กรณีวันที่ 17 ส.ค.63 เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุมีคนเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 100/143 สวนสาธารณะพรุชี หมู่ 2 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เขม่าปืนปิดคดีเด็ก 16 ยิงแม่-น้องก่อนตายตาม ครูเผยไม่คบเพื่อน แต่ไม่ฟันธงติดเกม
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านสูง 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง เจ้าหน้าที่นำเชือกมากั้นกัน ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบ้านรวมทั้งผู้สื่อข่าว โดยจุดเกิดเหตุทราบว่าอยู่ภายในห้องนอนชั้น 2 เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ ทราบชื่อนางสาธิตา อายุ 45 ปี ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาสนามกีฬา ลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 และลูกสาว อายุ 14 ปี
ล่าสุดวันที่ 18 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ได้พูดคุยกับนางฟ้า (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของนางสาธิตา ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า คืนวันที่ 16 สิงหาคม 63 ก่อนพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ตนเองก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมตนถึงไม่ได้ยินเสียงปืน
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ตนเองก็เคยเจอหน้าเขาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิท หรือไปสุงสิงกับเขามาก สำหรับนางสาธิตา ผู้เสียชีวิตที่เป็นแม่ เท่าที่ตนเจอเขา เขาจะดูเงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับเพื่อนบ้าน
ส่วนน้องผู้ชายวัย 16 ปี ลูกชายของนางสาธิตา ตนเคยเจอหน้าเขาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพูดคุยกัน เท่าที่ตนสังเกตน้องผู้ชายวัย 16 ปี เขาจะดูนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ซึม ๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงมาหาที่บ้าน ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และตนก็ไม่เคยเห็นน้องผู้ชายยิ้มหรือหัวเราะอีกด้วย ตนจะเห็นเขาออกจากบ้านก็ตอนที่เดินออกมาทิ้งขยะหน้าบ้านเท่านั้น ซึ่งจะแตกต่างจากน้องผู้หญิงวัย 14 ปี ที่เขาจะมีเพื่อนมารับที่หน้าบ้าน หรือออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ข้างนอกบ้านบ้าง
ส่วนตัวแล้วตนเองก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของนางสาธิตา เพราะโพรไฟล์ทางสังคมของเขาดีมาก ซึ่งเขาเป็นถึงผู้จัดการธนาคาร นอกจากนี้ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยเห็นครอบครัวของนางสาธิตา มีปากเสียงกับลูก ๆ จากบุคลิกภายนอกของนางสาธิตา ตนเองก็คิดว่าเขาน่าจะไม่กดดันลูก ๆ เรื่องการใช้ชีวิต รวมถึงการเรียน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเป็ด ผู้ปกครองของเด็กหญิงนุช (นามสมมติ) เพื่อนของเด็กหญิงวัย 14 ปี ที่เสียชีวิต พร้อมกับพี่ชาย และแม่ โดยนางเป็ด ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุ เด็กหญิงวัย 14 ปี ได้มาเล่าให้กลุ่มเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นลูกสาวของตนฟังว่า เด็กหญิงวัย 14 มีความเครียดมาก เนื่องจากพี่ชายของเขา (น้องผู้ชายวัย 16) และแม่จะทะเลาะกัน และมีปากเสียงกันค่อนข้างบ่อย
โดยสาเหตุที่ทะเลาะกันพี่ชายของเด็กหญิงวัย 14 ปี เขาจะมีนิสัยติดเกม ค่อนข้างที่จะหนัก ซึ่งเด็กหญิงวัย 14 ปีรายนี้ ก็จะชอบมาระบายเรื่องพี่ชายและแม่ของเขาให้ลูกสาวของตัวเองฟังอยู่เป็นประจำ ส่วนกรณีที่ว่า น้องผู้ชายวัย 16 ปี เขาชอบอ่านหนังสือการ์ตูนแนวอาชญากรรม ประเด็นนี้ตนเองก็ไม่ทราบข้อมูลมาก่อน เนื่องจากเด็กหญิงวัย 14 ปี ไม่เคยมาระบายเรื่องนี้ให้ลูกสาวของตนฟัง ซึ่งตนเองก็คาดว่าน่าจะเป็นปมเรื่องที่น้องผู้ชายวัย 16 ติดเกม จนนำมาสู่การก่อเหตุก็เป็นไปได้
ส่วนทางด้านเด็กหญิงนุช (นามสมมติ) ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน เด็กหญิงวัย 14 เพื่อนของตน ได้มาระบายให้ตนฟังว่า เขาเครียด เขาอยากตาย และเขาก็ยังเคยเอามีดโกนมากรีดข้อมือของตัวเองอีกด้วย ซึ่งตอนนั้นตนพยายามเปิดใจคุยกับเพื่อน แต่เพื่อนก็บ่ายเบี่ยง และปฏิเสธว่าไม่มีอะไร
นอกจากนี้ตนยังแอบเห็นข้อความในโทรศัพท์ของเด็กหญิงวัย 14 ที่เขาส่งข้อความส่วนตัวเป็นแชตลับในเฟซบุ๊กของตนเองทำนองว่า “ไม่เป็นไรนะ, อยากเดินข้ามถนนให้รถชนตาย” โดยก่อนหน้านี้เด็กหญิงวัย 14 ยังเคยมาเล่าให้ตนฟังอีกว่า เครียดเนื่องจากแม่และพี่ชายจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกมที่พี่ชายเล่น แต่เด็กหญิงวัย 14 เป็นคนที่นิสัยดี เรียนเก่ง เข้ากับเพื่อนยาก แต่เพื่อนของตนรายนี้ จะสนิทและรักกับพี่ชายของเขามาก
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนางน้ำหวาน (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนเดียวกับผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า เมื่อหลายเดือนก่อน น้องผู้ชายอายุ 16 ปี ได้เอาขยะใส่ถึงดำมาทิ้งที่ถังขยะของชุมชน ซึ่งอยู่ด้านหลังบ้านของตน ปัจจุบันถังขยะย้ายที่แล้ว โดยน้องผู้ชายได้ทิ้งขยะก่อนตน แล้วตนทิ้งตามหลัง ซึ่งตอนนั้นตนเองก็เหลือบไปเห็นว่าขยะที่น้องผู้ชายคนดังกล่าวทิ้ง จะเป็นเอกสารต่าง ๆ และมีหนังสือการณ์ตูนกว่า 20 เล่ม ถูกทิ้งรวมมาด้วยกัน
สำหรับหนังสือการ์ตูนที่ตนเห็นในถังขยะ เป็นการ์ตูนแนวฆาตกรรมอำพราง มีตัวหนังสือบรรยายภาษาไทย มีภาพมีดดาบ และอาวุธมีด รวมถึงภาพบรรยายที่มีการก่อการร้ายอยู่ในการ์ตูนเล่มดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ก็เกิดขึ้นประมาณช่วงต้นปี 63 ตอนที่ตนเห็นหนังสือการ์ตูนดังกล่าว ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าน้องคงชอบอ่านหนังสือการ์ตูนแนวนี้ ไม่ได้คิดว่าจะนำมาสู่เหตุการณ์ดังกล่าว
สำหรับตนเองก็คิดว่า ถ้าน้องผู้ชายอายุ 16 ปี เขาชอบอ่านหนังสือแนวฆาตกรรมอย่างที่ตนเจอในถังขยะจริง ก็อาจเป็นไปได้ที่เขาจะซึมซับ หรืออาจเป็นแรงจูงใจ ในการก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม วันก่อนพบศพตนเองก็ไม่เห็นมีคนแปลกหน้ามาที่บ้านของนางสาธิตาแต่อย่างใด
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังโรงเรียนที่น้องที่เสียชีวิตทั้ง 2 คนศึกษาอยู่ โดยทางโรงเรียนไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ ซึ่งทางครูหัวหน้าฝ่ายแนะแนวของโรงเรียน ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้ตรวจสอบและสอบถามข้อมูลกับครูประจำชั้นของเด็ก ๆ ทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติ หรือปัญหาที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจในการก่อเหตุแต่อย่างใด โดยเฉพาะน้องที่เสียชีวิตวัย 16 ปี ผลการเรียนอยู่ในระดับที่ดี ไม่มีปัญหาทางการเรียน การดสอบและประเมินผ่านกิจกรรมแนะแนวก็ไม่มีปัญหาอีกด้วย
ทั้งนี้ในช่วงเช้าขณะที่เด็ก ๆ เคารพธงชาติในเวลา 08.00 น. คุณครูได้แจ้งให้เด็กนักเรียนในโรงเรียน ยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เด็กอายุ 16 และ 14 ดังกล่าว
นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ มองว่าพฤติกรรมเด็กวัยประถม 7-11 ขวบอ่านการ์ตูน เล่นเกม หรือดูหนังอาชญากรรม สยองขวัญ พฤติกรรมยังแค่สงสัย อยากเรียนรู้ พ่อแม่ตักเตือนได้ หากผู้ใหญ่เห็น ยังห้ามไม่ให้ทดลองทำตามได้ เพราะวัยนี้ยังเชื่อฟังพ่อแม่อยู่
เด็กวัยรุ่นช่วงมัธยมต้น อายุ 12-15 ปี เริ่มติดเพื่อนมากกว่า พ่อแม่พูดอะไรจะไม่เชื่อฟัง ยิ่งห้ามปราม เตือนว่า ไม่ อย่า “ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ” เด็กจะยิ่งทำ ส่วนเพื่อนจะเข้าใจมากกว่า พร้อมลุยไปกับเพื่อน อยู่ไกล้อาวุธ วัยนี้ก็อยากทดลอง หากอ่านการ์ตูน เล่นเกม หรือดูหนังอาชญากรรม สยองขวัญ พฤติกรรมอยากทดลอง แต่ไม่กล้าทดลองมาก
วัยรุ่นมัธยมปลาย ช่วงอายุ 16-18 ปีขึ้นไป เริ่มอยากรู้ อยากทดลอง ทั้งอาวุธ และยาเสพติด หากอ่านการ์ตูน หรือดูหนังอาชญากรรม สยองขวัญ ไม่มีคนชี้แนะ เด็กจะนึกว่าตัวเองอยู่ในเกม ก็อาจทำตามได้ ถ้าพ่อแม่ไม่สนใจ หรือไม่มีเวลาให้คำแนะนำลูก ไม่เป็นที่ปรึกษา พ่อแม่ก็จะกลายเป็นกำแพงที่เด็กพร้อมต่อต้าน