กรณีการสวมใส่หมวกของครอบครัวน้องชมพู่ นางสาวิตรี จะใส่แบบไม่เย็บระหว่างดวงตา ส่วนนายไชย์พล จะใส่แบบไม่เย็บระหว่างดวงตาเช่นกัน โดยจะใส่แบบพับหมวกด้านในออกมาด้านนอก ขณะที่น้าแต จะใส่แบบไม่เย็บระหว่างดวงตา โดยจะใส่คล้าย ๆ กับลุงพล
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ล่าสุดวันที่ 20 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่บ้านขัวสูง ไปยังร้านค้าภายในหมู่บ้าน ได้พบกับนางสิงห์คำ เจริญพร อายุ 58 ปี เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้านขัวสูง เปิดเผยว่า ร้านค้าภายในหมู่บ้านขัวสูงนั้น จะไม่มีการขายหมวกไหมพรม เพราะชาวบ้านจะนิยมไปซื้อที่ตลาดมากกว่า ซึ่งก็มีชาวบ้านในหมู่บ้านที่อาจจะใส่หมวกไหมพรมสีม่วง ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร
แต่เท่าที่สังเกตเห็นนั้นโดยส่วนมากจะใส่หมวกไหมพรมที่มีลายแถบสีสลับกันมากกว่า ไม่ค่อยเห็นใครใส่แบบเป็นสีล้วน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ใส่หมวกไหมพรมสีม่วงตามที่นางกะทิบอกนั้น ตนก็ไม่ค่อยคุ้นหน้าและไม่เคยเห็น
ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านกวนบุ่น เพื่อสำรวจหาบ้านที่มีหมวกไอโม่งสีม่วง แต่ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือมากนัก โดยทีมข่าวได้พบกับ นายเกรียงไกร เงินนาม อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกวนบุ่น เปิดเผยว่า ในหมู่บ้านก็ยังมีคนใช้หมวกไหมพรมสีม่วงอยู่ โดยจะใส่เมื่อไปทำการเกษตร เช่น ใส่ไปไร่มันและทุ่งนา แต่ตนก็ไม่รู้ว่าบ้านไหนที่มีหมวกไหมพรมสีม่วงบ้าง ซึ่งในหมู่บ้านก็ไม่มีหมวกไหมพรมสีม่วงขาย
นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า สำหรับการเย็บหมวกไหมพรมที่ระหว่างคิ้วนั้นก็เพื่อกันแดด ซึ่งตนก็มีหมวกไหมพรมที่เย็บระหว่างคิ้วเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเย็บแบบนั้น เพราะอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนด้วยว่าจะชอบแบบไหน อย่างไรก็ตาม หมวกไหมพรมนั้นก็มีทุกบ้าน แต่ก็ไม่รู้ใครมีหมวกสีม่วงบ้าง นอกจากนี้ นายเกรียงไกรยังนำหมวกไหมพรมของเจ้าตัวมาให้ทีมข่าวดู เพื่อให้เห็นความแตกต่างของหมวกที่เย็บระหว่างคิ้วและไม่เย็บระหว่างคิ้ว
ขณะที่บ้านน้องชมพู่ โดยช่วงเช้าของวันนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. พ่อ แม่ ก็ช่วยกันจัดแจงเก็บของที่บ้านและนำหม้อและของที่ยืมมาใช้ในงานทำบุญ 100 วันไปเก็บ ส่วนน้าต่าย ก็ช่วยล้างจานจากงานทำบุญ 100 วันของน้องชมพู่ ซึ่งน้าเสริมก็นั่งพูดคุยกับช่างสร้างห้องน้ำด้วย
ต่อมาเวลา 11.30 น. แม่ของน้องชมพู่ น้าต่ายและน้าเสริมก็ออกจากพื้นที่เดินทางไปซื้อประตูห้องน้ำเพิ่มอีก 1 บาน เพราะจะสร้างแบ่งห้องน้ำเป็น 2 ส่วน คือสร้างให้เป็นห้องอาบน้ำและห้องส้วม และเดินทางกลับมาที่บ้านในเวลา 16.30 น. ต่อมาเวลา 17.00 น. พ่อและน้าแตได้ช่วยกันขนโต๊ะหมู่บูชาที่ใช้ในงานทำบุญ 100 วัน ขึ้นรถน้าแตเพื่อนำกลับไปคืนวัดกกกอก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกระแสข่าวการออกหมายจับ แต่ทางครอบครัวน้องชมพู่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ
สำหรับความคืบหน้าห้องน้ำบ้านน้องชมพู่นั้น ตอนนี้ได้มีการเทพื้นปูน และก่ออิฐกำแพงทั้ง 4 ด้าน มุงหลังคาแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งความคืบหน้าของห้องน้ำเสร็จไปกว่า 50 เปอร์เซ็น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่า จะมีฝนตกลงมาหรือไม่ เพราะส่งผลเกี่ยวกับการแห้งของปูน