กรณีนายเสน่ห์ เฟื่องฟู หรือ พรานเก่ง อายุ 42 ปี ได้เข้าไปหาของป่าในพื้นที่ป่า ม.2 บริเวณเขาชมภู่-เขาเขียว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 63 และยังไม่กลับออกมา ทั้งที่มีความชำนาญในการเดินป่า ญาติและชาวบ้านออกตามหาและเชื่อว่ามีชีวิตอยู่นั้น
วันที่ 25 ส.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เขาชมภู่ ซึ่งต้องนั่งรถผ่านฟาร์มไก่เข้าไปที่จุดอำนวยการ บริเวณตีนเขา มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และชาวบ้านหลายสิบคนรวมตัวกัน จากนั้นเดินขึ้นไปบริเวณหน้าพระ ซึ่งเป็นหอพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร จุดที่พรานเก่งเดินขึ้นไปบนเขาก่อนหายตัว
เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ประกอบด้วยทหารจากกรมทหารราบ 21 รักษาพระองค์ฯ กู้ภัยศีลธรรมสมาคม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และชาวบ้าน แบ่งชุดค้นหาออกเป็น 3 ชุด ชุดที่ 1 จำนวน 10 คน มีชาวบ้าน 2 ทหาร 6 คน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 1 คน และเจ้ากู้ภัย 1 คน เดินจากบริเวณหน้าหอพระไปถึงโกรกตารวย จุดที่พบซองกาแฟ
ชุดที่ 2 จำนวน 11 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 1 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัย 5 คน และชาวบ้าน 5 คน เดินจากหุบแม่ม่ายไปถึงโกรกตารวยแบบแนวตรง
ชุดที่ 3 จำนวน 10 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 1 คน ชาวบ้าน 2 คน กู้ภัย 1 คน และทหาร 6 คน เดินจากหุบแม่ม่ายไปโกรกตารวย แบบอ้อมสันเขาแล้วไปบรรจบกัน ซึ่งระยะทางแต่ละจุดห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร
ทีมข่าวลงพื้นที่พร้อมกับชุดที่ 2 โดยต้องนั่งรถกระบะไปยังทางขึ้นหุบแม่ม่าย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประชุมวางแผนและแยกย้ายกันเดินขึ้นไป ในช่วงแรกต้องเดินเรียงแบบแถวตอนตามหลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อาจจะมีกับดักสัตว์ของนายพราน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ปืนผูก" ลักษณะเป็นการผูกสลิงไว้ระหว่างต้นไม้โยงกับปืนที่ซ่อนไว้ เมื่อสัตว์เดินผ่านโดนสลิง กลไกของปืนจะทำงานยิงเข้าที่ตัวสัตว์ทำให้บาดเจ็บได้
จากนั้น เริ่มเดินปูพรมหน้ากระดาน เข้าทางลาดชันทั้งเดินขึ้นและลงเนินเขา ดูร่องรอยต่าง ๆ รวมถึงดมกลิ่นผิดปกติ ซึ่งระหว่างทางพบซากกวางม้าเพศเมีย น่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ก่อนที่จะเดินทางต่อ และเริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยตามลมมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันหาต้นเหตุของกลิ่น แต่ไม่พบ
กระทั่งเดินเข้าเขตโกรกตารวย ร่องน้ำ เริ่มได้กลิ่นมากขึ้น ซึ่งทั้ง 3 ทีมรวมกันออกค้นหาแบบหน้ากระดานลงจากสันเขาไปด้านล่าง แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทีมข่าวไปยังจุดที่พบหลักฐานเพียงจุดเดียว เป็นร่องหินที่มีน้ำใต้ดิน ซึ่งจุดนี้เคยพบซองกาแฟ จำนวน 1 ซองซึ่งคาดว่าเป็นของพรานเก่งที่พกติดตัวมา และมีร่องรอยลักษณะคล้ายคนใช้มือขุดดินเป็นร่องน้ำ รวมถึงรอยเท้ามนุษย์ เชื่อว่าเป็นรอยของพรานเก่ง บริเวณดังกล่าวก็มีกลิ่นเหม็นเน่าอ่อน ๆ เช่นเดียวกัน
นายพิทักษ์ ทูลพุทธา อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ คาดว่าพรานเก่งน่าจะเดินลงมาจากเนินด้านบน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สัตว์ป่าเดินผ่าน ประกอบกับบริเวณด้านบนมีต้นไทร มีผลที่กินได้ และมีแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นน้ำใต้ดินที่สัตว์มากินได้ โดยจากการปูพรมตลอด 9 วันที่ผ่านมาเจอร่องรอยเพียงจุดเดียว และได้กลิ่นเหม็นเน่า ซึ่งยังไม่พบต้นตอของกลิ่น เพราะลมพัดหวน รวมถึงยังระบุไม่ได้ว่าเป็นกลิ่นสัตว์หรือคน ซึ่งเชื่อว่าต้นตอน่าจะต้องอยู่บริเวณโกรกตารวย ใกล้จุดที่พบซองกาแฟ
ทั้งนี้ ตนคิดว่าพรานเก่งมีโอกาสหลงป่าน้อยมาก เพราะเดินป่ามากว่า 30 ปี แต่อาจจะเกิดอุบัติเหตุเช่น งูกัด ตกเขา หรือไปเตะกับดักปืนผูก ซึ่งยังหาไม่เจอ จากประสบการณ์ผู้ที่หลงป่ามีหลายแบบที่หายแล้วมีชีวิตรอด แต่ไม่เคยหายไปนานขนาดนี้
นายเสนาะ เฟื่องฟู น้องชายพรานเก่ง กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าพี่ชายจะหลงป่า เพราะพี่เป็นคนชำนาญเส้นทางมาก ชอบเดินมาตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติการหลงป่าแม้แต่ครั้งเดียว พี่ชายตนมักจะเข้าป่าไปเก็บผักและล่าสัตว์ ส่วนใหญ่มักไปคนเดียว
โดยตนทำใจว่าพี่ชายอาจจะเสียชีวิตแล้ว แม้ว่าแม่และพี่สะใภ้จะเชื่อว่าพี่ชายยังมีชีวิตอยู่ เพราะคิดว่าหากพี่ชายมีชีวิตแล้วหลงทาง จะต้องก่อไฟ หรือยิงปืนส่งสัญญาณให้คนอื่นรู้ คาดว่าพี่ชายอาจเกิดอุบัติเหตุพลัดตกเหวหรือถูกงูกัดในป่า แล้วอาจมีการบังตาเพราะยังไม่พบร่องรอย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าทางบ้านนิมนต์พระจากวัดช่อมะเฟืองมาทำพิธีเปิดป่าที่บริเวณหน้าพระ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำป่า เพื่อให้เปิดทาง
โดยเมื่อคืนนี้ตนฝันเห็นพี่ชายนั่งอยู่กลางป่า เนื้อตัวเลอะด้วยดินทราย ตนพยายามเรียกแต่พี่ชายไม่ตอบรับ คิดว่าพี่น่าจะต้องการบอกอะไรบางอย่างกับตน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ช่วงที่ตนเข้าไปค้นหาพี่ชายในป่าบริเวณเนินเขากรุงศรี ห่างหน้าพระประมาณ 2-3 กิโลเมตร ตนและชุดค้นหานับ 10 คน ได้กลิ่นเหม็นเน่าพยายามหาต้นตอของกลิ่นแต่ไม่พบ ซึ่งก็น่าแปลกใจ
นางประคอง เฟื่องฟู อายุ 60 ปี แม่พรานเก่ง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีพระจากวัดในจังหวัดนครสวรรค์จำนวน 3 รูป เณร 1 รูป มาช่วยทำพิธีบวงสรวงเปิดป่าที่หน้าหอพระ ใช้ดอกไม้ธูปเทียน และปะพรมน้ำมนต์ เพื่อเปิดทางให้เห็นพรานเก่ง
โดยพระระบุว่าลูกขายของตนยังมีชีวิต แต่อาจทำผิดร้ายแรงจนเจ้าที่เจ้าทางโกรธ ไม่ยอมปล่อยตัวออกมา พระบอกว่าได้ช่วยบนบานกับหอพระว่าหากเจอตัวพรานเก่ง จะนำพระพุทธรูปองค์พระพุทธโสธรองค์ใหญ่มาตั้งเพิ่ม ให้รูปปั้นเสื้อ 1 คู่ และงูขาวเผือกอีก 1 ตัว รวมถึงทำบุญ 1 มื้อให้เจ้าป่าเจ้าเขา
ทั้งนี้ พระบอกอีกว่าลูกชายตนอยู่ไม่ไกล แต่ถูกบังตา ต้องให้คนเกิดปีเสือกับปีงูเดินนำจึงจะเจอ ซึ่งตนคิดว่าอาจเป็นเพราะความดุของเสือกับงู และสัญลักษณ์ของเจ้าป่า ซึ่งตนก็มีความหวังว่าจะเจอตัวลูกชาย ที่ผ่านมาไม่เคยฝันถึง พยายามจุดธูปบอกให้มาหาแต่ก็เงียบไป
นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ตนเองจะออกจากบ้านที่ จ.เพชรบุรี ประมาณ 08.00 น. ไปถึงก็น่าจะช่วงบ่าย และตนคงไม่เตรียมของอะไรไปด้วย จะเตรียมแค่น้ำดื่มไปเท่านั้น เพราะจะไปเดินป่า และไปดูจุดที่พรานหายไปด้วย
ซึ่งเมื่อเช้านี้ทางครอบครัวเดินทางมาหาตน ตนก็บอกว่าตนจะเป็นคนพูดตรง ๆ นะ อาจพูดไม่สุภาพ จะรับได้ไหมหากตนไป ทางครอบครัวก็บอกว่ารับได้ ตนก็บอกไปว่าเท่าที่ตนสัมผัสจากรูป คิดว่าพรานป่ายังไม่ตาย น่าจะยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งพรุ่งนี้ตนจะไปพิสูจน์ด้วยว่าเมืองลับแลจะมีจริงหรือไม่ อีกทั้งตนก็ไม่เชื่อด้วยว่าเจ้าป่าเจ้าเขาปิดบังพรานเอาไว้ ตนไม่เชื่อจึงจะไปพิสูจน์