จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 63 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบที่เกิดและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณทุ่งนาท้ายบ้านลาด หมู่ 7 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากมีชาวบ้านไปพบศพ นายสมมาตย์ ศรีชัยวาลย์ อายุ 47 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในทุ่งนา ซึ่งญาติเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม
สภาพศพ นายสมมาตย์ นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าข้าวข้างคันนา พบบาดแผลที่บริเวณศีรษะแตกยาวประมาณ 1 ซม. บริเวณเหนือหูด้านซ้าย ตามร่างกายไม่พบบาดแผลอื่นหรือรอยฟกช้ำ
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบต้นข้าวล้มคล้ายรอยถูกลาก ห่างไปเล็กน้อยพบไฟฉายตกอยู่และพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดบนถนน ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบกระท่อมที่ผู้ตายพักอาศัย ภายในกระท่อมพบขวดน้ำอัดลมสีเขียว และกระป๋องยาฆ่าหญ้า ซึ่งข้างในยังมีน้ำเหลืออยู่ มีเศษอาหารที่เกิดจาการอาเจียน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับส่งศพไปตรวจชันสูตรที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากญาติติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต เชื่อว่าอาจจะถูกฆาตกรรม
วันที่ 18 ส.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิตที่บ้านลาด หมู่ 7 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายรุ่งนภา บัวคภู อายุ 53 ปี พี่เขยของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังพบศพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการนำผ้ามาห่อศพเรียบร้อยแล้ว เบื่องต้นทราบว่าน้องเขยกินยาฆ่าตัวตาย แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าน้องเขยทำไปเพราะสาเหตุใด เนื่องจากปกติเวลาเจอหน้ากัน น้องเขยก็ไม่เคยมาปรึกษาหรือเล่าให้ตนเองฟังถึงเรื่องความเครียด แต่ได้ยินจากน้องสาวว่า น้องเขยบ่นอยากตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนปมเรื่องการทะเลาะวิวาท กับน้องสาวจนทำให้เกิดความเครียด ตนเองยืนยันว่าทั้งคู่ก็มีปากเสียงทะเลาะกันจริง แต่ก็เป็นการทะเลาะตามประสาผัวเมียที่คบหากันมานานถึง 23 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ก็ไม่เคยเห็นทั้งคู่ตบตีกัน เรื่องการฆาตกรรม ตนเองคิดว่าคงไม่ใช่ เพราะคนตายก็เป็นคนในครอบครัว คงไม่มีใครไปทำร้ายจนเสียชีวิต อีกทั้งการจากไปของน้องเขย ก็ทำให้คนในครอบครัวอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ไม่ต่างอะไรกับฝั่งครอบครัวน้องเขยเอง
ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวผู้เสียชีวิต กล่าวอ้างว่าภรรยาของผู้เสียชีวิตมีพิรุธหลังจากน้องเขยเสียชีวิต แล้วจะให้รีบทำการณาปณกิจ ตนเองขอชี้แจงว่า การเสียชีวิตน้องเขยเป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ จึงต้องรีบจัดการศพตามประเพณีตามความเชื่อของคนในหมู่บ้านเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง
ด้านนายศิริสิทธิ์ ศรีชัยวาลย์ อายุ 21 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังรู้สึกเสียใจกับการจากไปของพ่ออย่างกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้แม้พ่อกับแม่จะทะเลาะกันบ่อยครั้ง และพ่อมักจะออกไปนอนที่ทุ่งนา แต่พอหายโกรธก็จะกลับเข้าบ้าน ซึ่งการจากไปของพ่อครั้งนี้ตนและครอบครัวก็ยังติดใจ และอยากให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ความจริงว่าการเสียชีวิตของพ่อเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ส่วนศพของพ่อก็จะเก็บไว้ยังไม่เผา จนกว่าคดีจะคลี่คลาย
พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ นอกจากจะพบขวดน้ำอัดลมและกระป๋องยาฆ่าหญ้าแล้ว เจ้าหน้าที่พบรอยลื่นคันนาใกล้กับกระท่อม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรอยลื่นของผู้เสียชีวิต ส่วนสภาพศพนั้นไม่มีร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้ายจนเสียชีวิต มีเพียงแผลแตกเล็กน้อยประมาณ 1 ซม. ที่บริเวณเหนือหูด้ายซ้าย ซึ่งแพทย์ก็ระบุว่าไม่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ สำหรับกรณีที่ญาติระบุว่ามีต้นข้าวล้มคล้ายรอยลากศพนั้น เท่าที่ตรวจสอบไม่น่าจะใช่รอยลาก แต่เป็นรอยเหยียบหรือนอนทับ ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว เหลือผลการชันสูตรศพและการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์
ล่าสุด ตำรวจเชิญตัวนางอังคณา บัวคำภู อายุ 43 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ เบื้องต้นนางอังคณาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 14 ส.ค. 63 สามีได้ดื่มสุราและทะเลาะกับตน เรื่องความหึงหวง ก่อนที่สามีพาเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้าน และขู่ว่าจะฆ่าตนและจะฆ่าตัวตายตาม จากนั้นได้ขึ้นนั่งทับร่างของตนแล้วใช้มีดปลายแหลมกรีดที่หน้าผาก ซึ่งตนได้ร้องขอชีวิตไว้และเกลี้ยกล่อมจนสามีใจอ่อน ยอมพาออกจากป่ามาที่กระท่อมและพากันกลับบ้าน ซึ่งสามีบอกตนว่าไม่ให้เอาเรื่องและขออย่าบอกใคร
กระทั่งช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 15 ส.ค. สามีได้มาบอกแม่ของตนว่าขอลาไปก่อน จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะสามีก็ทำเหมือนทุกครั้งที่ทะเลาะกัน กระทั่งช่วงเย็นมีคนพบเห็นผู้ตายจอดรถจักรยานยนต์อาเจียนข้างถนนในหมู่บ้าน ซึ่งมีน้ำเขียว และกระป๋องยาฆ่าหญ้าอยู่ข้างตัว
โดยจากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายเป็นคนซื้อมาจากร้านค้าในตัวอำเภอกมลาไสย ทั้งนี้ ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. มีพยานที่มีบ้านใกล้กับจุดพบศพได้ยินเสียงร้องครวญครางเหมือนคนกำลังเจ็บปวดทรมาน จนรุ่งเช้ามีคนมาพบว่าเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากการชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากเลือดออกในกระเพาะอาหาร ซึ่งมีปริมาณมากถึง 700 ซีซี แต่ขณะเจ้าหน้าที่ยังคงไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ว่าเกิดจากการฆ่าตัวตายหรือการถูกฆาตกรรม