“กานต์ วิภากร” เผยคำพูดโรงเรียนส่อไล่ “น้องลอนดอน” ออก ยันหากโรงเรียน ไม่เคลียร์ เตรียมฟ้อง 50 ล้านชัวร์!

ยังคงไม่จบสำหรับเรื่องราวดราม่าของคุณแม่อย่าง “กานต์-วิภากร ศุขพิมาย” ภรรยาของร็อกเกอร์ชื่อดัง “เสก-เสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาโพสต์ติงโรงเรียนนานาชาติอันดับต้นๆของเมืองไทยอย่าง “โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์กรุงเทพฯ (แคมปัสพระราม 9)” ผ่านทางโซเชียลส่วนตัวประมาณว่า ลูกสาวของตน “น้องลอนดอน” อายุ 10 ขวบไปโรงเรียนแล้วโดนเพื่อนแกล้ง แถมยังโดยรุมทำร้ายอีกด้วย แต่ทางโรงเรียนกลับปัดความรับผิดชอบโดยการให้น้องลอนดอนออกจากโรงเรียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บูลลี่-ทำร้ายร่างกาย ไม่จริง! โรงเรียนดังโต้กลับ “กานต์” พักการเรียนเด็กเหตุเดียวคือ ค้างค่าเทอม!!
- "กานต์ วิภากร" นัดสื่อแถลง โต้ปมค้างค่าเทอม "น้องลอนดอน"
- เผยฤกษ์ดี12 ก.ย. “เสก - กานต์” จัดวิวาห์!!

จนกระทั่งเรื่องนี้ร้อนไปถึงทางโรงเรียนดังกล่าว ทำให้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมาทางผู้ก่อตั้งและทีมบริหารโรงเรียนชื่อดังได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อเป็นการชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยมีใจความสำคัญดังนี้

1. เรื่องลูกสาวของคุณกานต์ที่ถูกกล่าวหาว่าโดนทำร้ายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะกฎเหล็กหนึ่งในทั้งหมดของโรงเรียนคือจะไม่มีการทำร้ายร่างกาย รังแก หรือโพสต์โซเชียลที่ทำให้สภาพจิตใจไม่ปกติ
2. ที่คุณกานต์บอกว่าทางโรงเรียนไม่ให้น้องลอนดอนเข้าเรียน ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
3. ทางโรงเรียนได้มีการตรวจสอบแล้วว่ายังไม่มีการตัดชื่อออกจากโรงเรียนแต่อย่างใด น้องลอนดอนยังสามารถมาเรียนได้ตามปกติ และอีก 1 ประเด็นที่ทำเอา “กานต์ วิภากร” ถึงกับของขึ้นคือ
4. ทางโรงเรียนได้มีการอธิบายว่า “เหตุผลเดียวที่ทางโรงเรียนจะเชิญเด็กออกคือเรื่องค้างค่าเทอม”

เมื่อประเด็นกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลายคนก็ตั้งคำถามว่าที่น้องลอนดอนโดนไล่ออกเพราะคุณกานต์ไม่จ่ายค่าเทอมตามที่ทางโรงเรียนได้มีการอธิบายกฎระเบียบหรือเปล่า ล่าสุดคุณแม่สายฟาดก็ไม่ขอนิ่งเฉย จัดการออกมาโพสต์โต้กลับทางโรงเรียนด้วยข้อความที่ดุเดือดมากๆ โดยมีใจความว่า “อย่าเอาเด็กมาตีค่ากับเงินเลย รวยกันนักก็พูดความจริงกันหน่อย และ เรื่องสุขภาพจิตใจของน้องลอนดอนก็ดีขึ้นตามลำดับเพราะเรารักษามาตั้งแต่รู้เรื่อง พร้อมตอกแรงว่า อย่าดูถูกกันให้มาก คนอย่างตูมีศักดิ์ศรี ไม่เคยติดหนี้ใคร” ก่อนที่จะนัดสื่อมวลชนมาร่วมฟังคำแถลงจากตนในวันนี้

เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “น้องลอนดอน” บอกกับตนมีเพื่อนคนหนึ่งชวนเพื่อนรักของตนมาดึงตนเข้าไปในห้องเพื่อรุมทุบตีตน ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ไม่มีใครเห็นช่วงที่เกิดเหตุ ตัวน้องลอนดอนเองยังงงอยู่เหมือนกันว่า ทำไมเพื่อนที่รักกันถึงทำกับตนได้ เมื่อคุณกานต์รู้เรื่องตนก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรเยอะเพราะกลัวว่าจะเป็นการซ้ำเติมลูก เนื่องจากปัจจุบัน “น้องลอนดอน” ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้

หลังจากนั้นคุณกานต์จึงทำการติดต่อไปยังโรงเรียนตลอด เพื่อให้ทางโรงเรียนโทรกลับมามาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน จนกระทั่งเมื่อ 1 กรกฎาคม (เกือบ 5 เดือน) ทางโรงเรียนก็มีการติดต่อกลับมาและเรียกตนเข้าไปคุย ซึ่งครูคนหนึ่งบอกว่า “น้องลอนดอนผิดปกตินะ”

ส่วนประเด็นที่ทางโรงเรียนแจ้งว่า “เด็กที่บูลลี่น้องลอนดอน ทางโรงเรียนยังไม่ทันไล่ออก แต่เด็กคนนั้นขอลาออกไปก่อนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว” ซึ่งขัดกับคำพูดที่ทางโรงเรียนบอกก่อนหน้านี้ว่า “ในโรงเรียนไม่มีการบูลลี่เกิดขึ้น” ส่วนนี้ตนไม่เชื่อและมองว่าไม่สมเหตุสมผล อาจเป็นเพราะทางโรงเรียนทำลายหลักฐานหรือเปล่า เพราะถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนจริง สำหรับเด็กวัยนี้เมื่อช่วงเวลาผ่านข้ามวัยไปก็ลืมแล้ว

และหลังจากที่เกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายนี้ขึ้น “น้องลอนดอน” ก็มีอาการผิดปกติไปคือเริ่มพูดด้วยถ้อยคำที่ไม่มีเสียงกับตนมาตลอด ส่วนตัวจึงพาลูกไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลมโนรมย์ เพื่อเข้าบำบัดทุกอาทิตย์ ซึ่งคุณหมอก็ได้มีการให้ยาโรคซึมเศร้าควบคู่ไปกับให้น้องลอนดอนวาดรูปอาทิตย์ละ 2 รูปเพื่อวินิจฉัยอาการป่วย

แน่นอนว่าหลังจากที่ทางโรงเรียนได้มีการแถลง ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการยื้อว่าใครจะไปหาใครเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน เพราะทางโรงเรียนก็บอกให้คุณกานต์ไปหา ส่วนคุณกานต์เองก็ยืนกรานว่าทางโรงเรียนจะต้องมาหาตน เพราะมองว่าเป็นเรื่องปกติที่หากนักเรียนมีปัญหาต้องมาเยี่ยมเด็กที่บ้านเหมือนโรงเรียนอื่นทั่วไป

ส่วนประเด็นที่ทำให้คุณกานต์ถึงกับปรี๊ดแตก คิดว่าทางโรงเรียนไล่ “น้องลอนดอน” ออก เกิดจากทางโรงเรียนพูดกับตนว่า “ไม่มีบุคลากรเพียงพอที่จะดูแลเด็กอย่างลอนดอนได้” ตนจึงตีความว่านี่คือการไล่น้องลอนดอนออก และบอกว่าตามกฎหมายแล้วจากกรณีนี้โรงเรียนไม่มีสิทธิเด็กนักเรียนออก ตนจึงยังคงให้น้องลอนดอนไปโรงเรียนตามปกติจนถึงทุกวันนี้และยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปไหนจนกว่าน้องลอนดอนจะเรียนจบระดับชั้นปัจจุบัน พร้อมกับบอกว่าโรงเรียนต้องดูแลลูกตนให้ดีกว่าเด็กคนอื่น ไม่ใช่แค่เหมือนเด็กคนอื่น!

ด้านเรื่องค่าเทอมที่ตัวเองบอกว่าจะไม่จ่าย ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราจากเรื่องที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนไม่ได้มีฟีดแบคอะไรกลับมาหาตนว่าจะให้น้องลอนดอนเรียนต่อหรือยังไง ทั้งๆที่คุณกานต์เองก็ติดต่อไปในทุกช่องทางของโรงเรียนแล้ว แต่ที่ได้กลับมาคือข้อความทวงเงินค่าเทอมที่ค้างไว้ 1 เทอมเป็นจำนวนเงิน 180,000 บาทเท่านั้น ตนและคุณเสกจึงไม่โอเคอย่างมาก ซึ่งในส่วนนี่คุณกานต์บอกว่าอย่างไรก็ตามจะไม่จ่ายเงินถ้าไม่ได้เคลียร์กับทางโรงเรียนก่อน และถ้าทางโรงเรียนอยากจบก็มาหาตนกับน้องที่บ้าน ไม่อย่างนั้นก็จะเดินหน้าฟ้องค่าเสียหาย 50 ล้านบาทตามที่เคยโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ เพราะตอนนี้ตนได้มีการร้องเรียนไปทางกระทรวงศึกษาธิการแล้วเรียบร้อยและทางกระทรวงฯก็กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบโรงเรียนอยู่นั่นเอง