เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 ม.ค. พ.ต.ท.ทวีป เงินดี รองผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม รับแจ้งเหตุรถเก๋งถูกรถยนต์อีกคันขับไล่บี้แล้วตกลงไปตกลงไปในร่องน้ำข้างทาง เหตุเกิดตรงหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. เอกชัย-มหาชัย ถนนเอกชัย ม.4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน กทม. ตกไปร่องน้ำ หน้ารถด้านขวายุบเล็กน้อย กันชนหน้าแตกหลุดออกมา น.ส.วิไลวรรณ มูลทา อายุ 46 ปี เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าของรถยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหน้าที่ยังอยู่ในอาการกลัวและตกใจ
น.ส.วิไลวรรณ เล่าว่า ขณะที่ตนจะขับรถไปทำงานในตัวเมืองสมุทรสาครนั้น ก่อนถึงจุดกลับรถไม่ไกลมากนักมีรถกระบะขับอยู่ข้างหน้าเลนขวาแต่ขับช้ามาก ตนจึงส่งสัญญาณให้ขับเร็วขึ้นหรือช่วยหลบทางให้ทีแต่ก็ไม่เป็นผล
ดังนั้นตนจึงตัดสินใจแซงซ้ายขึ้นมา ซึ่งก็เป็นช่วงระยะกระชั้นชิดใกล้กับจุดกลับรถบริเวณหมู่บ้านเบญจทรัพย์ และตอนนั้นก็มีรถเก๋ง สีดำกำลังกลับรถพอดีเช่นกัน ตนจึงรีบบีบแตร 2 ครั้งเพื่อส่งสัญญาณเตือนว่า อย่าเพิ่งกลับรถออกมาเพราะรถของตนนั้นเบรกไม่ทัน ซึ่งรถเก๋งสีดำก็ไม่ออกมา แต่พอเลยมาได้ไม่เท่าไหร่ตนเห็นรถเก๋ง นิสสันมาร์ชสีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับไล่บี้ตามหลังมาแล้วได้ยินเสียงคล้ายกับเสียงปืนดังขึ้น 3–4 ครั้งติดต่อกัน
น.ส.วิไลวรรณ บอกว่า ด้วยความกลัวตนจึงเร่งเครื่องรีบขับรถหลบหนี แต่รถเก๋งนิสสันมาร์ชยังขับไล่จี้ตามมา จนมาถึงหน้าปั๊มน้ำมันตนจึงตัดสินใจจะหักหลบเข้าไปในปั๊มน้ำมัน แต่ด้วยความเร็วของรถในช่วงจังหวะหักพวงมาลัยนั้น ทำให้รถเสียหลักพุ่งตกลงไปในร่องน้ำข้างทางหน้าปั๊มน้ำมันนั่นเอง
เบื้องต้น พ.ต.ท.อดุลย์ เผ่าพันธ์ศร รอง ผกก.สส.สภ.โคกขาม ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบปลอกกระสุนปืน โดยทั้งนี้ได้สอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุ บอกว่าเห็นรถยนต์นิสสันมาร์ชสีดำขับผ่านไป โดยมีลักษณะเป็นรถแต่งซิ่ง มีท่อรถแบบที่พอเร่งเครื่องแล้วเบาจะมีเสียงดังคล้ายกับเสียงยิงปืน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร และไม่เห็นว่ามีการยิงปืนไล่บี้รถอีกคันหรือไม่
ขณะที่ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนฯ จะติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ และจะติดตามคนขับรถคู่กรณีมาสอบปากคำพร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนสาเหตุคาดว่า น่าจะมาจากความใจร้อนของรถคู่กรณีที่ไม่ พอใจทางผู้เสียหายบีบแตรไม่ยอมเปิดทางให้กลับรถไปก่อน จึงได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวก็เป็นได้