หนังคนละม้วน! โรงเรียนดังโต้กลับ “กานต์” หลังออกมาโพสต์ว่า “น้องลอนดอน” ถูกไล่ออกเพราะลูกไม่สู้คน และไม่มีบุคลากรที่จะดูแลได้ เนื่องจากถูกบูลลี่และทำร้ายร่างกาย จนป่วยเป็นซึมเศร้า พร้อมจะฟ้องโรงเรียน 50 ล้านบาท ฝั่งโรงเรียนฟาดกลับ เหตุผลเดียวที่จะพักการเรียนชั่วคราวคือ ค้างค่าเทอม!!!
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตกับกรณีที่ "กานต์ วิภากร" ภรรยาของร็อคเกอร์ชื่อดัง "เสก โลโซ" ออกมาระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจผ่านโลกโซเชี่ยลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ "น้องลอนดอน" ลูกสาวคนเล็ก โดยเผยว่า “จากเด็กที่ร่าเริงสดใส แต่หลัง ๆ มานี้กลับเปลี่ยนไปไม่ค่อยพูด จนถามไถ่ไปมาได้ความว่า ลูกสาวถูกเพื่อนที่โรงเรียนทำร้ายร่างกาย ด่าทอ หลังทราบเรื่องก็ได้ประสานไปยังโรงเรียนที่น้องลอนดอนเรียนอยู่ แต่ทางโรงเรียนกลับปัดความรับผิดชอบพร้อมแจ้งมาว่าทางโรงเรียนไม่มีคนที่มีคุณสมบัติพอที่จะดูแลน้องลอนดอนได้ จึงขอให้น้องลอนดอนออกจากโรงเรียน”
ล่าสุด โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์กรุงเทพฯ ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยทาง ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารโรงเรียน ได้เผยว่า ข้อมูลที่ "กานต์ วิภากร" พูดไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถูกเพื่อนในห้องรุมทำร้าย หรือเชิญออกจากโรงเรียน
ดร.วีระชัย ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องทำร้ายร่างกายเลย หมื่นเปอร์เซ็นต์ ยอมรับอีกว่า ตนเป็นคนพูดเองว่าอาจจะไม่มีบุคลากรที่ดูแลน้องได้ แต่ไม่ได้เป็นการพูดเพื่อบีบให้ออกจากโรงเรียน ที่พูดแบบนั้นเพราะคุณกานต์ไม่บอกข้อมูลการรักษาของน้องกับตนเลย ขณะที่ตนเคยขอผลการตรวจของจิตแพทย์กับคุณกานต์ตั้งแต่วันแรกที่คุยกันแล้วเพื่อที่จะช่วยดูแลเคสของเด็กได้
ส่วนข้อความในแชทที่ลบไป ก็เพื่อปกป้องเด็ก กลัวเอาไปเป็นเครื่องมือ ซึ่งตนก็ไม่กังวลหากคุณกานต์จะเอาข้อความนั้นไปเป็นหลักฐานเพื่อฟ้องร้อง เพราะเป็นแค่ข้อความถามถึงน้องลอนดอนเท่านั้น แต่ใจตนก็คิดว่าศาลอาจไม่รับฟ้องด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ดร.วีระชัย ยังได้เอาเอกสารที่เป็นข้อตกลงของทางโรงเรียนออกมาให้ดู ว่าต้องมีการลงชื่อเพื่อสัญญาว่าจะไม่ทำผิด หนึ่งในนั้นคือห้ามกลั่นแกล้งเพื่อน ไม่อย่างนั้นจะโดนไล่ออก
ส่วนที่คุณกานต์บอกว่าผู้ปกครองทยอยพานักเรียนออก เพราะสอนไม่ได้เรื่อง ก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเด็กในโรงเรียนนี้ ต่างได้ไปเรียนต่อในที่ดัง ๆ ในต่างประเทศมากมาย
สุดท้าย ตนอยากจะบอกว่า ไม่โกรธที่คุณกานต์ใช้คำหยาบคายถึงตนและโรงเรียน ตนพร้อมให้อภัย และไม่มีความรู้สึกที่อยากจะฟ้องร้อง เพราะไม่อยากให้ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตามขอให้คุณกานต์เข้ามาคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกันจะดีกว่า
ด้าน "มิสคาโรไลน์ ดรัม" ครูใหญ่แผนกประถมศึกษา มีประสบการณ์มา 12 ปี และทำงานที่นี่มา 4 ปี ได้เผยว่าทางโรงเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย จำนวนนักเรียนมีแค่ 20 คน และครู 2 คน ต่อ 1 ห้อง นอกจากนี้ยังมีครูเวรคอยสอดส่องด้วย เพื่อดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในเรื่องของพฤติกรรมการรังแก ซึ่งมีบทลงโทษเข้มงวด โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาก็จะมีเด็กทะเลาะกัน หรืองอนกันบ้าง แต่ถึงกับขนาดกลั่นแกล้งไม่เคยเกิดขึ้นเลย ตนไม่เคยได้รับการแจ้งหรือหลักฐานสักกรณีเดียว
สำหรับขั้นตอนการจัดการเมื่อมีการรังแกกัน ก็จะมีการรายงานครูใหญ่ จากนั้นเก็บข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย แล้วก็หาผู้เห็นเหตุการณ์ สุดท้ายเขียนข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน หลังจากสืบสวนหากพบว่ามีการรังแกกันจริง จะแจ้งผู้ปกครองและผู้บริหารได้ทราบ จากนั้นครูจะวางแผนการช่วยเหลือเด็ก แล้วก็กำหนดบทลงโทษแบบรุนแรงในระยะยาว
ในส่วนของโรงเรียนเราเพิ่งเปิดเทอมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เด็ก ๆ ทุกคนรวมถึง "น้องลอนดอน" ก็มีความสุขที่ได้กลับมาโรงเรียนและได้เจอเพื่อนๆ จนถึงวันนี้ก็ยังมาเรียนตามปกติ และที่ผ่านมาตั้งแต่น้องลอนดอนเรียนที่นี้ (เรียนตั้งแต่อนุบาล) ทางโรงเรียนได้จัดการเรียนแบบพิเศษให้ด้วย เพื่อช่วยเหลือและดูแลน้องให้เรียนได้อย่างมีความสุข แล้วก็ได้เฝ้าดูพัฒนาการน้องมาตลอด อีกทั้งยังคอยดูเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์การถูกบูลลี่ หรือการรังแกแต่อย่างใด ซึ่งชื่อเด็กที่คุณกานต์พูดถึงว่าเป็นคนรังแกน้องลอนดอน ก็ไม่ได้อยู่โรงเรียนนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว
ด้าน คุณมาโนชย์ สังขรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผู้ปกครองสัมพันธ์ ได้เผยว่า เหตุผลเดียวที่ต้องทางโรงเรียนจะเชิญออกหรือพักการเรียนก็คือ การค้างชำระค่าเล่าเรียน ซึ่งจะให้โอกาสได้เรียนต่อเพียงแค่ 2 สัปดาห์ หากไม่ชำระค่าเทอมก็ต้องหมดสิทธิ์การเป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้
โดยที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตอาจจะเพราะสื่อสารกันไม่เข้าใจ แต่เมื่อวันนี้ทางโรงเรียนได้ชี้แจงทุกอย่างไปแล้ว คุณกานต์ ยังทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก ก็ต้องคงออกมาปกป้องเกียรติที่สั่งสมมานานด้วยการฟ้องร้อง
ส่วนเรื่องที่ "กานต์" บอกว่าจะฟ้องทางโรงเรียน 50 ล้านบาท ทางโรงเรียนเผยไม่ได้อยากจะทะเลาะกับใครเพราะเป็นสถานที่ศึกษา และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเอาข้อหาอะไรไปฟ้อง ซึ่งอาจจะกลายเป็นฟ้องเท็จได้ ดังนั้นมาคุยกันดีๆ ดีกว่า