จากกรณี วันที่ 20 ส.ค. 63 เวลา 14.30 น. ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ วิทยรติโชติตระกูล รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 38 ปี นำด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ ลูกสาว เข้าแจ้งความว่าถูก นายบวร (นามสมมติ) อายุ 38 สามี และเป็นพ่อแท้ ๆ ของ ด.ญ.เอ บังคับข่มขืนใจกระทำชำเราต่อหน้าเพื่อน เหตุเกิดในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยหงษาคำในเขตเทศบาลนครอุดรธานี
ล่าสุดวันที่ 21 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี เนื่องจากได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทางครอบครัวเด็กผู้เสียหายเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ด้านนางใหญ่ ยายของเด็กหญิง บอกทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ยังอัดอั้นตันใจ พูดอะไรไม่ออก เสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นแต่ข่าวในโทรทัศน์ ไม่คิดว่าจะมาเจอกับหลานตัวเอง
พ.ต.ท.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ รอง ผกก.สส. สภ.เมืองอุดรธานี สั่งการให้นำกำลังไปควบคุมตัวนายเคน พ่อของเด็ก อายุ 38 ปี ผู้ถูกกล่าวหาว่าพยายามล่วงละเมิดทางเพศลูกสาววัย 7 ขวบ ซึ่งอาศัยอยู่ในห้องเช่า พร้อมควบคุมตัวมาตรวจปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอนาจารลูกสาวต่อหน้าเพื่อนเหมือนที่ถูกกล่าวหา
พ่อของเด็ก กล่าวว่า ตนขอใช้สิทธิ์ชี้แจงและขอปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งตนไม่ได้พยายามข่มขืนหรืออนาจารลูกสาว ตามที่ถูกกล่าวหา ที่ผ่านมาตนทำงานตลอด จะเอาเวลาไหนไปกระทำลูก ตนเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งและปรักปรำจากบุคคลอื่น เพราะตนเคยมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล ตนไม่ทำตามที่เขาบอก แต่ตนทำตามญาติพี่น้อง ทำให้เขาขาดผลประโยชน์ที่เขาจะได้ ทำให้เขากลั่นแกล้งแนะนำให้พูดเพื่อจะให้ครอบครัวทะเลาะกันเอง
ทั้งนี้ วันเกิดเหตุตนมีพยานซึ่งวันที่ถูกกล่าวหาตนไม่ได้ไปรับลูกที่บ้าน แต่ลูกสาวปั่นจักรยานมาหาที่ห้องเช่า และปั่นจักรยานกลับเอง ที่ผ่านมาตนเลี้ยงลูก 4 คน ตนรักลูกทุกคน โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็ก ตนทำงานหาเงินส่งให้ลูก ตนไม่ได้ทำ มีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ มันไม่ยุติธรรมสำหรับตน อยากฝากถึงเมียว่าคิดได้อย่างไร ถึงมาทำกับตนแบบนี้ ทำไมถึงมาให้เขาดึงจมูก
นางน้อย (นามสมมติ) แม่ของเด็กผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองอยู่กินกับนายบวร หรือ เคน มาประมาณ 21 ปี มีลูกด้วยกัน 4 คน
เป็นหญิงทั้งหมด อายุ 19 ปี, 17 ปี, 12 ปี และคนเล็ก 7 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ตนและนายบวรมีอาชีพรับจ้าง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานายบวรมักจะดื่มเหล้าเป็นประจำ เมื่อเมาแล้วจะทำร้ายตบตีตนเองลูกมาตลอด แรงสุดทุบตี และจะจุดไฟเผาร่างของตนเอง
กระทั่งเมื่อ 9 เดือนก่อน ตนเองได้ตัดสินใจแยกทางกับนายบวร นำลูกคนที่ 1 และ 2 ไปอาศัยอยู่กับแม่ ส่วนลูกคนที่ 3 และ ด.ญ.เอ อาศัยอยู่กับยาย แต่เองตนก็จะไปหาลูกประจำ ส่วนนายบวรได้ไปเช่าห้องอยู่และไปทำงานขับรถรับจ้าง
เช้าวันก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ยายอาบน้ำให้ ด.ญ.เอ เพื่อแต่งตัวไปโรงเรียน เห็นรอยช้ำบริเวณต้นขาทั้งสองข้าง คล้ายกับรอยกดจนช้ำ จึงได้สอบถามหลานเล่าให้ยายฟังว่า เมื่อเย็นวันที่ 15 ส.ค. นายบวร ผู้เป็นพ่อได้มารับ ด.ญ.เอ จากที่บ้านยายไปเล่นที่ห้องเช่า โดยยายไม่รู้ ที่ห้องเช่ามีพ่อและเพื่อนรวม 4 คน ได้ตั้งวงดื่มเหล้าจนเมา ขณะที่ ด.ญ.เอ นอนดูโทรทัศน์อยู่ภายในห้อง พ่อได้เข้ามาจับขาแล้วบีบขาทั้งสองข้างอย่างแรง ก่อนใช้มือลูบที่อวัยวะเพศ ใช้ตะปูกดไปที่ต้นขาทั้งสองข้าง เอามือปิดปากไม่ให้ร้อง ก่อนจะใช้นิ้วแหย่ที่อวัยวะเพศ โดยมีเพื่อนทั้งหมดมายืนดู ด.ญ.เอ จึงได้วิ่งร้องไห้ มาขอความช่วยเหลือจากเจ้าของห้องเช่า แต่ไม่มีใครอยากจะมายุ่งด้วย ด.ญ.เอ จึงปั่นจักรยานกลับมาที่บ้าน
ซึ่งครั้งนี้ถือว่าไม่ใช่ครั้งแรก ที่ลูกสาวคนเล็กของตนเองโดนกระทำ แต่ลูกสาวคนโตของตนเอง วัย 17 ปี ก็เคยถูกหลานชายของสามี ข่มขืนมาแล้วเช่นกัน แจ้งความแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หลังเกิดเหตุ ตนคิดว่าสามีทำเกินไป เหมือนไม่ใช่คน กระทำได้กับลูกแท้ ๆ ของตัวเอง แถมยังทำโชว์เพื่อน หากตนเองมีปืนตนเองก็อยากจะยิงสามีให้ตาย ให้สาสมกับที่ลูกสาวต้องมาเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ ส่วนสาเหตุที่นายบวรกระทำเช่นนี้กับลูกสาว น่าจะมาจากดื่มเหล้า เสพยา ดูคลิปโป๊แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ และตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด