จากกรณีนางสาวกัญญาวีร์ ซาเสน หรือ เจี้ยบ อายุ 26 ปี หายออกจากบ้านพักไปในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 11 ส.ค. 63 ทางญาติได้ออกตามหาพบรองเท้าอยู่ข้างห้วย และคาดว่าอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์เทพนิมิต แต่หัวหน้าสำนักสงฆ์ระบุว่าไม่พบตัว และไม่อนุญาตให้เข้ามาค้นหาได้
วันที่ 22 ส.ค. 63 เวลา 12.00 น. ตำรวจ สภ.ป่าไร่ จ.มุกดาหาร นิมนต์พระอาจารย์คำนวณ ฐิตญาโน หัวหน้าสำนักสงฆ์เทพนิมิต และผู้ที่อยู่ในสำนักสงฆ์ที่มีความสนิทสนมกับน้องเจี๊ยบ ได้แก่ แม่ชีจิมมี่ และน.ส.พักตร์พิไล ผู้ปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์ มาทำการสอบปากคำ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น้าชายพระรับเอาเงิน "น้องเจี๊ยบ" ไปลงทุน ปัดไม่รู้ปมสาบสูญ แม่เชื่อมีคนซ่อนลูก
- สาวหายปริศนา ญาติคาใจหอบเงินแสนให้วัด พระขวางค้นกุฏิพบรอยเท้าโผล่ใกล้ห้วย
- เจ้าอาวาสแฉสาวสวยหายถูกญาติกดดัน ไม่ให้ค้นวัด - เจอแชตเข้าวัดนิสัยเปลี่ยน
ซึ่งทันที่ที่เดินทางถึงสถานีตำรวจ พระคำนวณปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กล่าวว่า "วันนี้ไม่ขอให้สัมภาษณ์นะ" แล้วเดินเข้าห้องสอบสวนเพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยใช้เวลาสอบปากคำ 3 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ
ล่าสุด มีรายงานว่า พ.ต.อ.ชัชชัย วงษ์สุนะ รองผู้บังคับการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมชุดสืบจังหวัดภูธร จ.มุกดาหาร ได้เบาะแสและติดตามหาตัวพบน้องเจี๊ยบ บริเวณวัดเขาน้อยอภัย ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยน้องเจี๊ยบไปปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 63
นายวิชัย วงละคร น้าของน้องเจี๊ยบ กล่าวถึงความเป็นมาของสำนักสงฆ์เทพนิมิตว่า มีการก่อตั้งในสมัยที่ตนดำรงตำเเหน่งเป็นกำนัน ช่วงปี 2536-2537 ซึ่งโดยพฤติกรรมหลังจากมีการก่อตั้ง มีการทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินเข้าวัด แต่สิ่งที่ตนรับไม่ได้ คือการหลอกลวงชาวบ้าน โดยการประกาศว่าจะช่วยชาวบ้านปลดหนี้ หากใครมีหนี้ให้นำบัตรประจำตัวประชาชน และหลักฐานการเป็นหนี้มาแสดง ทางวัดจะชำระให้ ทำให้มีชาวบ้านหลั่งไหลเข้าวัดเป็นจำนวนมาก หลักพันคนต่อวัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้รับการช่วยเหลือเลย ซึ่งชาวบ้านที่โดนหลอกก็ไม่มีใครกล้าพูด
ทำให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา ซึ่งปัจจุบันคนที่เข้าวัดส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านต่างถิ่น หรือชาวบ้านต่างจังหวัด เพราะชาวบ้านในพื้นที่ไม่นิยมเข้า แม้แต่พระในวัดเดินบิณฑบาต ยังไม่มีชาวบ้านใส่บาตรให้
ทั้งนี้ หายตัวไปของน้องเจี๊ยบ ตนเชื่อว่าน้องเจี๊ยบต้องเดินเข้าวัดแน่นอน เพราะตนเจอรอยเท้าที่หน้าวัด ตั้งข้อสังเกตคือรถตู้ที่ขับสวนทางออกจากสำนักสงฆ์วันที่ 12 อาจเป็นรถที่นำน้องเจี๊ยบออกไป ซึ่งการที่พระไม่ยอมให้ค้นกุฏิ มองว่ามีเงื่อนงำแปลก เชื่อว่าคนในสำนักสงฆ์ต้องรู้ความเคลื่อนไหวของเจี๊ยบ ดังนั้น จึงขอฝากไปถึงคนที่พาเจี๊ยบหนีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ดี
ไทม์ไลน์ ในวันที่ 11 ส.ค.63 ช่วงเช้าญาติพาไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่าป่วยโรคซึมเศร้า กระทั่งเวลา 23.00 น. น้องเจี๊ยบหายตัวออกจาบ้านไปแล้ว ต่อมาวันที่ 12 ส.ค.63 ช่วงเช้าพบว่าพิกัดสุดท้าย รอยเท้า-รองเท้าแตะ ใกล้สำนักสงฆ์ แต่ไม่พบตัว กระทั่งเวลา 01.00 น. พระที่สำนักสงฆ์ได้ยินเสียงสุนัขเท่า กระทั่งล่าสุดวันนี้พบตัวแล้ว
ส.ต.ท.อภิสิทธิ์ ซาเสน พี่ชายน้องเจี๊ยบ และแม่ได้นำน้องเจี๊ยบมาทำการตรวจร่างกาย และพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี พี่ชายเผยความรู้สึกที่ได้พบน้องสาวว่า ตนเองและคุณแม่ก็รู้สึกดีใจที่น้องปลอดภัย แต่ก็เสียความรู้สึกที่สำนักสงฆ์ไม่ยอมบอกความจริงตั้งเเต่เเรก ทั้งที่รู้ว่าน้องเจี๊ยบหนีไปไหน เหตุใดจึงต้องปิดบัง และไม่คำนึงถึงความรู้สึกของครอบครัวที่เลี้ยงน้องเจี๊ยบมา
ซึ่งวันนี้ จากการที่ได้พาน้องมาที่โรงพยาบาลก็สบายใจขึ้นในระดับหนึ่งที่น้องจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จากการพูดคุยกับน้องก็มีความเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาตนก็พูดคุยกับน้องด้วยเหตุผลมาโดยตลอด แต่หลังจากนี้ก็จะรับฟังน้องมากขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น ส่วนกรณีที่น้องเจี้ยบอยากอยู่ที่วัด หากเป็นวัดอื่นที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตนก็ยินดี แต่หากเป็นวัดนี้ขอยืนยันว่าไม่ยอมเด็ดขาด