เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 29 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเลี่ยงเมืองอ่างทอง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง
ภายหลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย คือนายประเสริฐ เสวก หรือนายต้อย อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร ถูกยิงเข้าที่ราวนมขวา
นายธีรพล ทวีสุข หรือแบงก์ อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้อง, นายคำนวนเดช ผลปราชญ์ อายุ 25 ปี ถูกยิงที่หัวเข่าซ้าย 1 นัด และนายวิรุต สุจริตภักดี อายุ 38 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าหน้าท้อง 1 นัด ไส้แตก 6 รู ทะลุกระดูกสันหลัง และบริเวณลำตัว 1 นัด
ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยวีอาร์อ่างทอง จึงเร่งนำตัวส่ง รพ.อ่างทอง เบื้องต้นนายประเสริฐ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าร้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ จำนวน 5 ปลอก บริเวณริมถนนพบอาวุธปืนซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
คลิปภาพจากกล้องมือถือ เผยภาพขณะที่นายประเสริฐ เสวก หรือต้อย อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร กำลังมีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่นภายในร้านอาหารถึงผับ ริมถนนสายเลี่ยงเมือง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง
โดยนายประเสริฐ พยายามเดินถอยหลังออกจากร้าน ก่อนที่จะมีวัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งเข้าล็อกคอจนล้มลงและมีเสียงปืนตามมาหลายนัด โดยในคลิปยังมีเสียงตะโกนของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ตะโกนบอกเพื่อนให้เอาปืนมายิง เป็นหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำมาสืบสวนหาผู้ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ยิงกัน
จนนายประเสริฐถูกยิงเข้าที่ชายโครงหลังซ้ายทะลุราวนมขวา และมีพนักงานของร้านดังกล่าวอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ โดยกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นทั้งเจ้าของร้าน และพนักงานภายในร้านอ้างว่านายประเสริบเข้ามานั่งดื่มกินภายในร้าน และมีการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะโชว์ปืน ที่พกมาที่เอวและโวยวายเสียงดัง ก่อนที่จะมีปากเสียงกับกลุ่มเจ้าของร้านและเกิดเหตุการณ์ยิงกัน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน
ทีมข่าวได้เดินทางไปพบ นายธีรพล ทวีสุข อายุ 28 ปี เจ้าของร้านและผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ช่วงเวลา 24.40 น. ร้านได้ปิดแล้ว ซึ่งลูกค้าทยอยกลับ ส่วนตนได้นั่งหน้าร้านอยู่เป็นประจำ ผู้ตายได้เข้ามาถามว่า "เมื่อไรจะปิดร้าน" ตนก็งง เพราะไม่เคยเจอผู้ตายมาก่อน แถมยังอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ จากนั้นนายวิรุตได้ถามผู้ตายว่าเป็นใคร ผู้ตายบอกว่าอย่าเข้ามา พร้อมกับจับปืนบริเวณเอว ตนได้ตะโกนบอกทุกคนในร้านว่า ผู้ตายได้พกปืนมาในร้าน อ้างว่าเป็นตำรวจ และไม่แสดงบัตร จึงทำให้ผู้ตายเกิดความละอาย เดินออกไปนอกร้าน
ก่อนที่นายวิรุต พนักงานตรวจบัตรเข้าไปล็อกตัว ซึ่งนายวิรุต น่าจะลืมไปว่าผู้ตายมีปืน จนผู้ตายได้ล้มลงไป พร้อมกับงัดปืนขึ้นมายิงนัดแรกถูกตนทันที จากนั้นตนได้ยินเสียงปืนอีก ตนพยายามหนีเอาตัวรอด ถกเสื้อขึ้นมาพบว่าถูกยิง โชคดีที่เพื่อนอยู่บริเวณแถวนั้นพาตนมาส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ตายเสียชีวิตได้อย่างไรตนไม่ทราบ เพราะขณะนั้นยังคิดว่าผู้ตายได้หลบหนีไป แต่พอมาถึงโรงพยาบาล กลับเห็นว่าผู้ตายได้ถูกปั๊มหัวใจอยู่
ตนยืนยันว่าไม่ได้ไปหาเรื่องผู้ตายก่อน เพราะตนเพิ่งจะเคยเห็นผู้ตายเป็นครั้งแรก หากตนพูดโกหกขอให้มีอันเป็นไป โดยผู้ตายมานั่งดื่มเพียงลำพัง เวลา 22.00 น. พอดื่มได้สักพักเดินไปที่แคชเชียร์พูดจาหยาบคายกับแฟนสาวของเพื่อน ว่าจำไม่เหรอว่า เมื่อคืนมีอะไรกัน ซึ่งแฟนสาวของเพื่อนได้มาบอก แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดว่าน่าจะเมา
ตนยอมรับว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ดื่มสุราเข้าไป แต่ยังมีสติไม่ได้มึนเมา ไม่มีเหตุที่จะไปทะเลาะอะไรกับผู้ตาย เนื่องจากตนเป็นเจ้าของร้าน ก็ต้องอยากได้ลูกค้า ร้านเปิดมาได้ 1 ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ต่อไปนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนต้องเข้มงวดการรักษาความปลอดภัย เวลาลูกค้าจะเข้าออกต้องตรวจอาวุธปืน ส่วนเรื่องของคดีความ ตนจะต้องปรึกษากับหุ้นส่วนของร้านว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนรวมตนเองด้วย อาการสาหัสคือนายวิรุต ที่ถูกยิงบริเวณลำตัวทะลุ ส่วนตัวถูกยิงบริเวณหน้าท้อง 1 นัด และนายคำนวนเดช ถูกยิงที่ขา อย่างไรก็ตามตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากผู้ตายไม่อารมณ์ร้อน คงไม่เกิดเหตุแบบนี้
ด้านนายคำนวนเดช ผลปราชญ์ อายุ 25 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่ในบาร์น้ำ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้โวยวาย ว่าพนักงานร้านไม่มีบัตรและอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ทำให้ลูกค้ามอง การ์ดของร้านได้ควบคุมตัวออกไป จากนั้นตนได้เห็นว่ามีคนมุงดู จึงเดินออกมาดูที่หน้าร้าน พอมาถึงได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น ตนไม่แน่ใจว่าถูกยิงนัดที่ 1 หรือนัดที่ 2
จากนั้นได้ล้มลงคิดว่าตัวเองต้องรอด เพราะถูกยิงที่เข่า ตนจำไม่ได้ว่าใครพามาส่งโรงพยาบาล และไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยืนยันว่าทางร้านไม่ได้เข้าไปหาเรื่อง เนื่องจากร้านก็ต้องการลูกค้า และผู้ตายเพิ่งจะมาเที่ยวร้านเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางแสวง สุจริตภักดี อายุ 62 ปี แม่ของนายวิรุต ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนได้ทราบข่าวว่าลูกชาย เวลา 02.00 น. โดยหลานสาวได้โทรมาแจ้งว่าย่าพ่อถูกยิง ตนนอนไม่หลับพอเช้ามาจึงรีบมาดู พอมาถึงพบว่าลูกชายฝ่าตัดเสร็จแล้ว ตนได้ถามว่าจำตนได้ไหม ลูกชายก็พยักหน้า และได้หลับไป ซึ่งวินาทีที่เห็นลูกชายหัวใจของตนเจ็บช้ำที่เห็นลูกนอนป่วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบว่ามีความเป็นมาหรือเป็นไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดจันทร์ ต.ทางพะร อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งทางญาติของนายประเสริฐ เสวก หรือต๋อย อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจกรุงเทพมหานคร เหยื่อยิงหน้าผับกลางเมือง เตรียมจัดสถานที่เพื่อทำพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมศพ ยังคงมีเพื่อนบ้านและญาติ ๆ ช่วยกันเตรียมสถานที่ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด
โดยน.ส.ณัฐธิดา จิตรรักษ์ อายุ 22 ปี บุตรสาวกับน.ส.พัชรา คุ้มมงคล ภรรยาคนปัจจุบันของนายประเสริฐ ซึ่งอุ้มท้อง 9 เดือน นำคลิปวินาทีเหตุการณ์ที่นายประเสริฐมีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุนภายในร้านดังกล่าว ก่อนที่จะมีวัยรุ่น 1 คนวิ่งเข้ามาล็อกคอ จนมีเสียงดังขึ้นและมีเสียงตะโกนให้เอาปืนมาตลอดเวลา โดยทั้งสองถึงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่และเข้าไปจุดธูปบอกต่อหน้ารูปถ่ายของนายประเสริฐ เพื่อขอให้ช่วยกันเร่งตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ววัน
ก่อนหน้าที่จะทราบว่า นายประเสริฐเสียชีวิต นายประเสริฐโทรเข้ามาหาเพื่อบอกว่ามีปัญหากับคนมีสีที่อยู่ในร้านแห่งนี้ ซึ่งทางเพื่อนก็รีบให้กลับบ้าน แต่สุดท้ายกลับมาถูกยิงเสียชีวิตเสียก่อน อย่างไรก็ดี ภรรยาสาว ยังได้เปิดแชตที่คุยกันกับสามี ก่อนที่เสียชีวิตให้กับผู้สื่อข่าวดูด้วย
สำหรับศพของนายประเสริฐ ทางญาติจะตั้งสวดอภิธรรมศพไว้จนถึงวันที่ 2 ก.ย.63 และจะทำการฌาปนกิจศพ ณ วัดจันทร์ ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ในวันที่ 4 ก.ย.63
ขณะที่พี่ชายของนายประเสริฐ บอกว่า ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่ากระสุนที่ทำให้น้องชายตาย มาจากปืนของน้องหรือไม่ แค่อยากรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น วันเกิดเหตุน้องไม่ได้ไปคนเดียว แต่เจ้าของร้านกลับบอกว่าน้องชายไปคนเดียว