัฒนาการ 28 ถนนพัฒนาการ แยก 8 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ จึงประสานรถดับเพลิงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พื้นที่ สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิง และกู้ภัยพระโขนงถึงที่เกิดเหตุ
ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เพลิงอยู่ระหว่างลุกไหม้ชั้นที่ 1 กำลังลุกลามชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่เร่งใช้น้ำควบคุมเพลิง
พบผู้เสียชีวิต 2 คน คือนางประคอง ปริเวคินทร์ อายุ 92 ปี แม่ของเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และนางบังอร ใคร่นุ่นภา อายุประมาณ 40 ปี ลูกจ้างดูแลบ้าน
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านหลังที่เกิดเหตุ อยู่ในหมู่บ้านสวนแหลมทอง 2 ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการภายในซอยพัฒนาการ 28 แยก 8 ซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านพักไม่มีเลขที่ ประตูรั้วหน้าบ้านถูกปิดล็อกไว้ มีเชือกกั้นจุดเกิดเหตุอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน บ้านเป็นลักษณะปูนเครื่องไม้
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของลูกชายผู้เสียชีวิต โดยลูกชายผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า ครอบครัวอยู่ในอาการเสียใจ และยากที่จะทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนศพเตรียมไปรับในวันพรุ่งนี้ที่นิติเวช รพ.จุฬาฯ ก่อนนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ส่วนศพของคนดูแลผู้เสียชีวิต ญาติจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเกาะแก้วเจติยาราม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
นางตระหนักจิต ปานนพภา อายุ 52 ปี หัวหน้า รปภ. ของหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ตนอยู่ที่ป้อม รปภ. หน้าหมู่บ้าน พบกลุ่มเพลิงไฟไหม้ลอยขึ้นจากบ้านที่เกิดเหตุในซอยพัฒนาการ 28 แยก 8 จึงปั่นจักรยานไปดู เห็นเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้ง 191 และกู้ภัยมาที่เกิดเหตุ ขณะที่กำลังรอรถดับเพลิงเข้ามา ตนและ รปภ.อีกรายหนึ่ง นำถังดับเพลิงจำนวน 2 ถัง เข้าไปฉีดที่ตัวบ้านชั้นล่างที่กำลังมีเพลิงไหม้อยู่ เพื่อช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในบ้าน 2 คน คือนางประคอง ปริเวคินทร์ อายุ 92 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเจ้าของบ้าน และนางบังอร ใคร่นุ่นภา อายุประมาณ 40 ปี คนดูแลแม่เจ้าของบ้าน แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงถอยออกมาตั้งหลักเพื่อรอรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน เข้ามาควบคุมเพลิง
จากนั้น ตนเข้าไปช่วยลูกบ้านหลังที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นบ้านที่มีหญิงชรา วัย 89 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงนอนอยู่ในห้องนอนบนชั้นสองของตัวบ้าน พร้อมหลานชาย ตนและกลุ่ม รปภ. ขึ้นไปช่วยกันอุ้มหญิงชราพร้อมถังออกซิเจนลงมาพักไว้ที่บ้านเพื่อนบ้านใกล้เคียง เพราะหวั่นถูกไฟไหม้ ขณะเกิดเหตุลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งพักอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามวิ่งออกมาดูด้วยอาการสติแตก ตกใจ และร้องไห้ตลอดเวลาที่มีการควบคุมเพลิง บอกว่า "แม่ผมติดอยู่ในนั้น ช่วยด้วย ทำอย่างไรดี" พูดวนไปมาหลายรอบด้วยอาการเสียใจ
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พบศพผู้เสียชีวิต 2 รายคือแม่เจ้าของบ้าน และหญิงคนที่ดูแล ตนเห็นแล้วรู้สึกเสียใจกับครอบครัวมาก เพราะลูกชายคนที่พักอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามสนิทสนมกับแม่ มักจะมาดูแลมาหาแม่เป็นประจำทุกวัน ส่วนลูกคนอื่น ๆ พักอยู่ที่อื่น บางคนอยู่ต่างจังหวัด ต่างก็ผลัดกันเข้าเยี่ยมผู้เป็นแม่บ่อยครั้ง
ขณะที่ภาพคลิปวงจรปิดที่บันทึกภาพจากมุมกล้องปากทางเข้าบ้านที่เกิดเหตุ เห็นเป็นแสงคล้ายระเบิด กลุ่มควันดำและแสงไฟเปลวเพลิงไฟไหม้ที่ค่อย ๆ ลุกโหมขึ้น มีชาวบ้านวิ่งออกมายืนมุงดูอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นมีรถกู้ภัยขับเข้ามาในที่เกิดเหตุ และมีรถดับเพลิงจำนวน 4 คันขับเข้ามาที่เกิดเหตุ
นายพิชิต นาคะยืนยงสุข เพื่อนบ้าน เจ้าของบ้านหลังที่อยู่ติดกัน ที่เกือบถูกเพลิงลุกลามจากบ้านที่เกิดเหตุเข้าไหม้บ้านตัวเอง เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุที่บ้านของตนมีแม่ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา นอนอยู่บนชั้นสองของบ้าน ส่วนหลานชายนอนหลับบนชั้นสองของบ้านเช่นกัน ตนตกใจทันทีที่ทราบว่าบ้านข้างเคียงเกิดเหตุไฟไหม้ และเปลวเพลิงลุกโหมไหม้อย่างรุนแรง จนเกือบเข้าไปในบ้านตน ซึ่งเจ้าหน้าที่ รปภ. ช่วยพาแม่ของตนพร้อมถังออกซิเจนลงมาอยู่บ้านเพื่อนบ้านเพื่อความปลอดภัย
ตนยอมรับว่าตกใจ และไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าเกิดขึ้น เชื่อว่าอาจจะเพราะบ้านที่เกิดเหตุ ค่อยข้างเก่ามีอายุกว่า 40 ปีแล้ว จึงอาจจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ทั้งนี้ ตนจะนำเหตุการณ์มาเป็นบทเรียนป้องกันเหตุไฟไหม้ ตรวจเช็กความปลอดภัยของสายไฟหม้อแปลงอยู่บ่อยครั้ง เพื่อความไม่ประมาท ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตคาบ้าน 2 ศพ ตนไม่รู้สึกกลัว เพราะเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงที่รู้จักกันมานาน
