จากกรณีพนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากวัดประทุมบูชา ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน โจรกรรมงัดกุฏิ ลักเงินสดหลักแสนบาท และอัญมณีที่ญาติโยมนำมาถวาย มูลค่านับ 10 ล้านบาทหายไป จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน และหน่วยพิสูจน์หลักฐาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 63
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้ตัวแล้ว! โจรฉกเพชร 10 ล้านบรรจุองค์พระ ไล่กล้อง 32 จุด พบหิ้วสังฆทานก่อนขโมย
ล่าสุดวันที่ 20 ส.ค.63 นายบอย (นามสมมติ) ช่างก่อสร้างภายในวัด กล่าวว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.30 น. ขณะที่ตนเดินผ่านหน้ากุฏิเจ้าอาวาสเพื่อเข้าไปเอาน้ำแข็งข้างหอฉัน ขากลับพบชายรายหนึ่งถือถังสังฆทานอยู่หน้ากุฏิเจ้าอาวาส ตนจึงสอบถามว่ามาทำอะไร ชายรายดังกล่าวระบุว่า มาทำบุญ ตนไม่ได้เอะใจ เดินกลับมาทำงานก่อสร้างของตัวเองต่อ
กระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น. ทราบว่ามีโจรขึ้นไปขโมยทรัพย์สินมีค่าในกุฏิเจ้าอาวาสก็ตกใจมาก ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าชายที่ถือถังสังฆทานมาทำบุญมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ช่วงที่ตนเดินผ่านหน้ากุฏิเจ้าอาวาส มีเพียงชายรายดังกล่าวยืนอยู่คนเดียว โดยเป็นชายผิวเข้ม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ตนไม่คุ้นหน้า คาดว่าไม่ใช่คนที่เข้ามาวัดเป็นประจำ
พระครูพิพัฒน์ธรรมภาณี เจ้าอาวาสวัดประทุมบูชา กล่าวว่า เรื่องชายที่ถือถังสังฆทานเข้ามาในวัด คาดว่ามีส่วนเป็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพบุคคลต้องสงสัยมาให้ตนดู ตนคุ้นหน้าคิดว่าน่าจะเคยเห็นบริเวณบ่อปลา และอาจจะเคยเข้ามาถวายสังฆทานในกุฏิตนด้วย ส่วนตัวเชื่อว่าคนร้ายต้องเข้ามาดูลาดเลาก่อน อาจจะเข้ามาทำบุญแล้วดูลักษณะของประตูต่าง ๆ ว่าจะสามารถงัดแงะด้วยวิธีการใดได้บ้าง โดยคดีน่าจะมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ตนก็เบาใจ
ส่วนเรื่องอัญมณีในตู้เซฟที่หายไปนั้น เบื้องต้นทางผู้ที่ถวายซึ่งมีหลายราย ได้จดรายการส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยชุดที่แพงที่สุดน่าจะเป็นชุดเครื่องประดับเพชร มูลค่าหลักล้าน โดยอัญมณีมณีทั้งหมดจะนำไปบรรจุในพระเมาลี และหัวใจของพระประธานที่กำลังก่อสร้าง ความสูง 26 เมตร กว้าง 16 เมตร
ซึ่งอัญมณียังไม่ได้ถูกแกะจากห่อที่ลูกศิษย์นำมาถวาย แต่ได้แบ่งชั้นเก็บในเซฟตามความตั้งใจของแต่ละคน ชั้นบนเก็บอัญมณีที่ต้องการบรรจุในพระเมาลี บริเวณศีรษะ ส่วนชั้นล่างเก็บอัญมณีที่ต้องการบรรจุบริเวณหัวใจขององค์พระ
โดยเหตุที่ตนไม่ได้นำไปฝากธนาคาร เพราะเป็นการถวายเรื่อย ๆ และต้องเก็บเป็นความลับไม่ให้ใครรู้ เพราะกลัวจะถูกขโมย
อีกทั้งกำหนดการบรรจุอัญมณี คือช่วงกลางเดือนหน้าแล้ว ตนได้เตรียมบาตรคริสตัส ขนาด 15 เซนติเมตรเอาไว้ จำนวน 2 บาตร สำหรับบรรจุอัญมณีใส่ก่อนนำไปบรรจุ โดยต้องใช้ผ้าห่อปิดไว้อีก 3 ชั้น ไม่ให้ใครเห็นว่าด้านในเป็นของมีค่า แล้วจึงให้ช่างพ่นน้ำปูนทับ ก่อนขึ้นโครงเหล็กทั้งองค์ แล้วจึงเทปูนและตกแต่งองค์พระจึงจะเสร็จสิ้น
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลายคนอาจไม่เข้าใจคิดว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวทั้งที่เป็นของลูกศิษย์ที่ถวายมาให้วัดทั้งหมด รวมถึงเงินหัวเตียงจำนวน 170,000 บาทที่หายไป ก็เป็นเงินที่ใช้ในการก่อสร้างพระประธาน และเงินที่ต้องใช้รักษาตัวเกี่ยวกับโรคไขมันเกาะตับของตัวเองด้วย
ทีมข่าวสำรวจวัดพบว่ามีทางเข้าออก 3 ทาง คือประตูด้านหน้า 2 ประตู และทางออกด้านหลังซึ่งไม่มีรั้วกั้น โดยจุดที่คาดว่าคนร้ายหลบหนีออกไป คือบริเวณด้านหลังซึ่งติดกับถนนด้านหลังวัดไม่มีรั้วกัน โดยพบรอยเท้าต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้นำปูนพลาสเตอร์มาหล่อไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งบริเวณนี้มีกล้องวงจรปิด 2 ตัว แต่ไม่สามารถบันทึกภาพได้ ซึ่งโดยรอบวัดมีกล้อง 32 ตัว
พระสัมพันธ์ รัตนวงษ์ วัดประทุมบูชา กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุได้ขึ้นไปประกอบพิธีวันพระใหญ่ที่บนศาลา ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และกลับมากุฏิในเวลาประมาณ 09.00 น. ระหว่างนั้นไม่พบสิ่งผิดปกติ กระทั่งทราบว่าคนร้ายงัดกุฏิเจ้าอาวาส จึงเข้าไปตรวจสอบ
ส่วนตัวคิดว่าคนร้ายน่าจะวางแผนมาแล้ว โดยรู้ว่าพระอยู่บนศาลากันหมด และได้ยินเสียงสวดมนต์ผ่านเครื่องขยายเสียง ทำให้สามารถกำหนดระยะเวลาได้ว่าจะเสร็จพิธีในช่วงเวลาใด
ส่วนเรื่องการถวายเครื่องเพชรและอัญมณีต่าง ๆ ตนไม่เคยทราบมาก่อน เพราะเจ้าอาวาสเก็บเป็นความลับ โดยตนเคยเข้าไปทำความสะอาดในกุฏิเจ้าอาวาส แต่ไม่เคยเข้าไปในห้องเก็บเซฟ จึงไม่ทราบเรื่องทรัพย์สิน ทั้งนี้ ทราบเรื่องการสร้างพระประธานแล้วจะมีการบรรจุของสำคัญในองค์พระ แต่ไม่รู้รายละเอียด ส่วนตัวคิดว่าเป็นฝีมือคนนอกวัด และน่าจะมาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ โดยไม่สงสัยในตัวเจ้าอาวาส เพราะเป็นพระนักพัฒนา และเงินที่ติดตัวท่านก็เป็นเงินใช้ในการก่อสร้างทั้งสิ้น ไม่ใช่เงินส่วนตัวตามที่คนเข้าใจผิด