จากกรณีนายธวัชชัย บุตรวงษ์ อายุ 21 ปี ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คาวาซากิ Z 800 สีน้ำเงิน-ดำ หลุดโค้งเข้าปะทะกับรถเก๋งที่ขับมาช่องทางตรงข้าม บริเวณโค้งภูตาลี่ ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก เขาค้อ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ก่อนนำศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่ จ.มหาสารคาม
ส่วนคนขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า BR-V สีขาวทะเบียน 5 กฐ 9758 กรุงเทพมหานคร คือ นายรณชัย อภิรมรัตน์ หรือนายเอ็ม อายุ 33 ปี และครอบครัวซึ่งนั่งมาในรถเก๋ง มีผู้โดยสารเป็นภรรยา และลูกชายอายุ 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุมีการตรวจร่างกายจนแล้วเสร็จ จึงเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
สุดช็อก! บิ๊กไบก์แหกโค้ง ที่แท้แฟนสาวถ่ายคลิปไว้ระลึก กลับได้ภาพศพเต็ม ๆ
ล่าสุดวันที่ 31 ส.ค.63 ญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาด้วยรถตู้ พร้อมกับนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 5 รูป จากจังหวัดมหาสารคาม มาประกอบพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านตามความเชื่อ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ ๆ และยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ ก่อนที่จะเดินทางกลับทันทีที่ประกอบพิธีเสร็จ
นายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผอ.แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 กล่าวว่า ในเส้นทางสาย 12 แขวงการทางได้สำรวจจุดเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งก็พบว่ามีหลายจุด และมีโครงการนำร่องที่จะแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุฝนตกถนนลื่นหรือผู้ขับขี่ขับเร็วเกินกว่ากำหนด โดยมีหลายแนวทางไม่ว่าจะเป็นการลดความรุนแรงของอุบัติเหตุแนวทางในการป้องกัน ให้ผู้ขับขี่ตระหนักในการขับขี่ รวมทั้งเตรียมที่จะทำแบริเออร์ในปีงบประมาณ 2564 ในจุดเสียงต่าง ๆ ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากพฤติกรรมในการขับขี่ ถ้าไม่เคารพกฎจราจร ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ
ขณะที่ นายธนพัฒน์ เลพล หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตเพื่อนสนิทก็เดินทางมายังบ้านของนายธวัชชัย เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไป บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อน ๆ ต่างจับกลุ่มพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว บางคนถึงกับช็อกเมื่อทราบข่าว เพราะผู้ตายเป็นที่รักของเพื่อน ๆ เป็นคนขยัน และกตัญญูต่อพ่อแม่
นายธนพัฒน์ เลพล เพื่อนคนตาย เล่าว่า ตนกับผู้ตายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมฯ เมื่อจบออกไปต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนต่อและทำงาน โดยผู้ตายนั้นไปค้าขายช่วยพ่อกับแม่ ที่จ.ขอนแก่น และมีความชื่นชอบขี่รถจักรยานยนต์ ตอนที่เขามาที่บ้านก็จะขี่รถจักยานยนต์มาหาตน
ตอนที่ตนทราบข่าวครั้งแรกตนถึงกับช็อกทำอะไรไม่ถูก รีบขับรถมาที่บ้านผู้ตายทันที ซึ่งก่อนหมดลมหายใจเพื่อนที่ไปด้วยกันเล่าให้ฟังว่าเรียกชื่อตน และเพื่อนอีก 1 คนด้วย ตอนเกิดเหตุเขาไปเที่ยวกับกลุ่มไบก์เกอร์ ก่อนจะประสบอุบัติเหตุ ซึ่งไม่นึกไม่ฝันว่า เพื่อนจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้
นายณัฐพงษ์ บุตรวงษ์ พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวก็รู้สึกช็อก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับครอบครัวของตน เท่าที่ทราบจากเพื่อนที่ไปร่วมทริปด้วยกันเป็นขากลับ รอที่จะถ่ายรูป เลยให้น้องผู้หญิงที่ร่วมทริปถ่ายรูปให้ ส่วนที่บอกว่าน้องผู้หญิงเป็นแฟนน้องชายนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเท่าที่รู้คือน้องชายไม่เคยบอกว่ามีแฟน น้องชายไปออกทริปบ่อย ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ ชอบออกทริปไปกับเพื่อน ๆ แต่รายละเอียดเรื่องทริปตนไม่ทราบเลยว่าไปกันกี่คน มีเพียงเพื่อนที่ไปร่วมทริปโทรมาบอกว่าน้องประสบอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ตนจึงได้โทรบอกแม่ และรีบตามไปที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องของความเร็วนั้น ตนเคยบอกน้องว่าให้ขี่รถด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท สำหรับถนนเมืองไทยในการขี่บิ๊กไบก์ต้องระมัดระวัง ไม่ใช้ความเร็วสูง อยากฝากให้ทุกคนระวังอันตราย
สำหรับคู่กรณีได้มีการคุยเบื้องต้นแล้วว่า ให้จัดการเรื่องงานศพของน้องชายให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยมาคุยกัน ถ้าจะถามว่าผิดหรือไม่ ที่น้องชายไปขี่รถบนเส้นทางในลักษณะนั้น ตนมองว่าไม่ควรมากกว่า เพราะน้องขี่รถเร็วเกินไปในที่สาธารณะ ก็ต้องขอโทษคู่กรณีด้วย และขอความเห็นใจให้กับน้องชายของตนบ้าง
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพูดคุยกับนายรณชัย อภิรมรัตน์ หรือ เอ็ม อายุ 33 ปี คนขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า BR-V สีขาวทะเบียน 5 กฐ 9758 กรุงเทพมหานคร เล่าวินาทีชีวิตให้ฟังว่า ตนและกลุ่มเพื่อนเดินทางไปเที่ยวพร้อมครอบครัวที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และวันเกิดเหตุวันที่ 30 ส.ค.63 เวลาประมาณ 13.00 น. อยู่ระหว่างการเดินทางกลับ ซึ่งกลุ่มเพื่อนขับรถยนต์กลับทั้งหมด 4 คัน รถยนต์ของตนขับตามหลังเป็นคันสุดท้าย ก่อนถึงช่วงโค้งภูตาลี่ เพิ่งแวะซื้อของฝากเตรียมกลับบ้าน
ขณะเดินทางกลับ ตนเป็นคนขับรถ ส่วนภรรยาและลูกชายวัย 2 ขวบ นั่งอยู่เบาะหลัง ขณะที่ตนขับรถยนต์มาด้วยความเร็วเพียง 40 กม./ชม. และใช้เกียร์ต่ำมาตามเลนถนนปกติ เนื่องจากเป็นช่วงลงเขา รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์หลุดโค้งพุ่งชนกึ่งกลางหน้ารถของตนอย่างจัง ซึ่งจังหวะนั้นด้วยมุมที่นั่งฝั่งคนขับ ทำให้มองไม่เห็นนาทีที่รถบิ๊กไบค์พุ่งชน แต่ภรรยาซึ่งนั่งเบาะหลัง มองเห็นรถบิ๊กไบก์หลุดโค้งเข้ามา ภรรยาจึงรีบเข้าไปโอบตัวลูกชายวัย 2 ขวบเอาไว้
นายรณชัย เล่าต่อว่า จังหวะที่ถูกบิ๊กไบก์พุ่งชนเสียงดัง “ตู้ม” ดังสนั่นอย่างแรง จากนั้นตนรีบเดินลงจากรถไปอุ้มลูกชาย และพาภรรยาลงจากรถยนต์ไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ครอบครัวตนไม่มีใครบาดเจ็บหนัก มีลูกชายที่ศีรษะกระแทกเบาะรถยนต์ มีอาการอาเจียน จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ภายกลังจากเกิดเหตุ นายรณชัย ยอมรับว่า สติแตก ด้วยอาการตกใจ เสียใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ห่วงลูกและภรรยา ไม่คาดคิดว่าหลังเที่ยวอย่างมีความสุข ต้องมาเจอเหตุสลดใจเช่นนี้ และในที่เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ภรรยามีอาการตกใจ ร้องไห้ตลอดเวลาเพราะเป็นห่วงลูกชาย ส่วนคนขับรถบิ๊กไบก์ ตนเห็นร่างนอนคว่ำหน้า บาดเจ็บอยู่ด้านข้างรถเก๋งฝั่งคนขับ สภาพมีเลือดอาบ นอนแน่นิ่งไป กระทั่งกู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ จึงทราบว่านอนเสียชีวิตคาที่
ส่วนสภาพความเสียหายรถยนต์นั้น ห้องเครื่องยนต์ยุบเข้าไป ไม่สามารถขับต่อได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถยนต์ไปยัง สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนจะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางครอบครัวคู่กรณีอีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากงานศพของหนุ่มขับบิ๊กไบก์แล้วเสร็จ ส่วนกรณีที่จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายหรือไม่ ต้องรอดูประกันและคุยกับทางคู่กรณีก่อน และสุดท้าย ถ้าทางคู่กรณีไม่มีการรับผิดชอบความเสียหายรถยนต์ ตนก็พร้อมยอมรับจ่ายค่าซ่อมเอง เพราะเข้าใจว่าทางครอบครัวก็สูญเสีย ส่วนตนก็รถยนต์เสียหายใช้งานไม่ได้