กรณีศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าชิงทองห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี คดีหมายเลขดำที่ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิด 9 ข้อหา ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาสั่งประหารชีวิตนั้น
ล่าสุดในเวลา 08.20 น. วันที่ 27 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่เบิกตัวนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ จำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อมาฟังคำตัดสินพิพากษา ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
โดยศาลเตรียมอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง ซึ่งอดีตผอ.กอล์ฟ มีสีหน้าเรียบเฉย ใส่หน้ากากอนามัย และยกมือไหว้สื่อมวลชนตั้งแต่ลงจากรถของเรือนจำ จนเดินเข้าไปภายในศาล
สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.พ.63 โดยได้สรุปพฤติการณ์ผู้ก่อเหตว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 63 จำเลยซึ่งมีอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธพร้อมเครื่องกระสุน เข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิงนายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างฯ รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไป จนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และน.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า ถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้จำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาทไป ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลาง และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยศาลเห็นว่า ประหารชีวิต และไม่มีเหตุบรรเทาโทษให้แก่จำเลย แม้จำเลยจะพยายามร้องขอ และอ้างว่ามีการชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ร้อง รวมถึงมีคุณงามความดีและให้การรับสารภาพนั้น ศาลเห็นว่า การรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน ที่พนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ทำการสืบหามาประกอบในสำนวน คำสารภาพจึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
ส่วนที่จำเลยอ้างว่าไม่มีเจตนา ในการยิงให้มีผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหวังเพียงประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น จากผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ และวิถีกระสุนเห็นได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างเลื่อนลอย เพราะพฤติการณ์มีการเตรียมการมาก่อนแล้ว
ทั้งนี้ศาลให้จำเลย ชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนตามความเป็นจริง เช่น ค่าปรงศพ ค่าพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนค่าเสียหายที่ชดใช้เยียวยาจิตใจ รวมถึงค่าเสียหายด้านพยาบาลผู้บาดเจ็บ ให้ชดใช้แตกต่างกันไปตามความเสียหายของแต่ละบุคคล รวมเป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างศาลอ่านคำพิพากษา มีญาติของผู้เสียชีวิตรู้สึกสะเทือนใจและร้องไห้ออกมา ขณะที่ญาติของนายประสิทธิชัย ก็นั่งร้องไห้สะอื้นเมื่อศาลให้ลงโทษประหารชีวิต ขณะที่ตัวนายประสิทธิชัยมีสีหน้าหม่นหมอง และหันไปมองญาติที่ร้องไห้บ่อยครั้ง
ต่อมาภายหลังศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา นายอนุชา วงศ์อยู่ และน.ส.วิไลวรรณ ยังรอด พ่อแม่ของน้องไทตัล เด็ก 2 ขวบที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ เปิดใจว่า รู้สึกพอใจที่นายประสิทธิชัย ถูกศาลพิพากษาให้ได้รับโทษสูงสุด ถือว่าได้รับความเป็นทำแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้น ต้องถือเสียว่าเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันมา ส่วนตัวระยะเวลา 6 เดือนที่เสียน้องไป ยังไม่กล้าเข้าไปที่ห้างดังกล่าวอีกเลย เพราะแค่คิดมันก็ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวในวันเกิดเหตุ
ส่วนทางภรรยา ผอ.กอล์ฟ และญาติ ภายหลังจากฟังคำพิพากษาได้เดินทางกลับทันที ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามแต่ได้รับการปฏิเสธ
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางนารี อายุ 38 ปี น้องสาวของภารโรงในโรงเรียนที่ ผอ.กอล์ฟ เคยเป็นผู้อำนวยการ บอกว่า ตนเคารพคำพิพากษาของศาล เพราะความผิดก็ต้องว่าไปตามผิด แต่สำหรับความรู้สึกส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจ และเสียดาย ผอ.กอล์ฟมาก จากที่ตนเจอในทุกครั้ง ผอ.กอล์ฟ จะเป็นคนพูดจาดี อัธยาศัยดี ตนไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกเช้า ผอ.กอล์ฟ จะออกมายืนต้อนรับเด็กนักเรียนที่หน้าโรงเรียนด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ผอ.กอล์ฟ ยังออกตระเวนเยี่ยมบ้านของเด็ก ๆ ด้วยตัวเองทุกครั้ง เพราะดูท่าทางแล้วเป็นคนใจดี เอาใจใส่เด็ก ๆ ทั้งช่วยเหลืออุปกรณ์การเรียน เรื่องอาหาร เอาใจใส่ดีทุกอย่างมาโดยตลอด ส่วนคุณครูที่โรงเรียน ตนยังไม่ได้คุยด้วย แต่ก็คิดว่าทุกคนเสียใจ เรื่องของมิตรภาพทุกคนคงรักในตัว ผอ.กอล์ฟ แต่เมื่อมีความผิดก็คงต้องว่ากันไปตามผิด
ทีมข่าวยังได้เดินทางลงพื้นที่เขต อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายธีรฉัตร นิ่มมา อดีตรปภ.ห้างโรบินสันลพบุรี เหยื่อผู้เสียชีวิตจากการก่อเหตุ ของนายประสิทธิชัย หรือ ผอ.กอล์ฟ
ทีมข่าวได้พบกับ นางเฉลา อายุ 60 ปี แม่ของผู้ตาย อาศัยอยู่ที่บ้านชั้นเดียว แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปเกือบ 8 เดือน แต่นางเฉลา ก็ยังอยู่ในการเสียใจที่ยังเห็นภาพจำ ลูกชายเคยมานอนอยู่ในบ้าน หรือแม้แต่เห็นภาพถ่ายข้างฝาบ้าน ก็จะทำให้ร้องไห้ออกมาทุกครั้ง แต่ก็พยายามทำกิจกรรมเพื่อลดความเครียด ลดความคิดถึงลูก โดยจะออกไปใส่บาตรแต่เช้าที่หน้าบ้าน และในวันพระใหญ่ก็จะไปทำบุญที่วัดบ่อเงิน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณของลูกชาย
ขณะเดียวกันนางเฉลา ยังพาทีมข่าวไปที่ห้องนอนในบ้าน ซึ่งเป็นห้องนอนของนายธีรฉัตร ตอนยังมีชีวิตอยู่ นางเฉลา บอกกับทีมข่าวว่า หลังจากที่ลูกเสียชีวิตไปแล้ว ตนได้เข้าไปทำความสะอาด เก็บเข้าของเอาไว้เป็นอย่างดี จะมีเพียงแค่เรื่องของเสื้อผ้าที่นำไปบริจาค แต่ของใช้อื่น ๆ เช่น ของเล่นเด็ก ๆ เป็นของลูก ๆ นายธีรฉัตร ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ตนจะเก็บและปิดห้องเอาไว้ เว้นแต่ว่าคิดถึงก็จะแวะเวียนเปิดเข้ามาดูบ้างเป็นครั้งคราว
ทั้งนี้หลังจากที่ตนทราบว่า ศาลมีคำสั่งประหารชีวิต แต่ก็ยังมีความกังวลว่า หากเข้าสู่ชั้นศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา จะทำให้รูปแบบของคำสั่งศาลเปลี่ยนไปหรือไม่ จากประหารอาจเปลี่ยนโทษหรือลดโทษ กลายเป็นติดคุกตลอดชีวิตหรือไม่
ครอบครัวของ น.ส.ธิดารัตน์ พนักงานร้านทอง ผ่านมา 6 เดือน ยังทำใจไม่ได้ แม่ของน.ส.ธิดารัตน์ นอนร้องไห้ทุกวัน ส่วนลูกชาย วัย 5 ขวบ ของผู้ตาย มักจะถามหาผู้เป็นแม่เสมอว่าแม่ไปไหน
ขณะที่ครอบครัวของน้องไทตัล รู้สึกพอใจกับคำพิพากษาดังกล่าว แต่ยังคงทำใจไม่ได้เช่นกัน และไม่กล้าที่จะออกไปเดินห้างฯ ที่เกิดเหตุแม้แต่ครั้งเดียว
ครอบครัวของนายธีรฉัตร รปภ.ห้างฯ โรบินสัน ยังทำใจไม่ได้เช่นกันที่ลูกชายเคยนั่ง เคยนอนอยู่ที่บ้าน แต่ทุกวันกลับไม่มีจริงอีกแล้ว แม้แต่ภาพถ่ายที่ติดไว้ฝาบ้าน เมื่อเห็นก็ยังคงนึกถึงลูกชายและร้องไห้ทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่จะมีการอ่านคำพิพากษา ผอ.กอล์ฟ ยังได้หันมามองหน้าพ่อกับแม่ และแฟนสาว ด้วยสีหน้าเศร้าและมีน้ำตาคลอ หลังจากที่เจ้าตัวได้ยินคำตัดสินประหารชีวิต จึงได้เข้าไปก้มกราบญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิต และมีน้ำตาคลอตลอดเวลา
เมื่อสรุปไทม์ไลน์ของ ผอ.กอล์ฟ ในวันที่ 1 มี.ค.62 รับตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน ขณะที่ในวันที่ 21 ก.ค.63 ก็ยังใช้ชีวิตหรูหราตามปกติ ก่อนที่จะมาก่อเหตุในวันที่ 9 ม.ค.63 กระทั่งวันที่ 27 ส.ค.63 ศาลมีคำตัดสินให้ประหารชีวิต