กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสวงหา อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตถูกฝังอยู่ในร่องสวนมะนาว หมู่ที่ 9 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจุดแสวงหา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์จากโรงพยาบาลแสวงหารุดไปยังที่เกิดเหตุ
โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องน้ำด้านหลังสวนมะนาวของนายดนัยศักดิ์ ช่างบรรจง อายุ 65 ปี พบร่างของหญิงสาวใส่เสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นถูกมัดด้วยผ้าพลาสติกสีดำ ฝังไว้ในร่องน้ำ ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.วนิดา บุญเนตร หรือ จ้อย อายุ 26 ปี สาวโรงงานแห่งหนึ่งในจ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีบ้านอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ และหายตัวไปเมื่อ 4 วันก่อน
ทางเจ้าหน้าที่จึงนำร่างขึ้นมาเพื่อชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบรอยแดงที่คอ และบริเวณใบหน้าด้านซ้ายมีร่องรอยคล้ายถูกกระแทก ซึ่งขณะที่พบศพมีญาติของน.ส.วนิดา ถึงกับร้องไห้โฮ ก่อนที่จะเป็นลมหมดสติ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งนำตัวส่ง รพ.แสวงหา
ขณะที่บริเวรด้านหน้าสวนซึ่งเป็นห้องพักของคนงานเฝ้าสวน มีร่องรอยลักษณะมีการนั่งดื่มเบียร์กันที่บริเวณด้านหน้า โดยมีขวดเบียร์ตกอยู่ 2 ขวด และพบจอบที่คาดว่าใช้ในการขุดฝังศพทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายดนัยศักดิ์ ช่างบรรจง เจ้าของสวน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองเข้ามาดูสวนมะนาว เมื่อเดินเข้าไปด้านในเห็นในร่องน้ำ มีฝ้ามันสีเหลืองลอยอยู่เต็มร่อง และมีลักษณะคล้ายดินถูกขุดปิดไว้ จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้เข้ามาตรวจสอบ โดยใช้ไม้เขี่ยดูก็พบว่ามีศพถูกฝังอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ทีมข่าวยังได้คุยนางบุญชู บุญเนตร อายุ 47 ปี แม่ของนางสาววนิดา ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเจอลูกล่าสุดคือวันที่ 12 ส.ค.63 ลูกซื้อนมมาให้ตนในวันแม่แห่งชาติ และกลับไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทุกวันหลังจากนั้นก็ติดต่อกันตลอด กระทั่งวันที่ 17 ส.ค.63 ช่วงเวลา 18.00 น. ตนเริ่มโทรศัพท์ติดต่อลูกสาวไม่ได้ จึงได้ขับรถมากับสามี เพื่อไปดูบ้านลูกสาวที่บ้าน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ โทรศัพท์มือถือก็ไม่เปิดเครื่อง ตอนนั้นตนคิดไม่ออกว่าลูกสาวไปอยู่ไหน เพราะลูกสาวไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ลูกสาวจะไม่เคยปิดโทรศัพท์ จึงผิดสังเกตและได้เข้าแจ้งความ
ตอนนี้ตนทราบแล้วว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม เท่าที่ฟังจากหลายคนพูดคาดว่าจะเป็นลูกเขยตน ซึ่งตนก็ยังไม่มีหลักฐาน ปรักปรำยังไม่ได้ รอตำรวจอย่างเดียว อีกทั้งตนเองอยู่คนละบ้านกับลูก จึงไม่ค่อยรู้ว่าลูกสาวมีปากเสียงกับสามีสาเหตุอะไร
หากผู้ก่อเหตุเป็นลูกเขยจริง ๆ ตนเองไม่มีทางให้อภัย อยากบอกว่าใจมันทำด้วยอะไร ทำไมเป็นคนแบบนี้ ลูกตนเป็นคนไม่เคยมีปัญหากับใคร ทำไมถึงทำแบบนี้ สุดท้ายแม่ร่ำไห้อยากเจอลูกสาว “อยากเจอที่ลูกสาวเป็น ไม่ได้เจอแบบตาย” ไม่มีวันให้อภัย ขอให้คนก่อเหตุตายตกไป ไม่มีวันอโหสิกรรม
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนหาตัวสามีผู้เสียชีวิต อีกทั้งหลังเกิดเรื่อง ทราบว่าพ่อของผู้ก่อเหตุหายตัวไปด้วย คาดว่าพ่ออาจจะพาลูกชายหนี ส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่ กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า สัญญาณโทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าสัญญาณหายไป บริเวณ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางมาที่บ้านของนายตั้ม สามีผู้เสียชีวิต แถววัดดอนกร่าง ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้พบกับนางเสวียง ตางจิตร อายุ 63 ปี แม่ของนายตั้ม สีหน้าค่อนข้างเครียด เปิดใจกับทีมข่าวว่าตนไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย ตอนนี้ลูกชายและสามีตนหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเช้า ตนก็ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน ซึ่งตนก็ไม่รู้เลยว่าพ่อได้พาลูกชายหนีไหม เพราะตนไม่สามารถติดต่อลูกได้ และลูกก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับบ้าน
ทั้งนี้ก่อนลูกชายออกจากบ้านช่วงเช้า ลูกบอกตนเองว่าจะไปหาแฟน ตนก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะปกติจะไม่ค่อยพูดคุยกัน และลูกก็ไม่ได้มาปรึกษาอะไรตนด้วย แต่หากลูกทำจริง ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปเลย ตนก็อยากจะบอกเพียงว่าให้ลูกมามอบตัวเพียงแค่นั้น
บทสนทนานายเมฆ สามีผู้ตาย กับน.ส.สุวิมล ผู้เป็นญาติ ในเวลา 08.00 น. ระบุว่า "เจอศพแล้วนะ ให้รีบกลับมา" ซึ่งนายเมฆตอบกลับมาตอน 08.03 น. ว่า "ติดธุระอยู่ จะรีบไป"
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายชาย (นามสมมติ) เพื่อนรุ่นพี่ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ทีมข่าวช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 09.00 น. นายตั้ม ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาหาตนที่บ้านท่าทางรีบ ๆ บอกกับตนว่าช่วยพาหนีหน่อย ตนจึงถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น นายตั้มบอกว่าได้ฆ่าคนตาย ตนจึงถามต่อว่าใคร นายตั้มบอกว่าได้ฆ่าภรรยาตาย ด้วยการบีบคนจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ตอนนั้นตนค่อนข้างตกใจ ตนจึงปฏิเสธไปว่าจะไม่พาหนี และบอกไปว่าให้ไปมอบตัว และอย่าคิดสั้น แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่พูดอะไร ทำสีหน้าลุกลี้ลุกลน และขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป โดยตนนับถือกันเป็นพี่น้อง ซึ่งก่อนหน้านั้นประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เคยมาระบายในทำนองว่ารู้สึกเหมือนแฟนไปมีกิ๊ก ตนก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร ตอนนี้ตนก็บอกได้แค่ว่าให้มามอบตัว และอย่าคิดสั้น
ขณะที่เจ้าหน้ที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายเมฆมาสอบสวน โดยเบื้องต้นพบว่านายเมฆ พร้อมด้วยพ่อของนายเมฆ ซึ่งเป็นคนงานเฝ้าสวนมะนาวดังกล่าว หายตัวไปหลังมีคนพบศพ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว และเตรียมเรียกพยานมาสอบสวนเพื่อหาผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ภาพจากกกล้องวงจรปิดบริเวณตลาดแสวงหาจับภาพขณะที่นายเมฆ สุขคำหรือ ตั้ม มะนาว อายุ 27 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเทาดำพาน.ส.วนิดา หรือน้องจ้อย บุญเนตร สาวโรงงานที่ถูกฆ่าหมกร่องน้ำหลังสวนมะนาว หมู่ที่ 9 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจ รวมถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวเพื่อนของนายตั้มมาสอบสวน ก่อนที่จะเล่าว่านายตั้มเป็นคนบีบคอน้องจ้อยจนเสียชีวิตแต่ไม่ได้ตั้งใจ ทำให้นายตั้มขี่รถออกจากบ้านมุ่งหน้า จ.สุพรรณบุรี