จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 14 ส.ค.63 ร.ต.อ.นิยม สามพร้าว พนักงานสอบสวน สภ.โกสุมพิสัย ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวเสียชีวิตปริศนาคาห้อง จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมกู้ภัยพุทธธรรม 245 โกสุมพิสัย ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่บ้านแพง ต.แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
พบศพ น.ส.สกาวเดือน ชาญศึก อายุ 27 ปี สภาพนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนชั้นล่างของบ้าน เปลือยท่อนบน มีผ้าห่มห่อตัว อยู่บนพื้นบ้านข้างที่นอน ในห้องยังเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้ แพทย์เวรได้เข้าชันสูตรพบสภาพใบหน้าเขียวช้ำ บริเวณลำคอเหมือนมีการบีบรัด น่าจะเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง จึงได้ส่งให้ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ผ่าพิสูจน์ ส่วนสามีคือนายอิทธิชัย วรพระอินทร์ อายุ 52 ปีได้หายตัวไป
ล่าสุดวันที่ 16 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ในเขตพื้นที่ ต.แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม อีกครั้ง เมื่อไปถึงพบว่าบ้านจุดเกิดเหตุ ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตและเพื่อนบ้าน ต่างได้นำศพผู้เสียชีวิตมาทำพิธี สวดอภิธรรมศพ ที่บ้านหลังดังกล่าว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวและเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาช่วยกันเตรียมงาน และรอฟังสวดช่วงเย็นวันนี้เป็นคืนที่ 2
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่อยู่ตามบัตรประชาชนของ นายอิทธิชัย ผู้ก่อเหตุ ในเขตพื้นที่ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้พูดคุยกับ น.ส.ส้ม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี หลานสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ทางนายอิทธิชัย น้าชาย ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาทางครอบครัวเลย ตนโทรศัพท์ไปหาก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่รู้ว่าตอนนี้น้าชายไปหลบซ้อนตัวอยู่ไหน อีกทั้งน้าชายก็ไม่มีญาติที่ไหนแล้ว นอกจากครอบครัวของตน เพราะพ่อแม่ของนายชาย ก็เสียชีวิตไปนานแล้ว
ครั้งล่าสุดที่ตนได้พูดคุยกับน้าชาย เมื่อวันที่ 11 ส.ค.63 ที่ผ่านมา น้าชายได้ติดต่อมาเพื่อขอเลขบัญชี เพื่อโอนเงินให้ลูกของน้าชาย จำนวน 500 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย กระทั่งมาทราบข่าวจากทางโซเชียลฯ ว่าน้าชายไปก่อเหตุดังกล่าว
โดยหลังเกิดเหตุ ตนและครอบครัว ก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนตัวสั่น และไม่คิดว่าน้าชายจะเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมและอำมหิตแบบนี้ ซึ่งปมเหตุที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องหึงหวง เพราะน้าชายเป็นคนที่ขี้หึงมาก รักแฟนมาก แต่ก่อนหน้านี้น้าชายก็ไม่เคยมาปรึกษา หรือเล่าเรื่องส่วนตัวอะไรให้ทางครอบครัวฟัง แม้กระทั่งจะแต่งงานกับผู้เสียชีวิตช่วงปลายปี ทางครอบครัวก็ไม่ทราบ รู้เพียงแค่ว่าทั้งคู่คบหาและไปอยู่ด้วยกันได้ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากตนมีโอกาสได้พูดกับน้าชาย ก็อยากจะบอกว่า "ทำไมน้าชายถึงมีจิตใจโหด เหี้ยม อำมหิตแบบนี้ ถ้าได้ยินในสิ่งที่พูด ก็ขอให้รีบกลับมามอบตัว รับผิดชอบกับการกระทำที่น้าได้ทำไว้โดยเร็วที่สุด" ทั้งนี้ตนอยากขอโทษทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต แทนน้าชายของตนเองด้วย ที่ไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทางครอบครัวยืนยันว่า เหตุที่เกิดทางครอบครัวไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยจริง ๆ หลังจากนี้ทางครอบครัวจะช่วยรับผิดชอบ ในส่วนของค่าเยียวยาให้กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแน่นอน แต่ขณะนี้คนในครอบครัวขอปรึกษากันก่อน ว่าจะสามารถช่วยอะไรได้มากน้อยแค่ไหน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายหนูแดง ชาญศึก อายุ 54 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุขณะนี้ทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุ ยังเงียบ ไม่มีใครติดต่อมาเจรจา หรือรับผิดชอบอะไร กับการเสียชีวิตของลูกสาวเลย อีกทั้งทางด้านนายอิทธิชัย หลังก่อเหตุและหลบหนีไป ก็ยังไม่ติดต่อกลับมา ปิดเครื่องไม่สามารถติดต่อได้
หลังเกิดเหตุ ตนยอมรับว่ารู้สึกโกรธมาก ใจหนึ่งหากเจอตัวนายอิทธิชัย อยากจะฆ่าให้ตาย ให้สมกับที่ทำกับลูกสาวของตน แต่ความเป็นจริงก็คงจะทำอะไรไม่ได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายอิทธิชัย มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ในช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ได้ติดต่อมาบอกว่า เรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่จะไม่นิ่งนอนใจ และจะช่วยเร่งติดตามนายอิทธิชัย ให้ได้โดยเร็ว แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ซี่งตนมีความคิดว่า ขณะนี้นายอิทธิชัย น่าจะหลบหนีไปหลบซ้อนตัวที่ จ.กรุงเทพฯ แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้ ตนก็อยากให้ทั้งนายอิทธิชัย และครอบครัว ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำกับครบอครัวของตนบ้าง ไม่ใช่นิ่งเฉย ซี่งหากตนได้พบหน้านายอิทธิชัย ตนก็อยากจะถามว่า "ทำกับลูกสาว ของผมแบบนี้ทำไม"